หลังจากที่มีภาพหลุดชุดแรกของ Lotus Envya หรือชื่อเดิมคือ Type 133 ซึ่งเป็นรถ EV รุ่นที่ 3 ของค่าย Lotus นับตั้งแต่รุ่นแรก Evija ที่เป็นรถ Hypercar พละกำลังสูงสุด 2,000 แรงม้า ตามด้วยรถ SUV รุ่น Eletre ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐาน SEA Platform แบบ Modular ที่ใช้งานร่วมกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Smart#1 ในเวอร์ชั่น SEA2 หรือ Zeekr 001 และ 009 ในเวอร์ชั่น SEA1 ของ Geely ซึ่งทั้งหมดถูกพัฒนาที่ศูนย์วิจัยในประเทศจีน
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่จะถูกจับภาพได้ในบริเวณเมืองชื่อ Mohe ซึ่งตั้งอยู่ในเขตชายแดนทางเหนือระหว่างประเทศจีนและประเทศมองโกเลีย ที่มีอากาศหนาวเหน็บได้ต่ำสุดถึง -58 องศา และยังเป็นพื้นที่ทดสอบระบบขับขี่อัตโนมัติของรถยนต์อีกหลายค่ายเช่นกัน
โดยภาพแอบถ่ายชุดนี้เผยให้เห็นรูปทรงและขนาดคร่าวๆ ของ Lotus Envya ที่มาพร้อมงานออกแบบด้านหน้าใกล้เคียงกับ Eletre ซึ่งมีรถทดสอบพรางตัวเป็นเพื่อน เพื่อเก็บข้อมูลไปพร้อมกัน โดยทั้ง 2 รุ่น อาจใช้ชิ้นส่วนไฟหน้าและไฟ DRL ร่วมกัน
อีกทั้งยังมาพร้อมกระจังหน้าแบบ Active Shuttle Grille ที่ปรับอัตโนมัติตามความเร็วรถ เพื่อลดแรงต้านอากาศ ในทำนองเดียวกัน รูปทรงรถก็พร้อมที่จะสร้างสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ หรือ Cd. ที่น้อยตามแบบฉบับรถ EV ตัวถังซีดานยุคใหม่
ในขณะที่เส้นหลังคาและด้านท้ายของ Envya มีความแตกต่างอย่าง Eletre อย่างชัดเจน โดยเฉพาะสปอยเลอร์บริเวณหลังคาทรงแยก 2 ชิ้น ที่หายไป แต่อาจมาพร้อมสปอยเลอร์แบบ Active ที่บริเวณฝากระโปรงหลังแทน
อย่างไรก็ตาม ทีเด็ดของภาพหลุดชุดนี้ ได้แก่ งานออกแบบภายในที่เผยให้เห็นถึงความแตกต่างกับ Eletre ที่มาพร้อมกับหน้าจอกลางแบบลอยตัว พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ด้านหลังพวงมาลัยที่อาจใช้ร่วมกับ Eletre ในส่วนของผู้โดยสารด้านหน้า ยังสามารถรับชมความบันเทิงได้จากจอแยกส่วนกับจอกลางบริเวณด้านหน้าเช่นเดียวกับรุ่นพี่
ขณะที่คอนโซลอุโมงค์เพลากลางมีรูปทรงแตกต่างกับ Eletre รวมไปถึงเข็มขัดนิรภัยสีแดง เพิ่มความโดดเด่น อีกทั้ง เบาะนั่งด้านหลังแบบแยกส่วน 2 ที่นั่ง พร้อมที่วางแก้วแยกส่วนและที่วางแขนขนาดใหญ่ พร้อมสร้างบรรยากาศปลอดโปร่งด้วยหลังคาซันรูฟ
ในส่วนของข้อมูลทางเทคนิคของขุมพลังไฟฟ้า ยังไม่มีข้อมูลหลุดมาในขณะนี้ แต่ทว่า ทางสื่อต้นทางก็คาดการณ์ว่า จะใช้ร่วมกับ Eletre ที่เริ่มต้นด้วย ขุมพลังมอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ พละกำลังสูงสุด 612 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 710 นิวตัน-เมตร รวมไปถึง รุ่นท๊อปสุดที่เพิ่มมอเตอร์อีก 1 ชุด ทำให้มีพละกำลังสูงสุดกว่า 918 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 985 นิวตัน-เมตร โดยมีแผนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2023
หากมีข้อมูลเพิ่มเติมทาง Headlightmag จะนำมาอัพเดทอีกครั้ง
ที่มา: Carnewschina