กระแสความนิยมรถขุมพลังไฟฟ้าล้วนไม่เพียงแต่สร้างความต้องการทางด้านระบบโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะสถานีชาร์จเพื่อให้เพียงพอต่อปริมาณรถที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบและพบเจอข้อสังเกตต่างๆ ของรถกลุ่มนี้

โดยล่าสุด IIHS (The Insurance Institute for Highway Safety) หรือสถาบันประกันความปลอดภัยทางหลวงแห่งสหรัฐอเมริกาได้ออกมาเปิดเผยว่า น้ำหนักของรถยนต์ขุมพลังไฟฟ้าล้วนที่มีมากกว่ารถยนต์ขนาดเดียวกันซึ่งใช้ขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายใน กำลังสร้างปัญหาในการทดสอบการชน จนทำให้อุปกรณ์ที่มีอยู่อาจไม่สามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้

 

และปัญหานี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงรถ EV ขนาดใหญ่ แต่เนื่องจากรถ EV มีน้ำหนักแบตเตอรี่ที่มาก อีกทั้งยังขยายความจุแบตเตอรี่มากขึ้นทุกวัน จึงทำให้แม้แต่รถ EV ขนาดเล็กก็สามารถมีน้ำหนักเทียบเท่ารถกระบะได้

ผลกระทบที่ตามมาก็คือ ประสิทธิภาพในการใช้เครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่เดิมนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากพารามิเตอร์ที่อ่านค่าได้นั้น อาจมีความคาดเคลื่อนจากรูปแบบที่ถูกกำหนดให้ทดสอบรถยนต์แต่ละประเภทบนพื้นฐานของเครื่องยนต์สันดาปภายใน เนื่องจากการนำรถเข้าทดสอบการชน จะต้องมีเครื่องสำหรับสร้างความเร็วให้กับรถทดสอบ มิใช่การขับเคลื่อนแบบปกติทั่วไป ดังนั้น หากน้ำหนักตัวรถเกินพิกัดที่ออกแบบไว้ อาจเกิดเหตุการณ์ได้อย่างในคลิปวิดีโอข้างล่างนี้

ทางสถาบันความปลอดภัยจึงได้เตรียมปรับปรุงอุปกรณ์เพื่อการทดสอบตั้งทั้งหมดเพื่อให้รองรับน้ำหนักที่เกินพิกัดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเทียบชั้นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ไปเสียแล้ว ยกตัวย่างเช่น GMC Hummer EV ที่มีน้ำหนักกว่า 4 พันกิโลกรัม ซึ่งเกินพิกัดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและอาจต้องใช้ใบขับขี่รถบรรทุกหากอ้างอิงตามกฎหมายในยุโรป เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

ในทำนองเดียวกัน รถ EV ที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเหนืออย่าง Rivian R1T และ Ford F-150 Lightning ต่างก็มีน้ำหนักเกิน 3.5 ตันทั้งสิ้น ซึ่งมากกว่ารถ EV ที่หนักที่สุด ที่ทาง IIHS ได้เคยทดสอบ หรือ Audi E-tron ปี 2019 ซึ่งมีน้ำหนักไม่เกิน 2.8 ตัน เท่านั้น

 

การทดสอบการชนของรถ EV จะต้องอยู่ภายใต้เครื่องมือทดสอบที่เหมาะสม มิเช่นนั้นจะทำให้เกิดอันตรายรวมไปถึงความเสียหายกับอุปกรณ์ทดสอบ หรือผู้ทดสอบที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้

ที่มา: Autoblog