ท่ามกลางสงครามรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) ในตลาดไทยที่คึกคักมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 65 ที่ผ่านมา หนึ่งในผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง NETA ที่เปิดราคาคาดการณ์จำหน่ายของรุ่น NETA V อยู่ที่ 549,000 บาท (ปรับเพิ่มขึ้น 50,000 บาท หลังเซ็นต์ MOU) กวาดยอดจองไปกว่า 7,000 คัน แต่ต้องมาสะดุดลงด้วยไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเซ็นเอ็มโอยู กับกรมสรรพสามิตได้ เป็นเหตุให้ลูกค้าต้องถอนจองไปไม่น้อย ล่าสุด NETA จึงต้องปรับแผนครั้งใหญ่เพื่อไปให้ถึงดวงดาว

แหล่งข่าวระดับสูงในแวดวงยานยนต์เปิดเผย HeadLightmag ว่า บริษัท Neta Auto (Thailand) จำกัด ได้เร่งวางแผนการขึ้นไลน์ผลิตรถในผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่โรงงาน Bangchan General Assembly ในนิคมอุตสาหกรรมบางชันให้เร็วขึ้น คาดว่าภายใน 9 เดือนจะสามารถแล้วเสร็จ เพื่อรองรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่คาดว่าจะมีโอกาสพุ่งสูงถึง 50,000 คัน  ในปี 2566 นี้ รวมถึงเพื่อรองรับนโยบายภาครัฐที่ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากับกรมสรรพสามิต โดยเตรียมงบลงทุนในส่วนนี้ไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ไม่นับรวมวงเงินแบงค์การันตีที่ต้องวางให้กับภาครัฐประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักประกันในการรับการสนับสนุนจากรัฐบาล

 

“ทางเนต้าได้เตรียมลงทุนนวัตรกรรมการผลิตเองอาทิ โรบอต หุ่นยนต์มาช่วยระบบการผลิต เครื่องมือพิเศษต่างๆอาทิ เทสติ้งอีควิปเมนต์  ที่เนต้าต้องลงทุนเอง ซึ่งอยู่ระหว่างวางแผนในรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน”

ทั้งนี้กรมสรรพสามิตระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้รับสิทธิจะต้องผลิตชดเชยการนำเข้า อัตรา 1 : 1 ภายในปี 2567 หรือ 1 : 1.5 ภายในปี 2568 ซึ่งอรุณพลัสในเครือ ปตท. กับ Hon Hai Precision Industry Co., Ltd. (FOXCONN) เพิ่งวางศิลาฤกษ์โรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อําเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี ไปเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งต้องใช้เวลาก่อสร้างและการติดตั้งไลน์ผลิตอีกไม่ต่ำกว่า 2 ปี เป็นเหตุให้เนต้าต้องปรับแผนและได้ลงนามกับโรงงานประกอบรถยนต์บางชันฯ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

 

 

ด้าน อเล็กซ์ เป่า จ้วงเฟย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ความล่าช้าที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการเซ็นเอ็มโอยูที่ล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ ทำให้ไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ได้ แม้จะมีการนำเข้ารถยนต์มาแล้วมากกว่า 1,300 คันในประเทศไทย และอยู่ระหว่างการนำเข้ามาอีก 800 คัน ในเร็วๆนี้  อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะพลิกกลับการเติบโตอย่างรวดเร็วจากมาตรการสนับสนุนด้านราคาของรัฐบาล คาดว่าในปีหน้าตลาดรวมรถยนต์ไฟฟ้า 100% จะพุ่งไปแตะที่ 30,000-50,000 คัน

“ล่าสุดนั้น เราได้ข้อสรุปเป็นการเซ็นสัญญาจ้างผลิตกับบางชันนาน 5 ปี ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการเตรียมการผลิตนาน 12 เดือน โดยจะเริ่มเปิดสายการผลิตได้ทันตามที่รัฐบาลกำหนดเอาไว้ ซึ่งเนต้าต้องลงทุนเพิ่มในโรงงานแห่งนี้อาทิ การปรับสายการผลิต รวมถึงการพัฒนาด้านการขนส่งสินค้าอีกหลายด้าน โดยคาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มอีกมูลค่ามากกว่าหลัก 100 ล้านบาทในโรงงานแห่งนี้  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความร่วมมืออื่นๆที่มีกับทางอรุณพลัสจะจบลง เพราะเนต้ามีแผนระยะยาวสำหรับประเทศไทย ซึ่งในประเทศจีนก็มีการศึกษาและพัฒนารถอีกหลายรูปแบบ แน่นอนว่าอาจจะมีรุ่นที่เหมาะสมสำหรับการผลิตที่โรงงานของปตท.ได้ในอนาคต รวมไปถึงอื่นๆ เช่น การใช้สถานีชาร์จหรือจุดซ่อมบำรุงต่าง ๆ ก็จะเดินหน้าต่อไป”

 

อเล็กซ์ กล่าวต่อไปว่า แม้จะมีการยกเลิกการจองไปมากกว่า 10% จากการจองรถก่อนหน้านี้ แต่มั่นใจว่า ยอดจำหน่ายในปีนี้จะทำได้ใกล้เคียงกับเป้าหมาย 3,000 คันที่วางเอาไว้ และจะเพิ่มขึ้นเป็นไม่น้อยกว่า 1 หมื่นคันในปีหน้า และมีแผนเปิดตัวรถรุ่นใหม่คือ NETA U (เนต้า ยู) ในช่วงกลางปีหน้า

สำหรับตัวแทนจำหน่ายนั้น NETA แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายแล้ว 23 ราย พร้อม Flagship Store 1 แห่ง โดยเป็นดีลเลอร์ในกรุงเทพฯ 9 แห่ง ซึ่งในปีหน้าจะขยายเพิ่มอีกเป็นประมาณ 30 แห่งเท่านั้น


โดย Kanittha Pantong | Headlightmag.com


ราคาอย่างเป็นทางการ NETA V รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) : 599,000 บาท | ปรับเพิ่ม 50,000 บาท หลังเซ็นต์ MOU