Nissan ยื่นกู้งบก้อนใหญ่จากธนาคารในประเทศญี่ปุ่นเป็นเม็ดเงินกว่า 2 แสนล้านเยนหรือเทียบเท่า 5 หมื่นล้านบาทจากธนาคาร Mizuho และ MUFG รวมถึงพาร์ทเนอร์ ภายใต้สัญญาเป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อรองรับการลงทุนในอนาคตภายใต้ชื่อโปรเจค “zero emission mobility investments”
ค่ายรถยนต์จากแดนอาทิตย์อุทัยที่เป็นผู้บุกเบิกในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนซึ่งมี Leaf ที่ขายมายาวนานกว่า 11 ปี เป็นรถ EV รุ่นเริ่มต้นที่มีราคาจับต้องรุ่นแรกๆ ของโลก แต่ในปัจจุบันได้เสื่อมความนิยมลง เนื่องจากมีคู่แข่งโดยเฉพาะจากประเทศจีนสามารถทำราคาใกล้เคียงกันได้ พร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ระบบขับเคลื่อนที่ดีกว่า โดยเฉพาะจุดอ่อนด้านระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ
Nissan Chill-Out concept car
อีกทั้งทางค่ายยังมีแนวโน้มที่จะ มีปัญหาเรื่องเงินลงทุนโดยเฉพาะข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้เรื่องการปรับสัดส่วนการดำเนินธุรกิจร่วมกับหัวเรือใหญ่เมืองน้ำหอม Renault ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนและอาจแยกย้ายกันพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ไม่เหมือนกับที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้
Nissan Hang-Out concept car
โดยเงินทุนดังกล่าวทาง Nissan นำไปใช้ในโปรเจคอื่นๆ ที่นอกเหนือจากจะใช้พัฒนารถ EV แล้วยังใช้สำหรับการปรับปรุงขั้นตอนการผลิต การพัฒนาสถานีชาร์จ เทคโนโลยีพลังงานสะอาดเทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ เทคโนโลยีวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ เพื่อให้ครอบคลุมนโยบายยานยนต์ยุคใหม่เพื่อความยั่งยืน
ด้วยความหวังใหม่กับรุ่น Ariya ซึ่งอัพสเกลและราคาจำหน่ายมาเล่นในกลุ่มรถ SUV ซึ่งกำลังเป็นกระแสนิยม แต่ทว่าก็ต้องมาประสบปัญหาการส่งมอบล่าช้า ตามเทรนด์ขาดแคลนชิปและชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ อย่างไรก็ตามคู่แข่งเองก็ตบเท้าเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดทุกช่วงราคา ทำให้ Nissan ต้องมองหาการพัฒนาเทคโนโลยียุคใหม่ ซึ่งต้องแลกมาด้วยเม็ดเงินลงทุนมหาศาล
ที่มา: Motor1