Stellantis ยังคงรุกหน้าตลาดรถยนต์ขุมพลังไฟฟ้าล้วนอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่ารถยนต์เหล่านี้จะยังถูกสร้างบนงานวิศวกรรมที่ใช้พื้นฐานตัวรถร่วมกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน เพื่อยังคงไว้ซึ่งทางเลือกอันจำเป็นสำหรับผู้บริโภคส่วนใหญ่ แน่นอนว่าตลาดยุโรปสำหรับแบรนด์ Opel และ Vauxhall จะต้องมีทางเลือกขุมพลังไฟฟ้าครบทุกตัวถัง โดยในรถตระกูลเดียวกันที่เป็นฝาแฝดร่วมชายคา Stellantis ได้แก่ Peugeot E-308 ซึ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายน 2022 จึงทำให้หน้าตารถเวอร์ชั่นขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายใน และขุมพลังไฟฟ้าล้วน แทบไม่เห็นความแตกต่างเลยจากภายนอก
ไฮไลท์ก็คือการเป็นรถแวกอนขุมพลังไฟฟ้าล้วนรุ่นแรก จากค่ายรถเมืองเบียร์ ถึงแม้ว่า Porsche จะมีรุ่น Taycan Cross Sport Turismo ทำตลาดไปก่อนหน้านี้ แต่ Stellantis กล่าวว่านั่นไม่ใช่ตัวถัง Wagon
Hatchback
Opel Astra-e ทั้งตัวถัง Hatchback และ Sports Tourer ขุมพลังมอเตอร์เดี่ยวส่งกำลังผ่านล้อคู่หน้า เช่นเดียวกับ Peugeot E-308 ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร อย่างไรก็ตาม Opel ได้ปรับแต่งให้มอเตอร์มีแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 260 เป็น 270 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.
Sports Tourer
แบตเตอรี่ความจุ 51 kWh เท่ากับ Peugeot E-308 ที่ทำงานอยู่บนสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 400V เพื่อให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น สามารถให้ระยะทางต่อหนึ่งการชาร์จสูงถึง 416 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ด้วยระบบชาร์จเร็วกำลังไฟสูงถึง 100 kW สามารถชาร์จจาก 20% ถึง 80% ภายในเวลา 30 นาที นอกจากนี้ยังมีระบบชาร์จไปบ้านแบบ 3 เฟส ด้วยกำลังไฟสูงสุด 11 kW พร้อมโหมดการขับขี่ด้วยคันเร่งเพียงอย่างเดียว ที่ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมการชะลอความเร็วรถ เพียงยกแป้นคันเร่งและจะทำการดึงพลังงานไฟฟ้ากลับไปชาร์จแบตเตอรี่
อย่างไรก็ตามความจุห้องเก็บสัมภาระของรุ่นขุมพลังไฟฟ้าล้วนลดลงอย่างเห็นได้ชัดในรุ่น Sports Tourer จาก 608 ลิตร เหลือ 516 ลิตร ก่อนพับเบาะแถวที่ 2 และจาก 1,634 ลิตร เหลือ 1,553 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวที่ 2
เป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันว่า Stellantis เอาจริงเอาจังกับตลาดรถรถยนต์พลังไฟฟ้าล้วนในยุโรป และพร้อมที่จะยึดพื้นที่ในแถวหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มราคาที่จับต้องได้ พร้อมตอบรับนโยบายการมุ่งเข้าสู่รถยนต์ขุมพลังไฟฟ้าล้วนของสหภาพยุโรปภายในปี 2030
ที่มา: Motor1