หลังจาก BMW M ปล่อยภาพทีเซอร์ไปเมื่อกลางปี 2022 รวมไปถึงมีภาพหลุดในเวลาต่อมาไม่นานนักของรถทดสอบในสนามแข่ง Nürburgring ของ BMW 3.0 CSL ที่เป็นการปัดฝุ่นชื่อเก่ามาใช้ใหม่ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปี ของ BMW M อีกครั้ง (หลังจากปล่อยโลโก้เฉพาะปี 2022 รวมไปถึง M4 CSL เมื่อเดือนกันยายน 2022 ที่ผ่านมา) โดยรุ่นดั้งเดิมจะเป็น 3.0 CSL บนพื้นฐาน BMW E9 ที่เปิดตัวในปี 1972 โดยชื่อ CSL นั่นย่อมาจาก Coupe Sport Lightweight

งานออกแบบด้านหน้ามีความโดดเด่นด้วยกระจังหน้าไตคู่ทรงจตุรัส ซึ่งมีความแตกต่างจาก BMW M ทุกรุ่น โดยเป็นการหยิบยกงานดีไซน์จากรถต้นแบบ 3.0 CSL Hommage concept ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2015 ถูกผลิตขึ้นจากวัสดุอะลูมิเนียมผิวด้านแบบพิเศษ ซึ่งยังนำไปใช้เป็นทริมตกแต่งบริเวณกระจกรอบคันเช่นเดียวกัน กันชนหน้ามีช่องดักกลมทรงกลมนำงานดีไซน์จากรถรุ่นแรก 3.0 CSL ซึ่งนอกจากจะให้ความสวยงามแล้วยังทำหน้าที่ระบายความร้อนให้กับกลุ่มพลังรวมไปถึงระบบเบรกอีกด้วย นอกจากนี้บริเวณหลังคาด้านหลัง ยังมีการติดตั้งครีบรีดอากาศ เป็นอีกจุดที่นำงานดีไซน์ของรถดั้งเดิมมาปรับใช้

 

ไฟหน้า Laser พร้อมรายละเอียดไฟ DRL ภายในโคมสีเหลืองหยิบยกมาจาก M4 CSL เป็นการสะท้อนถึงตัวตนรถแข่งตัวโหดในสนามได้รับแรงบันดาลใจจาก M4 GT3 ฝากระโปรงหน้าและซุ้มล้อหน้ามีการนำเส้นสายรูปแบบใหม่มาใช้ อีกทั้งด้านข้างบริเวณซุ้มล้อหลังยังทำการติดตั้งโป่งล้อทรงย้อนยุค ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยทำให้ล้ออัลลอยสีทองอร่าม Y-spoke ที่ใช้ดุมล้อแบบ Centerlock ขนาด 20 นิ้วที่ด้านหน้า และ 21 นิ้วที่ด้านหลังมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เพิ่มเติมความพิเศษด้วยยางจาก Michelin Pilot Sport 4S ที่สั่งผลิตสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากมีการระบุตัวเลข 50 ปี เป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบของ BMW M

ในขณะที่งานออกแบบด้านท้ายมาพร้อมสปอยเลอร์หลังแบบเต็มชิ้น ที่ให้อารมณ์ตัวแข่งย้อนยุค แต่ก็ผ่านการวิจัยอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ อ้างอิงงานออกแบบจาก 3.0 CSL รุ่นดั้งเดิมเช่นเดียวกัน พร้อมกันชนท้ายที่ถูกออกแบบใหม่ นำเส้นสายจากด้านหน้าและด้านข้างมาปรับใช้อย่างลงตัว ปิดท้ายด้วยไฟท้ายที่ยังคงใช้ร่วมกับ M4 CSL ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

 

3.0 CSL มาพร้อมสีขาว Alpine White Uni เติมแต่งความเป็นตัวแข่งย้อนยุคด้วยลวดลายจาก M graphics ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 50 คัน และต้องผ่านการสั่งซื้อตามช่องทางพิเศษ เนื่องจากแต่ละคันจะถูกผลิตอย่างพิถีพิถัน ชิ้นส่วนตัวถังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ Carbon fibre reinforced plastic (CFRP) ที่ต้องใช้การประกอบด้วยมือเท่านั้น รวมไปถึงชุดท่อไอเสียที่ทำจากไทเทเนียมลดน้ำหนักไปได้กว่า 4.3 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับท่อไอเสียที่ทำจากเหล็ก

 

ภายในมาลุคตัวแข่งเต็มพิกัดด้วยการใช้วัสดุน้ำหนักเบาเช่นเดียวกับภายนอกและโครงสร้างตัวถัง นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง หรือที่ไว้สำหรับเก็บหมวกกันน็อค 2 ตำแหน่ง เบาะนั่งแบบบัคเก็ตซีทเต็มตัวทำจากคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา ที่มีการปรับตำแหน่งการติดตั้งให้เตี้ยติดตัวรถมากที่สุด เพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับขี่และตัวรถให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงทำให้การปรับความสูงและองศาการเอนของเบาะคู่หน้านี้ ต้องพึ่งพาเครื่องมือพิเศษซึ่งจะทำได้ด้วยช่างเทคนิคของ BMW M เท่านั้น แต่สามารถปรับระยะเดินหน้าถอยหลังได้ด้วยคันโยกเหมือนเบาะปกติทั่วไป

พร้อมหัวเกียร์ธรรมดาสีขาวทรงย้อนยุค ปิดท้ายด้วยป้ายบอกความลิมิเตท 50 คัน ชิ้นส่วนอื่นๆ เน้นการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ แต่ทว่ายังคงใช้จอ Idrive แบบ 3-series รุ่นก่อน LCI อยู่เช่นเดียวกับ M4 CSL

 

ขุมพลังและระบบส่งกำลัง

เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง DOHC 24 วาล์วขนาด 3.0 ลิตร (2,998 ซีซี) กระบอกสูบ x ช่วงชัก 84.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.2 :1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection พร้อมระบบอัดอากาศ แบบ TwinPower Turbo แบบเทอร์โบคู่ พ่วง Intercooler พร้อมระบบ Double VANOS และ Valvetronic ให้กำลังสูงสุด 560 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร ที่ 7,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง

ระบบบังคับเลี้ยว

ระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบพาวเวอร์ไฟฟ้า Electric Power Steering พร้อม M Servotronic และ พวงมาลัยอัตราทดแปรผันแบบสปอร์ต Variable sport steering

ระบบกันสะเทือน

ช่วงล่างได้รับการปรับแต่งมาโดยเฉพาะจาก M และใช้ชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเบา พร้อมการปรับ DSC (Dynamic Stability Control) ได้ถึง 10 ระดับ

ระบบกันสะเทือนด้านหน้า เป็นแบบ Double Joint พร้อมโครงสร้างน้ำหนักเบาวัสดุอลูมิเนียม
ระบบกันสะเทือนด้านหลัง เป็นแบบ Five-link พร้อมโครงสร้างน้ำหนักเบาวัสดุอลูมิเนียม

 

ระบบห้ามล้อ

ระบบห้ามล้อเป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ

จานเบรกคู่หน้าทำจาก M carbon ceramic ขนาด 400 มิลลิเมตร แบบมีครีบระบายความร้อน พร้อม คาลิปเปอร์จำนวน 6 พ๊อต
จานเบรกคู่หลังทำจาก M carbon ceramic ขนาด 380 มิลลิเมตร แบบมีครีบระบายความร้อน พร้อม คาลิปเปอร์จำนวน 1 พ๊อต

BMW ยังไม่เผยราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ 3.0 CSL แต่ได้ระบุไว้ว่าใครที่ได้จับของรุ่นนี้ จะต้องรอการสั่งผลิตนานถึง 3 เดือนเป็นอย่างน้อย ด้วยกรรมวิธีและความพิเศษของกระบวนการผลิต

ที่มา: BMW