ตลาดรถมินิแวนขนาดใหญ่ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงอเมริกาเหนือ แต่ยังขยายมาสู่ตลาดประเทศจีน อาเซียนและล่าสุดประเทศออสเตรเลียก็เช่นเดียวกัน โดยรถกลุ่มนี้จะใช้ประตูสไลด์และมีเบาะ 3 แถว ซึ่งในอดีตจะมีเพียงขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายใน หรือแบบ Hybrid ให้เลือกเท่านั้น ยังไม่มีขุมพลังไฟฟ้าล้วนเป็นที่แพร่หลายเท่าไรนัก
โดยรถที่ทุกท่านเห็นอยู่นี้ ผลิตจากค่ายรถยักษ์ใหญ่แดนมังกรอย่าง Maxus ที่อยู่ภายใต้เครือ SAIC ซึ่งจะผลิตเฉพาะรถยนต์อเนกประสงค์เท่านั้น ภายหลังจากการเข้าร่วมกิจการแบรนด์รถยนต์เมืองผู้ดีอย่าง LDV Maxus จนเหลือเพียงชื่อ LDA ในปัจจุบันเท่านั้น รถมินิแวนที่เห็นกันอยู่นี้ คือรุ่น Mifa 9 ซึ่งเป็นฝาแฝดกับ Maxus G90 ในตลาดจีนบ้านเกิด ซึ่งใช้ขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายใน



ภายนอกมาพร้อมไฟหน้า LED ทรงแปลกตา และยังส่งผ่านธีมการออกแบบไฟยังไฟท้ายสุดอลังการ ตลอดความกว้างของตัวรถ และยังลากยาวจรดรอยต่อกันชนหลังและตัวถังอีกด้วย ด้านข้างมาพร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้าบานคู่ เปิดอัตโนมัติแบบ Hands-free



ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อคู่หน้าให้กำลังสูงสุดกว่า 245 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ความจุ 90 kWh จาก CATL ซึ่งสามารถพาเจ้ามินิแวนคันเขื่องเดินทางได้ไกลสุด 440 กิโลเมตรต่อ 1 การชาร์จ พร้อมการชาร์จเร็วจาก 30% ถึง 80% ภายในเวลา 35 นาที ในขณะที่ระบบชาร์จไฟบ้านยังคงใช้แบบ AC 11kW




ภายในมอบความสบายสูงสุดให้กับผู้โดยสารทุกที่นั่ง โดยแบ่งการตกแต่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย ลดหลั่นไปตามอุปกรณ์และการ จัดวางเบาะนั่ง ในรุ่น Luxe มาพร้อมความสบายและความหรูหราขั้นสูด ด้วยเบาะนั่งแถวกลางแบบ Captain seat ขนาดใหญ่ ติดตั้งระบบอุ่นเบาะ ระบบเป่าลมระบายความร้อน รวมไปถึงเบาะนวด พร้อมปรับระดับด้วยไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง และยังสามารถปรับตัวดันหลังได้อีกด้วย พร้อมฟังก์ชั่นรองต้นขาแบบ Ottoman โดยมีระบบปรับอากาศแบบ 3 โซน เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
จอกลางระบบ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้ว นอกจากนี้ยังติดตั้งช่องชาร์จ USB ถึง 7 ตำแหน่ง พร้อม Power Outlet 220V AC


Mifa 9 EV มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 106,000 เหรียญออสเตรเลีย (2,558,045 บาท) ไปจนถึงรุ่น Luxe ราคา 131,000 เหรียญออสเตรเลีย (3,160,931 บาท) โดยทาง Maxus อาจพิจารณาความเป็นไปได้ในการทำตลาดที่ยุโรป
ที่มา: Motor1