Toyota สร้างความฮือฮาให้กับตลาดรถ MPV อีกครั้ง เมื่อมีการแตกรุ่นของรถอเนกประสงค์พื้นฐานรถกระบะขวัญใจแดนอิเหนาอย่าง Innova หรือ Kijang Innova ที่วางจำหน่ายมาแล้วกว่า 6 รุ่น นับตั้งแต่ปี 1976 นับว่าเป็นรถ MPV ที่ถูกสร้างมาเพื่อตลาดอาเซียนโดยเฉพาะ โดยได้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยผ่านชื่อ Innova ในรุ่นที่ 5 ปี 2004 ก่อนที่จะเปลี่ยนโฉมเป็นรุ่นที่ 6 ใช้พื้นฐานร่วมกับ Hilux REVO ในปี 2015
งานออกแบบภายนอกมีความผสมผสานระหว่างรถ SUV 3 แถวขนาดกลาง ในตลาดอเมริกาเหนือรุ่น Highlander เจเนอร์เรชั่นที่ 4 (XU70) กับรถ SUV ขนาด Compact รุ่นยอดนิยมในบ้านเราขณะนี้อย่าง Corolla Cross สลัดภาพลักษณ์ MPV ได้หมดจด
โดย Innova Zenix จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐาน TNGA-C ร่วมกับรถยนต์นั่งหลายรุ่น เช่น Corolla Altis เป็นต้น ไม่ใช่เฟรมแชสซีส์แบบ Innova รุ่นปัจจุบัน โดยเป็นครั้งแรกที่มีขุมพลังไฮบริดเจเนอร์เรชั่นที่ 5 ให้เลือก
(รุ่น 2.0 ลิตร เบนซิน)
(รุ่น Q HV)
ไฟหน้าเป็นแบบ LED ตั้งแต่รุ่น V กระจังหน้าแบบหกเหลี่ยมลายรังผึ้งแนวสปอร์ต พร้อมกันชนหน้าขนาดใหญ่บึกบึน เจาะช่องรับลม 2 ชั้น เสริมความแข็งแกร่ง รวมทั้งฉีกงานออกแบบเดิมๆ ของรุ่นพี่อย่างสิ้นเชิง โดยในรุ่น Q HV จะเพิ่มไฟเลี้ยว LED tube เส้นยาวติดตั้งที่กันชนหน้าด้านล่าง พร้อมไฟตัดหมอก LED
ด้านข้างมีเส้นสายที่บึกบึนด้วยโป่งซุ้มล้อขนาดใหญ่ ฉีกแนวจากรุ่นพี่เช่นเดียวกัน มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น Q ขึ้นไป พร้อมติดตั้งคิ้วกันสาดประตูทั้ง 4 บานมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในขณะที่ด้านท้ายมีความคล้ายคลึงไปทาง Corolla Cross ด้วยไฟท้าย 2 ชิ้น ติดตั้งตามแนวความกว้างตัวถัง พร้อมตกแต่งด้วยคิ้วโครเมียมและสปอยเลอร์หลังกลมกลืนกับฝากระโปรงท้าย พร้อมฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบ Hands-free tailgate แบบสั่งงานด้วยเสียง
มิติตัวถัง
- ความยาว : 4,755 มม.
- ความกว้าง : 1,850 มม.
- ความสูง : 1,795 มม.
- ฐานล้อ : 2,850 มม.
- ระยะต่ำสุดจากพื้น : 185 มม.
(รุ่น 2.0 ลิตร เบนซิน)
(รุ่น Q HV)
(เบาะแถวกลางแบบ Ottoman ปรับองศาการเอนพนักพิงและองศาของที่รองต้นขาด้วยไฟฟ้า)
(มาตรวัดรุ่น 2.0 ลิตร เบนซิน)
(มาตรวัดรุ่น Q HV)
ภายในมาพร้อมคอนโซลหน้าที่อ้างอิงงานออกแบบจากรถมินิแวนประตูสไลด์รุ่นยอดนิยมของค่ายอย่าง Noah / Voxy ด้วยการย้ายคันเกียร์ไปที่บริเวณคอนโซลหน้า ทำให้ชิ้นส่วนตรงกลางของคอนโซลมีความยาวมากกว่ารุ่นก่อน โดยใช้เส้นสายที่เรียบง่ายสบายตา เน้นประโยชน์ใช้สอยตามสไตล์รถมินิแวน มีที่วางแก้วครบทุกที่นั่ง และช่องเสียบ USB จำนวน ตำแหน่ง
เบาะนั่ง 3 แถว หุ้มด้วยหนังสีดำ ตกแต่งด้วยลวดลายทันสมัยในรุ่น Q HV ในขณะที่รุ่น V เบนซิน จะใช้เบาะผ้าทูโทน สีดำ-น้ำตาล ไฮไลท์อยู่ที่เบาะแถวกลางแบบ Captain seat พร้อมที่รองต้นขาแบบ Ottoman ปรับองศาการเอนพนักพิงและองศาของที่รองต้นขาด้วยไฟฟ้า ในรุ่น Q HV พร้อมคอนโซลข้างเบาะนั่งแบบพับเก็บได้ ติดตั้งที่วางแก้วน้ำเช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบัน ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายติดตั้งกล่องเก็บอุปกรณ์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ซ่อนตัวใต้พื้นห้องเก็บสัมภาระ และครั้งแรกกับเบาะแถว 3 พับเก็บได้แบบราบเรียบเฉกเช่นรถ SUV ทั่วไป
(รุ่น G)
(รุ่น V ขึ้นไป)
(จอคู่ขนาด 10 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2)
จอกลางแสดงผลกล้องมองรอบคัน 360 องศา และระบบความบันเทิงขนาด 10 นิ้ว พร้อมจอสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 แบบแยก ซ้าย-ขวา ขนาด 10 นิ้ว ในรุ่น Q HV ขึ้นไป ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลครบทุกที่นั่งทั้ง 3 แถว ปิดท้ายด้วยหลังคา Panoramic บานใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่แถวหน้าและแถวที่สอง ทั้งหมด โดยยังคงมีไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารสีฟ้าอ่อนเช่นเดียวกับ Innova รุ่นปัจจุบัน
มาตรวัดสำหรับผู้ขับขี่แบบ Full-digital ขนาด 7 นิ้วในรุ่น Hybrid ในขณะที่รุ่นเครื่องยนต์เบนซินปกติจะได้มาตรวัดแบบ Analog คู่ พร้อมจอ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว แม่เป็นครั้งแรกของรุ่นที่มีการติดตั้งเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Brake Hold
สำหรับขุมพลังจะมีทางเลือกให้ 2 แบบ ได้แก่ เบนซิน 2.0 ลิตร Hybrid และเบนซิน 2.0 ลิตร
เบนซิน 2.0 ลิตร Hybrid
เครื่องยนต์รหัส M20A-FXS เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร (1,986 ซีซี) กระบอกสูบ x ช่วงชัก 80.5 x 97.6 มิลลิเมตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection D-4S ให้กำลังสูงสุด 152 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 187 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400-5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 113 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร โดยทั้งระบบให้กำลังรวมสูงสุด 186 แรงม้า (PS) แบตเตอรี่แบบ NI-MH ติดตั้งกลางตัวรถ
เบนซิน 2.0 ลิตร
เครื่องยนต์รหัส M20A-FKS เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร (1,986 ซีซี) กระบอกสูบ x ช่วงชัก 80.5 x 97.6 มิลลิเมตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection D-4S พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้า (PS) ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500-4,900 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ Direct Shift-CVT ที่มาพร้อมโหมดการเปลี่ยนเกียร์ Sport Sequential Shiftmatic
(เบนซิน 2.0 ลิตร Hybrid)
(เบนซิน 2.0 ลิตร)
ระบบบังคับเลี้ยว
ระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบ Rack Assist Type Electric Power Steering (EPS)
ระบบกันสะเทือน
- ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ Strut-type Coil Spring
- ด้านหลังเป็นแบบ Torsion Beam
ระบบห้ามล้อ
- ด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อน (Ventilated Disc) จานเบรกขนาด 16 นิ้ว
- ด้านหลังเป็นดิสก์เบรก จานเบรกขนาด 16 นิ้ว
- ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางเบอร์ 205/65 R16 ในรุ่นเบนซิน 2.0 ลิตร และ G HV (hybrid)
- ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางเบอร์ 215/60 R17 ในรุ่น V HV (hybrid)
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางเบอร์ 225/50 R18 ในรุ่น Q HV (hybrid)
(รุ่น G HV)
(รุ่น V HV)
(รุ่น Q HV)
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Q ซึ่งประกอบไปด้วย
- ระบบควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control (DRCC)
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre-Collision System (PCS)
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมหน่วงพวงมาลัย Lane Departure Alert (LDA) และ Lane Tracing Alert (LTA)
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB)
ทำตลาดในประเทศอินโดนีเซียด้วย 7 รุ่นย่อย 2 ขุมพลัง ได้แก่
- Kijang Innova Zenix G เบนซิน : 419,000,000 รูเปียห์อินโดนีเซีย (956,368 บาท)
- Kijang Innova Zenix G HV (hybrid) : 458,000,000 รูเปียห์อินโดนีเซีย (1,045,385 บาท)
- Kijang Innova Zenix V เบนซิน : 467,000,000 รูเปียห์อินโดนีเซีย (1,065,928 บาท)
- Kijang Innova Zenix V HV (hybrid) : 522,150,000 รูเปียห์อินโดนีเซีย (1,191,808 บาท)
- Kijang Innova Zenix V HV (hybrid) Modellista : 532,000,000 รูเปียห์อินโดนีเซีย (1,213,440 บาท)
- Kijang Innova Zenix Q HV (hybrid) : 601,150,000 รูเปียห์อินโดนีเซีย (1,372,126 บาท)
- Kijang Innova Zenix Q HV (hybrid) Modellista : 611,000,000 รูเปียห์อินโดนีเซีย (1,408,225 บาท)
Toyota Kijang Innova Zenix มีให้เลือก 5 สี ได้แก่
- สีขาว Platinum white pearl
- สีเงิน Silver metallic
- สีเทา Grey Metallic
- สีดำ Attitude Black
- สีน้ำตาล DK Steel MC
อีกทั้งยังมาพร้อมชุดแต่ง Modellista ให้เลือกจากโรงงานอีกด้วย
หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมการทำตลาดในประเทศไทยทาง Headlightmag นำมารายงานให้ทราบอีกครั้ง