หลังจากที่ Nissan เปิดตัวรถสปอร์ต Z รุ่นล่าสุดของค่าย ในนาม Z Proto รุ่นสืบทอดความแรงจาก 370Z ที่ได้อานิสงส์เส้นสายการออกแบบจากรุ่นก่อนๆ มาหลอมรวมเป็นรถรุ่นใหม่ เมื่อปี 2020 จนกระทั่งคลอดออกเป็นเวอร์ชั่นผลิตจำหน่ายจริงเมื่อ เดือนสิงหาคม 2021 ก่อนที่จะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงกลางปี 2022 ที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่าจะมีเวอร์ชันสวมอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ Customized Proto ที่เปิดตัวพร้อม รุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นในงาน Tokyo auto salon 2022 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไร้เงาของเวอร์ชั่น NISMO
จนกระทั่งงานจัดแสดงรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่ง 2022 SEMA Show ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 พฤศจิกายน 2022 ณ Las Vegas สหรัฐอเมริกา ทางค่ายก็ได้เริ่มเปิดตัวเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงที่แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดอุปกรณ์ต่างๆ ครบครัน จากสำนักแต่งคู่บุญ NISMO
อุปกรณ์ตกแต่งเชิงเทคนิคเริ่มต้นที่ช่วงล่างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษพร้อมโช้คอัพแบบ Twin-tube ติดตั้งสปริงแบบ Rinear race และสามารถปรับอัตรา Rebound พร้อมความสูง-ต่ำ ของตัวรถให้เหมาะสมตามการใช้งาน อีกทั้งยังมีการติดตั้ง ชุดเหล็กกันโคลงที่สามารถปรับตั้งได้ เหล็กค้ำโช้ค และตัวปรับมุมองศา Camber ที่ด้านหลัง พร้อมอุปกรณ์เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวถังมากยิ่งขึ้น
ซึ่งได้ถูกพัฒนาร่วมกับ Bryan Heitkotter นักแข่งที่สร้างชื่อจากแชมป์รายการแข่งขัน Nissan GT Academy competition ตั้งแต่ปี 2011 จนกระทั่งก้าวขึ้นสู่อาชีพนักแข่งอย่างเต็มตัว และได้เข้าร่วมทีม Chris Forsberg Racing ในปัจจุบัน
ระบบเบรกก็ได้รับการอัพเกรดเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคาลิปเปอร์เบรกหน้า จำนวน 6 พอร์ต หลังจำนวน 4 พอร์ต พร้อมสายเบรกสแตนเลสถัก จานเบรกหน้าและหลังแบบมีครีบระบายความร้อน ล้ออัลลอยแบบ Forged ลาย NISMO LM-RS1 ขนาด 19 x 9.5 นิ้ว ที่คู่หน้า ที่ 19 x 10.5 นิ้ว ที่คู่หลัง เนี่ยโดยลูกค้าสามารถเลือกได้ทั้งสีดำ สีบรอนซ์ Anthracite หรือสีทอง รัดด้วยยาง Bridgestone RE71RS ขนาด 255/40/19 ที่คู่หน้า และ 285/35/19 ที่คู่หลัง
ในส่วนของขุมพลังยังคงเป็นรหัส VR30DDTT เบนซิน V6 DOHC 24 วาล์วขนาด 3.0 ลิตร (2,997 ซีซี) กระบอกสูบ x ช่วงชัก 86 x 86 มิลลิเมตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection พร้อมระบบอัดอากาศ แบบ Twin-Turbocharger พ่วง Intercooler แบบผสม water-to-air ให้กำลังสูงสุด 405 แรงม้า (PS) ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 475 นิวตันเมตร ที่ 1,600-5,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดาแบบ 6 จังหวะ ติดตั้งแผ่นคลัทช์ NISMO แบบ 2 ชิ้น และ Flywheel น้ำหนักเบา ที่พร้อมรับมือแรงม้าได้สูงถึง 800 แรงม้า โดยที่ยังคงสัมผัสในการเหยียบคลัทช์ เฉกเช่นรุ่นปกติ เสริมความดุดันด้วยฝาครอบเครื่องยนต์ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์
ได้มีการอัพเกรดช่องดักลมของท่อไอดีใหม่ ทำให้มีรูปทรงที่เพิ่มอัตราการไหลเวียนอากาศได้มากขึ้น ด้วยการคำนวณจาก NISMO หม้อน้ำจาก NISMO ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนด้วยความจุมากขึ้นถึง 148% ตามด้วยท่อไอเสียสเตนเลสจาก NISMO ปลายท่อขนาด 2.25 นิ้ว
งานตกแต่งภายนอกติดตั้งฝาครอบกระจกมองข้างทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ฝาครอบที่เติมน้ำมันจาก NISMO สคัฟเพลท NISMO หัวเกียร์ NISMO ทำจากไทเทเนียม โดยอุปกรณ์ตกแต่งทั้งหมดนี้จะสามารถสั่งซื้อได้จากตัวแทนจำหน่าย Nissan ในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2023
ที่มา: Nissan