BMW ได้รุกตลาดรถ EV หนักด้วยการตอบรับนโยบายของรัฐบาลสหรัฐ จากการลงทุนกว่า 1 พัน ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเพิ่มสายพานการผลิตรถ EV ของค่ายโดยเฉพาะ ที่ Spartanburg รัฐ South Carolina รวมไปถึงการอัดฉีดเพิ่มอีก 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถ EV ที่ Woodruff รัฐเดียวกัน เมื่อรวบเม็ดเงินทั้งหมดกว่า 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือว่าเป็นการลงทุนครั้งเดียวที่คิดเป็นจำนวนเงินสูงสุดเป็นประวัติกาล
นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรจากแดนมังกรอย่าง Automotive Energy Supply Corporation (AESC) ที่เตรียมสร้างโรงงานผลิตเซลล์แบตเตอรี่ ในรัฐ South Carolina เช่นเดียวกัน ซึ่งมีกำลังการผลิตสูงถึง 30 GWh เพื่อเป็นอีกแหล่งชิ้นส่วนของ BMW
อย่างไรก็ตามนโยบายล่าสุดของทางการสหรัฐ อาจส่งผลกระทบต่อการนำเข้าชิ้นส่วนเซลล์แบตเตอรี่จากจีน ที่ไม่ได้สิทธิพิเศษทางภาษี จึงทำให้บริษัทรถยนต์หลายเจ้าต้องหาพันธมิตรร่วมกับค่ายแบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่แดนมังกร เพื่อตั้งโรงงานผลิตในสหรัฐ
การต่อต้านการนำเข้าชิ้นส่วนแบตเตอรี่อาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าในปัจจุบันและอนาคตได้ เนื่องจากธุรกิจผลิตเซลล์แบตเตอรี่นั้นไม่ได้มีกระจายอยู่ทั่วโลก อีกทั้งยังมีปริมาณธาตุที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบต้นทางที่จำกัด จึงควรมีความหลากหลายทางด้านแหล่งทรัพยากรที่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ให้ได้มากที่สุด
เมื่อหันมามองทาง BMW ที่เตรียมเข็นเซลล์แบตเตอรี่รุ่นใหม่ ซึ่งมีความหนาแน่นของพลังงานเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมถึง 20% และยังสามารถประจุไฟได้เร็วขึ้นกว่า 30% โดยเตรียมเปิดโรงงานผลิตเซลล์แบตเตอรี่อีก 4 แห่ง ในภูมิภาคยุโรป และอีก 1 แห่งที่ประเทศจีน อีกทั้งยังมีแผนสร้างโรงงานใหม่แห่งที่ 6 ที่ยังไม่มีแผนว่าจะสร้างที่ประเทศใดในขณะนี้ ขึ้นอยู่ความกระแสความต้องการของตลาดในอนาคตอันใกล้
โดยโรงงานที่ South Carolina ซึ่งมีอายุงานกว่า 30 ปี จะรับหน้าที่ผลิตรถ EV เป็นจำนวนอย่างน้อย 6 ล้านคัน นับจากนี้มีการจ้างงานเพิ่มอีกกว่า 11,000 อัตรา เพื่อรองรับปริมาณการผลิตรถ EV 450,000 คันต่อปี ภายใต้เงินสนับสนุนจากทางการกว่า 65 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อช่วยให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่เช่นนี้ในรัฐ South Carolina
ที่มา: Reuters