Mercedes-Benz เปิดตัว A-class Facelift ไปเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2022 ยังมี Minivan แฝดผู้พี่ที่ใช้พื้นฐานร่วมกันอย่าง B-Class Minorchange เปิดตัวพร้อมกันรวดเดียว ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ BMW 2-series Active Tourer รุ่นล่าสุดที่เพิ่งจะเริ่มส่งมอบในยุโรปเมื่อกลางปี 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงก็เป็นไปในแนวทางเดียวกับ A-Class คือเปลี่ยนแปลงเพียงแค่เล็กน้อย เรียกได้ว่าแทบจะจำไม่ได้

Mercedes นิยามรถ Minivan ของพวกเค้าว่าเป็นรถ Sports Tourer ซึ่งได้รับการปรับปรุงโฉมไฟหน้าแบบ LED พร้อมกระจังหน้าปรับปรุงใหม่ รายละเอียดเดียวกับรุ่น A-Class นอกจากนี้ยังเปลี่ยนลายเส้นกันชนหน้าและงานออกแบบด้านท้ายใหม่เช่นเดียวกัน ล้ออัลลอยลายใหม่ 4 ลาย ใช้ร่วมกันกับ B-Class ที่มีขนาดใหญ่สุดถึง 19 นิ้ว และมีออฟชั่น AMG Line ให้เลือกตกแต่งสำหรับทริมสีดำเงารอบคัน พร้อมล้ออัลลอยลายใบพัด

 

ภายในมาพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มาพร้อมธีมการแสดงผล 3 ธีม ได้แก่ Classic Sport และ Discreet โดยสามารถอัพเกรดเป็นขนาด 10.25 นิ้วได้ ในขณะที่กลางติดตั้งขนาด 10.25 นิ้วมาให้ พร้อมยกเลิกทัชแพดควบคุม สำหรับระบบ MBUX แทนที่ด้วยระบบเซนเซอร์จับรอยนิ้วมือ และระบบสั่งงานด้วยเสียง Hey Mercedes รุ่นใหม่

นอกจากนี้ยังมีเบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุรีไซเคิล เพิ่มการตกแต่งภายในลายกราฟิกรูปดาวที่บริเวณคอนโซลหน้า พวงมาลัยท้ายตัดแบบใหม่หุ้มด้วยหนัง Nappa พร้อมระบบอุ่นเป็นครั้งแรกในรุ่น AMG พร้อมติดตั้งกล้องมองหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

 

ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ 1.3 ลิตรและ 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์ พร้อมระบบ Mild-hybrid 48 V ที่ช่วยเพิ่มพละกำลังอีก 14 แรงม้า (PS) ตั้งแต่จุดหยุดนิ่ง และทำหน้าที่เป็นมอเตอร์สตาร์ทภายในตัว ในรหัสรุ่น B 180 B200 B 220 4MATIC และ B250 4MATIC ในขณะที่เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร มีให้เลือก 3 ระดับความแรงได้แก่ B 180 d B200 d และ B 220 d

ไฮไลท์อยู่ที่ขุมพลัง Plug-in hybrid ให้เลือกสำหรับรุ่น B 250 e โดยใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.3 ลิตร พ่วง turbocharger ให้กำลังสูงสุดรวมที่ 218 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุดรวม 450 นิวตัน-เมตร มาพร้อมระยะทางวิ่งสูงสุดผ่านระบบไฟฟ้าได้ถึง 67-77 กิโลเมตร ซึ่งสามารถชาร์จไฟ AC ด้วยกำลังสูงสุด 11 kW และ DC ด้วยกำลังสูงสุด 22 kW โดยใช้เวลาเพียง 25 นาที ในการชาร์จจาก 10-80% และให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.6 วินาที

 

นอกจากนี้ หากติดตั้งแพ็คเกจ Driver Assistance จะได้รับระบบช่วยรักษาให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist system และ ระบบช่วยบังคับตัวรถ Active Steering Control ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่อีกด้วย

อย่างไรก็ตามการปรับโฉมคิวต่อไปเป็นของ CLA และ CLA Shooting brake ซึ่งอาจจะใช้แนวทางเดียวกันกับ A-Class และ B-Class ด้วยการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย เน้นการปรับออฟชั่นและขุมพลังมากกว่า

ที่มา: Motor1 , Carscoops