Nissan เดินหน้าผลิตรถแวนเพื่อการพาณิชย์สำหรับตลาดยุโรป Townstar EV ที่มาแทนที่ e-NV200 สำหรับตลาดยุโรป โดยมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า 100% ถือว่าเป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Renault-Nissan-Mitsubishi Alliance หรือ CMF-C platform ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อรองรับความหลากหลายของประเภทรถและประเภทของขุมพลัง ตั้งแต่เครื่องยนต์สันดาปภายใน ระบบไฮบริด จนกระทั่งขุมพลังไฟฟ้า 100%

Townstar EV ผลิตขึ้นที่โรงงานในเมือง Maubeuge ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นโรงงานใหญ่ของ Renault ทำการผลิต Kangoo Van E-TECH Electric ซึ่งก็คือแฝดคนละฝาของ Townstar EV นั่นเอง รวมไปถึงค่ายรถจากเมืองเบียร์อย่าง Mercedes-Benz อย่าง eCitan cargo van และ EQT passenger van

เมื่อเป็นเช่นนี้ข้อมูลทางเทคนิคของ Townstar EV จึงเปรียบเสมือนรถรุ่นเดียวกันกับ Kangoo และ Citan โดยจะใช้แบตเตอรี่ที่ระบายความร้อนด้วยน้ำและสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 300 กิโลเมตรภายใต้มาตรฐาน WLTP อย่างไรก็ตามการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของรถไฟฟ้าจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีระบบ Heat pump ที่ช่วยลดความร้อนส่วนเกิน ขณะที่รถกำลังเผาผลาญพลังงาน โดย Nissan เคยใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ สำหรับแบตเตอรี่ในรถรุ่น Leaf

แบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแบบ NMC มีน้ำหนักอยู่ที่ 316 กิโลกรัมและทำงานภายใต้สถาปัตยกรรมแรงดันไฟฟ้า 240-408 V สามารถชาร์จไฟด้วยไฟ AC 3 เฟส โดย Onboard charger แบ่งเป็น 2 ระดับได้แก่กำลังสูงสุด 11 kW และ 22 kW ขณะที่ระบบชาร์จเร็วด้วยไฟ AC จะใช้พอร์ตแบบ CCS2 ซึ่งแตกต่างจากนิสสัน Leaf และ e-NV200 กำลังไฟสูงสุด 80 kW หรือชาร์จจาก 15% ถึง 80% ภายใน 37 นาที และจาก 0% ถึง 100% ภายในเวลา 2 ชั่วโมง 25 นาที

เมื่อเกิดมาเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ จึงต้องมีความสามารถที่จะรองรับน้ำหนักบรรทุกได้มากเพียงพอโดยทาง Nissan เคลมว่า Townstar EV จะสามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ตั้งแต่ 600 ถึง 800 กิโลกรัมและยังมีความสามารถในการลากจูงสูงถึง 1500 กิโลกรัม โดยจะมีขนาดห้องเก็บสัมภาระให้เลือก 2 รูปแบบได้แก่ 3.3 ลูกบาศก์เมตรและ 4.9 ลูกบาศก์เมตร

ราคาจำหน่ายของ Townstar EV อยู่ระหว่าง 34,000 ถึง 35,000 ยูโร (1,249,755-1,286,845 บาท) ซึ่งถือว่ามีราคาสูงกว่าเกือบครึ่งหนึ่งของ Townstar รุ่นเริ่มต้น มาพร้อมการรับประกันตัวรถเป็นระยะเวลา 5 ปี เมตรหรือ 160,000 กิโลเมตร ในขณะที่แบตเตอรี่จะรับประกันสูงถึง 8 ปีโดยจะต้องมีระดับของ State-of-Charge ไม่ต่ำกว่า 70%

ที่มา: Insideevs