ย้อนกลับเมื่อช่วงปี 1970 Godfrey Qualls ผู้เป็นเจ้าของ Dodge Challenger RT SE (special edition) สีดำ จำนวนจำกัดเพียง 22 คัน วางเครื่องยนต์เบนซิน 426 Hemi V8 เดินสายซิ่งควอเตอร์ไมล์ไปทั่วเมือง Detroit ยามค่ำคืนจนได้รับฉายา “Black Ghost” และ Dodge ก็ได้นำฉายานี้มาใช้เป็นชื่อรถ Challenger รุ่นสุดท้ายเพื่อรำลึกถึง
ภายนอกได้รับการแต่งหน้าตาปากเพิ่มเติมเพื่อให้สมกับการเป็นรุ่นพิเศษ โดยสิ่งที่โดดเด่นที่สุด คงจะหนีไม่พ้นลวดลายบริเวณหลังคา ซึ่งทำออกมาเป็นลายหนังจระเข้สีดำ ทำให้นึกถึงต้นฉบับของ Dodge Challenger RT SE (special edition) Black Ghost ตั้งแต่ปี 1970 พร้อมคาดลายสีขาว ที่บริเวณฝากระโปรงท้ายตลอดจนแนวซุ้มล้อด้านหลัง และติดตั้งตราสัญลักษณ์ Black Ghost รวมไปถึงตรา Challenger แบบ Classic ที่บริเวณซุ้มล้อหน้าอีกด้วย ในขณะที่ตราสัญลักษณ์ SRT มาในสีเงินสว่าง ที่บริเวณกระจังหน้า ล้ออัลลอยขนาด 20×11 นิ้ว สีเงินซาติน ฝาเติมน้ำมันสีเงิน
ภายในมาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มด้วย Alcantara สีดำ และตราสัญลักษณ์บ่งบอกความพิเศษของรุ่นอย่าง Black Ghost ที่ติดตั้งไว้บริเวณคอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสาร
จากที่ได้เปิดตัว Dodge Charger King Daytona สีส้มจี๊ด เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งมาพร้อมขุมพลัง เบนซิน V8 HEMI ขนาด 6.2 ลิตร พ่วงซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ โดยในส่วนของ Dodge Challenger Black Ghost ก็ใช้เครื่องยนต์บล๊อคเดียวกันจาก Challenger Hellcat Redeye เพียงแต่มีอัพเกรดแรงม้าจาก 797 เป็น 807 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 959 นิวตัน-เมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หลัง พร้อมระบบเบรกจาก Brembo คาลิปเปอร์แบบ 6 พ๊อต พ่นสีคาลิปเปอร์เป็นสีดำ
สำหรับ Dodge Challenger Black Ghost จะถูกผลิตจำนวนจำกัดเพียง 300 คัน และเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน 2022 SEMA Show ในฐานะรุ่นสุดท้ายของ Last Call series เป็นรุ่นที่ 7 โดยทั้งหมดจะนำไปจัดแสดงให้ยลโฉมคันจริงในงาน 2022 SEMA Show ตั้งแต่วันที่ 1-4 เดือนพฤศจิกายน 2022 นี้
ที่มา: Motor1