หลังจากมีภาพหลุดจากสื่อญี่ปุ่นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็ถึงคราว Toyota Motor Corporation ได้ฤกษ์เปิดตัว Sienta รุ่นที่ 3 อย่างเป็นทางการ โดยจะถูกสร้างบนพื้นฐานตัวถัง TNGA (GA-B) platform ร่วมกับ Yaris ยุโรป/ญี่ปุ่น Aqua และ Yaris Cross

งานออกแบบภายนอกเน้นเส้นสายที่เรียบง่าย โดยเพิ่มพื้นที่กระจกรอบคัน เพื่อให้ภายในห้องโดยสารมีความโปร่งโล่งสบาย อีกทั้งยังให้พื้นที่การขยับปรับเปลี่ยนการใช้งานของผู้โดยสารภายในรถได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเส้นสายด้านข้างรถที่เป็นแนวขนานกับพื้น พร้อมกันตกแต่งชายล่างด้วยวัสดุสีดำ เพิ่มมิติและความแตกต่างเมื่อเทียบกับรถรุ่นเดิม มาแนวทะมัดทะแมงมากยิ่งขึ้น ด้วยเส้นสายที่มีความโค้งมน โดยเฉพาะตามมุมขอบต่างๆ ที่ Toyota เรียกไอเดียการออกแบบนี้ว่า “Shikakumaru” ทำให้ตัวรถที่มีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถให้พื้นที่การใช้งานที่ใหญ่เกินตัว

 

ไฟหน้าแบบ LED ทุกรุ่น แต่รุ่น Z จะได้เป็นแบบ Bi-Beam Projector LED พร้อมไฟท้ายแบบ Full-LED ในขณะที่ประตูข้างเลื่อนด้วยไฟฟ้ามีให้เลือกติดตั้งระบบ Hands-free ในรุ่น Z เช่นเดียวกัน ในรุ่น X และ G จะไม่มีให้เลือก

 

 

มิติตัวถัง:

  • ความยาว: 4,300 มม.
  • ความกว้าง: 1,695 มม.
  • ความสูง: 1,670 มม.
  • ระยะฐานล้อ: 2,750 มม.
  • รัศมีวงเลี้ยว: 5.0 ม.

 

ภายในมาพร้อมพื้นที่ห้องโดยสารพอเพียงกับทุกคนในครอบครัวโดยแบ่งเป็นรุ่น 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่งตามความต้องการของลูกค้า มีการตกแต่งคอนโซลหน้าด้วยวัสดุผ้า คุณภาพสูง ทำให้บรรยากาศในห้องโดยสารเปรียบเสมือนห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ มาพร้อมช่องเก็บของที่วางแก้วตามจุดต่างๆ อย่างครบครัน พร้อมช่องชาร์จไฟ USB บริเวณด้านหลังเบาะคู่หน้า พร้อม Power Outlet 100V 1500W 2 ตำแหน่ง ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ม่านบังแดดประตูสไลด์ทั้ง 2 บานให้เลือกติดตั้งในรุ่น Z อีกด้วย

อีกทั้งลูกค้ายังสามารถเลือกสีการตกแต่งภายในห้องโดยสารได้มากถึง 3 แบบ ได้แก่ Bright Fromage Calm และ Relaxing Black พร้อมสี Khaki เป็น ออฟชั่นให้เลือกติดตั้งเพิ่มเติม

 

ห้องโดยสารมีความสูงเพิ่มขึ้น 20 มิลลิเมตร ด้วยการปรับเส้นสายตัวถังด้านข้างใหม่ และขยายพื้นที่กระจกรอบคัน นอกจากนี้ ยังมีระยะระหว่างเบาะแถวที่ 1 และ แถวที่สอง มากสุดถึง 1,000 มิลลิเมตร อีกทั้งยังมีนะยะความสูงพื้นรถเพียง 330 มิลลิเมตร ทำให้การเข้า-ออกตัวรถ เป็นไปได้อย่างง่ายดาย กับผู้สูงอายุและเด็ก ประตูสไลด์มีช่องเปิดความสูง 1,2000 มิลลิเมตร มากกว่ารุ่นเดิม 60 มิลลิเมตร ในขณะที่ฝากระโปรงท้ายก็มีระยะความสูงเมื่อเปิดสุดอีก 15 มิลลิเมตร พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระยาวมากขึ้นอีก 20 มิลลิเมตร

 

ระบบความปลอดภัยจัดมาให้เต็มพิกัด ด้วย Toyota Safety Sense Pre-collision Safety System และ Proactive Driving Assist ที่เพิ่มความสามารถในการตรวจจับ รถมอเตอร์ไซค์ ในเวลากลางวัน คนเดินเท้า คนขี่จักรยาน ท่ามกลางสภาพการจราจรที่หนาแน่น โดยตัวรถสามารถช่วยผู้ขับขี่ให้ควบคุมเบรกและคันเร่งให้อยู่ในระยะปลอดภัยตามจุดตัดแยกจราจรต่างๆ

พร้อมระบบช่วยจอด Advanced Park ที่จะเข้ามาควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง รวมไปถึงการเปลี่ยนเกียร์ พร้อมกล้องมองรอบคัน 360 องศา ช่วยแสดงระยะและตำแหน่งของล้อรถที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย รวมไปถึงกล้องบันทึกภาพหน้า-หลังอีกด้วย

 

 

ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระ MacPherson strut ด้านหลังเป็นคานบิด Torsion beam

 

 

ขุมพลังมีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่

  • เบนซิน 1.5 ลิตร

เครื่องยนต์เบนซิน M15A-FKS แถวเรียง 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1,490 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 97.6 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 120 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 – 5,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Direct-Shift CVT พร้อม Sport Sequential Shiftmatic 10 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร

 

 

  • เบนซิน 1.5 Hybrid

เครื่องยนต์เบนซิน M15A-FXE แถวเรียง 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1,490 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 97.6 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 120 นิวตันเมตร ที่ 3,800 – 4,800 รอบ/นาที ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว

  • มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้า 1NM AC Synchonous Motor กำลังสูงสุด 80 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร
  • มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหลัง 1MM AC Induction Motor กำลังสูงสุด 30 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 44 นิวตันเมตร

แบตเตอรี่ Lithium-ion 6.5 Ah จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ ขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four

 

 

Sienta ใหม่มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี รวมไปถึงสี ทู-โทน อีก 2 สี ได้แก่ สีส้ม Scarlet Metallic-หลังคาสีเทา Dark grey และ สีฟ้า Grayish Blue-หลังคาสีเทา Dark grey

 

มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ X G และ Z โดยรุ่น X 1.5 Dynamic Force 5 ที่นั่ง ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ราคา 1,950,000 เยน (512,505 บาท) ไปจนถึงรุ่น Z 1.5 Hybrid 7 ที่นั่ง ขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four ราคา 3,108,000 เยน (817,376 บาท)

ที่มา: Toyota