ย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 ที่งาน Munich Motor Show ได้มีการเปิดตัวรถต้นแบบ iX5 Hydrogen ที่ใช้พลังงานจาก hydrogen fuel cell เป็นตัวถังที่พัฒนาต่อยอดจาก โดยมีกำหนดที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการพัฒนาภายในปี 2022 นี้ และทาง BMW ได้ออกมายืนยันแล้วว่า รถรุ่นนี้จะถูกผลิตในจำนวนจำกัด อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้จาก Nikkei Asia ได้ให้ความเห็นว่า “ตลาดรถพลังงานไฮโดรเจนจากแบรนด์ใบพัดฟ้าขาว อาจจะขยายตัวในไม่กี่ปีข้างหน้านี้

ตัวแทนจาก BMW ได้กล่าวกับ Nikkei Asia เกี่ยวกับแผนการผลิต BMW ขุมพลัง hydrogen fuel cell ในปี 2025 นี้ โดยจะเริ่มด้วยตัวถัง SUV ตามสมัยนิยม โดยที่ยังคงไว้ด้วยประโยชน์ใช้สอยและคุณสมบัติของรถ BMW อย่างครบถ้วน

 

คุณงามความดีหลักของขุมพลัง hydrogen fuel cell ที่มีแต้มต่อกว่าพลังงานทางเลือกแบบอื่นๆ ได้แก่ ระยะเวลาในการเติมเชื้อเพลิง ที่ใกล้เคียงกับการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงปกติทั่วไป อีกทั้งยังไม่ได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิภายนอกขณะเติมเชื้อเพลิงเหมือนกับรถ EV

เมื่อกล่าวถึงขุมพลัง hydrogen fuel cell ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล คงจะหนีไม่พ้นค่ายรถยักษ์ใหญ่จากแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง Toyota ที่ได้วางจำหน่ายรถพลัง hydrogen fuel cell รุ่น Mirai มาแล้วกว่า 2 เจเนอเรชั่น ซึ่งนี่ไม่ใช่ความร่วมมือครั้งแรกระหว่าง BMW และ Toyota เนื่องจากทั้ง 2 ค่ายได้ร่วมกันพัฒนารถสปอร์ต 2 ที่นั่งอันเลื่องชื่ออย่าง BMW Z4 และ Toyota GR Supra ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่างานวิศวกรรมหลักของรถทั้ง 2 มีความใกล้เคียงกันมาก หากพิจารณากันอย่างละเอียดจะพบว่า BMW เป็นแม่งานหลักในรุ่นนี้

 

อย่างไรก็ตามสำหรับรถ hydrogen fuel cell ทาง Toyota จะเป็นแม่งานหลัก ดังเช่นรถต้นแบบ BMW 5 Series GT FCEV hydrogen fuel cell prototype ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2016 ก็ใช้ hydrogen stack จาก Toyota และก็เป็นรูปแบบเดียวกันกับรถของ BMW ที่จะใช้เชื้อเพลิง hydrogen ซึ่งทางค่ายเชื่อว่า การเพิ่มทางเลือกนอกเหนือไปจากพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ จะทำให้ลูกค้าได้รับผลประโยชน์ โดยสามารถเลือกได้ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ยิ่งไปกว่านั้น ทาง BMW เองก็ไม่อยากจะลงหลักปักฐานที่เทคโนโลยีเพียงหนึ่งเดียว เนื่องจากปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานของการชาร์จไฟยังคงมีอยู่ให้เห็น

ที่มา: Carscoops