งานออกแบบโดยรวมคือการผสมผสาน รุ่น Hatch ดั้งเดิม และรถ SUV Countryman ที่ขายดี กลายร่างเป็น Crossover ที่มีระยะ Overhang หน้า-หลัง สั้นตามแบบฉบับของรถ Mini เพื่อดึงศักยภาพของการเป็นรถ EV ขนาดคล่องตัวสูง โดยที่ยังคงไว้ซึ่งประโยชน์ใช้สอยทั้งพื้นที่ห้องโดยสารสำหรับผู้ใหญ่ 5 คนและพื้นที่เก็บสัมภาระใหญ่เกินตัว

ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าทรง 8 เหลี่ยม ที่มีขอบกระจังแบบเรืองแสงได้ โดยเลือกใช้สีเขียวเพื่อสะท้อนตัวตน ในขณะที่ชิ้นกลางของกระจังติดตั้งเทคโนโลยี Matrix LED เพื่อสร้างเอฟเฟกต์สวยงามตามต้องการ

ไฟหน้าทรงแปลกตาที่เปลี่ยนจากทรงกลมเป็นเอกลักษณ์ สู่ทรงอสมมาตร พร้อมตกแต่งขอบไฟ ด้วยไฟ DRL โดยขอบด้านบนของโคมยังถูกออกแบบให้สูงจนอยู่ในระดับเดียวกับฝากระโปรงหน้า เพิ่มความบึกบึน

ด้านข้างตัวรถติดตั้งคิ้วซุ้มล้อทรงเหลี่ยมแบบเรียบเนียนไปกับผิวตัวถัง มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ปิดท้ายด้วยแร็คหลังคาทรงแปลกตารูปธง Union Jack

มิติตัวถัง

• ความยาว: 4,050 มม.
• ความกว้าง: 1,990 มม.
• ความสูง: 1,590 มม.

สิ่งที่ทำให้ Aceman แตกต่างจาก Mini รุ่นอื่นๆ คือการยกเลิกการใช้วัสดุหนังและโครเมียมสำหรับการตกแต่งภายใน เพื่อการแสดงจุดยืนชัดเจนของการเป็นรถ EV รักสิ่งแวดล้อม

ภายในใช้ธีมการออกแบบที่เรียบง่าย อ้างอิงจาก Mini Classic ปี 1959 ลดความซับซ้อนจากเส้นสายส่วนเกิน และผสมผสานความทันสมัยรวมไปถึงเทคโนโลยีจอภาพความละเอียดสูง ทำให้ภาพรวมของห้องโดยสาร มอบความโปร่งโล่งสบาย จากการ ใช้สีวัสดุที่สดใสและมีชีวิตชีวา

ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่ด้านล่างคอนโซลหน้า ยังว้าวเพื่อให้ มี พื้นที่วางขา ใหญ่เกินขนาดตัวรถ พร้อมทั้งแผงข้างประตู ที่ใช้วัสดุ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถูกขึ้นรูปเพื่อกลายเป็นช่องเก็บของภายในตัว หลังคากระจกขนาดใหญ่ เพิ่มแสงสว่างให้กับห้องโดยสาร

จุดเด่นที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ ก็คือ หน้าจอทรงกลมใช้ Panel แบบ OLED บางเฉียบ ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android Open Source Project แต่ก็ยังติดตั้งสวิตช์แบบคันโยกสำหรับระบบปรับอากาศ ไม่ได้รวมทุกอย่างไว้ที่จอที่เดียว ในขณะที่คอนโซลหน้าออกแบบคล้ายรูปทรงลำโพง Soundbar ที่กินพื้นที่ตลอดความกว้างตัวรถ โดยหุ้มด้วยผ้า Soft knitted textile ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านพักอาศัย

แน่นอนว่าขุมพลังจะเป็นมอเตอร์ขับเคลื่อนพ่วงกับแบตเตอรี่ ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดในขณะนี้ คงต้องรอให้เวอร์ชั่นผลิตขายจริง โดยรถต้นแบบ Aceman คันนี้จะโชว์คันจริงในงาน Gamescon 2022 เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมัน ตั้งแต่วันที่ 23-28 สิงหาคม 2022 นี้

ที่มา: Mini