ราคาอย่างเป็นทางการ Ford Everest
- 2.0 Turbo Trend 6AT 4×2 : 1,334,000 บาท (NEW)
- 2.0 Turbo Sport 6AT 4×2 : 1,464,000 บาท
- 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 10AT 4×2 : 1,704,000 บาท (NEW)
- 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 10AT 4×4 : 1,854,000 บาท
มาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถใหม่จากโรงงาน นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension
- ความยาว : 4,914 มิลลิเมตร
- ความกว้าง : 1,923 มิลลิเมตร
- ความสูง : 1,842 มิลลิเมตร
- ความยาวฐานล้อ : 2,900 มิลลิเมตร
- ความกว้างล้อหน้า/หลัง : 1,620/1,620 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดใต้ท้องรถ : 227 มิลลิเมตร
- ความจุถังนำ้มัน : 80 ลิตร
เปรียบเทียบมิติตัวถังภายนอกกับคู่แข่งในกลุ่ม SUV / PPV
(ความยาว x ความกว้าง x ความสูง / ความยาวฐานล้อ)
- Everest : 4,914 x 1,923 x 1,842 / 2,900 มิลลิเมตร
- Everest (รุ่นเดิม) : 4,893 x 1,862 x 1,836 / 2,850 มิลลิเมตร
- Fortuner : 4,795 x 1,855 x 1,835 / 2,750 มิลลิเมตร
- MU-X : 4,850 x 1,870 x 1,875 / 2,855 มิลลิเมตร
- Pajero Sport : 4,825 x 1,815 x 1,835 / 2,800 มิลลิเมตร
- Terra : 4,890 x 1,865 x 1,865 / 2,850 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Engine & Drivetrain
ดีเซล 2.0 Turbo 6AT
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ VG Turbocharged พร้อม Intercooler กำลังสูงสุด 170 แรงม้า (PS) ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,250 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง
ดีเซล 2.0 Bi-Turbo 10AT
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ Bi-Turbocharged พร้อม Intercooler กำลังสูงสุด 210 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง และขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part-time 4WD
ระบบกันสะเทือน
Suspension
- ด้านหน้า เป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น
- พร้อมคอยล์สปริง ช็อกอัพ Twin-tube และเหล็กกันโคลง
- ด้านหลัง เป็นแบบ Watt-link
- พร้อมคอยล์สปริง ช็อกอัพ Twin-tube และเหล็กกันโคลง
ระบบห้ามล้อ
Brake
- ด้านหน้า เป็นจานเบรก แบบมีครีบระบายความร้อน (Ventilated Discs)
- ด้านหลัง เป็นจานเบรก แบบ Solid ธรรมดา
Everest 2.0 Turbo Trend 4×2 6AT : 1,334,000 บาท (NEW)
อุปกรณ์มาตรฐาน
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Turbo 170 แรงม้า 405 นิวตันเมตร
- เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
- ยางขนาด 255/65 R18
- ไฟหน้าแบบ LED
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED รูป C-Clamp
- ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED
- ราวหลังคาสีดำ
- บันไดข้างสีดำ
- กระจกมองข้างประพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
- มือเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ
- หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัด แบบสีขนาด 8 นิ้ว
- ระบบ Push Start
- ระบบ Keyless Entry
- ระบบ เปิด-ปิดกระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบ One-Touch
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสง
- ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- เบาะหนัง และ หนังสังเคราะห์สีดำ
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะนั่งแถว 2 ปรับเอน และเลื่อนหน้า-หลังได้
- เบาะนั่งแถวที่ 3 พับได้
- แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมที่เสียบนามบัตร
- ไฟอ่านแผนที่ และไฟส่องสว่างภายในตัวรถ
- ช่องเก็บแว่นตา
- ช่องต่อไฟ 12V 3 ตําแหน่ง บริเวณที่วางแขน, เบาะแถวที่ 2 และที่เก็บสัมภาระ
- แท่นชาร์จไร้สาย (Wireless Charger)
- หน้าจอกลาง แบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 10.1 นิ้ว
- รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android AutoTM
- SYNC® 4A ภาษาไทยพร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth
- ระบบ FordPass Connect
- ลำโพง 8 ตำแหน่ง
- ช่องต่อ USB 2 ตำแหน่ง บริเวณคอนโซลหน้า
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
- คู่หน้า
- ด้านข้าง
- ม่านถุงลมนิรภัย
- ถุงลมบริเวณหัวเข่า
- ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
- สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง
- กล้องมองหลังขณะถอยจอด
- ระบบป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- เบรกมือไฟฟ้า
- ระบบควบคุมสเถียรภาพกรทรงตัว ESP
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
- ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ ROM
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX
- สัญญาณกันขโมย และระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
- ระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control
Everest 2.0 Turbo Sport 4×2 6AT : 1,464,000 บาท
ราคาบวกเพิ่มจากรุ่น 2.0 Turbo Trend 130,000 บาท มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้น ดังนี้
- ล้ออัลลอย 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/55 R20
- ไฟท้ายแบบ LED แบบ LED Signature
- ระบบปัดนํ้าฝนแบบอัตโนมัติ
- ประตูท้าย เปิด-ปิด ด้วยรับบไฟฟ้า แบบ Hand-free
- มือเปิดประตูสีดำเงา
- ชุดแต่งภายนอก สีดำสปอร์ต
- โลโก้ EVEREST ติดฝากระโปรงหน้า สีดำ
- ช่องต่อ USB ที่กระจกมองหลัง
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- ระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ แยกซ้าย-ขวา
- เบาะหนัง และ หนังสังเคราะห์สีดำลายสปอร์ต
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร Ambient Lighting
- แผงบังแดดคู่หน้า แบบปรับระยะพร้อมกระจกและไฟส่องสว่าง ด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
- ช่องต่อไฟ 12V 3 ตําแหน่ง บริเวณที่วางแขน, เบาะแถวที่ 3 และที่เก็บสัมภาระ
- ชุดแต่งภายใน แบบสปอร์ต
- ช่องต่อ USB 2 ตำแหน่ง บริเวณที่นั่งแถวที่ 2
Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×2 10AT : 1,704,000 บาท (NEW)
ราคาบวกเพิ่มจากรุ่น 2.0 Turbo Sport 240,000 บาท มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้น ดังนี้
- เครื่องยนต์ ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbocharged 210 แรงม้า 500 นิวตันเมตร
- เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ
- ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ Puddle Lamps
- หลังคา Panoramic Moonroof
- ราวหลังคาสีเงิน แบบโครเมียม
- บันไดข้าง แบบตกแต่งสีเงิน
- มือเปิดประตู แบบโครเมียม
- หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัด แบบสีขนาด 12.4 นิ้ว
- ระบบ เปิด-ปิด กระจกทุกบาน แบบ One-Touch
- ช่องต่อไฟ 230V (400W) 1 ตําแหน่ง เบาะแถวที่ 2
- หน้าจอกลาง แบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control พร้อม Electric Brake Booster
- ระบบตรวจจับลมยาง Tire Pressure Monitoring
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop & Go
- ระบบเปิด – ปิดไฟสูงอัจฉริยะ AHH
- ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน AEB with Pedestrian Detection
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW with Brake Support
- ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน Post-Impact Braking
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping System
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning
- ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด BSIS with CTA & Braking
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
- ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง Reverse Brake Assist
- ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ Evasive Steer Assist
Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 10AT : 1,854,000 บาท
ราคาบวกเพิ่มจากรุ่น 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×2 150,000 บาท มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้น ดังนี้
- คันเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter
- ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part-time 4WD
- ระบบ Terrain Management System เลือกโหมดการขับขี่ 6 รูปแบบ
- Normal
- Eco
- Tow/Haul
- Slippery
- Mud/Ruts
- Sand
- Diff Lock หลังแบบไฟฟ้า
- ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมระบบปรับมุมลําแสงไฟอัตโนมัติ และระบบป้องกันไฟแยงตา
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน Hill Descent Control
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Active Parking Assist
สีตัวถัง
Exterior Colors
- สีเงิน Aluminium Metallic
- สีเทา Meteor Grey
- สีดำ Absolute Black
- สีทอง Equinox Bronze
- สีน้ำเงิน Blue Lightning (เฉพาะรุ่น Sport)
- สีขาว Snowflake White Pearl (+12,000 บาท)
- สีส้ม Sedona Orange (+ 12,000 บาท)
สีภายในห้องโดยสาร
Interior Colors
- สีดำ Ebony
- สีครีมพราลีน Praline (เฉพาะรุ่น Titanium+)
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ Click Here
First Impression ทดลองขับ Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 : ขับขี่กลมกล่อมจนหาตัวจับยากขึ้น
ภาพคันจริง ภายนอก – ภายในห้องโดยสาร Ford Everest 2.0 Turbo Trend 6AT 4×2 : 1,334,000 บาท