ท่ามกลางกระแสการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิพ) และสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย ทำให้การประกอบรถยนต์ทั่วโลกเผชิญปัญญาส่งมอบรถช้า หรือต้องทำการปรับอุปกรณ์เพื่อให้ส่งมอบรถได้ตามชิ้นส่วนที่มีอยู่ ปัญหานี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบกับผู้ผลิตรถสัญชาติรัสเซียอย่าง Lada แต่อย่างใด หลังจากที่กลับมาเดินสายพานการผลิตรถยนต์ เนื่องจากรถบางรุ่นของพวกเค้านั้นไม่ต้องการอุปกรณ์ไฮเทคพื้นฐานหลายประการที่รถทั่วไปต้องมี

 

จะมีรถยนต์เพียงกี่รุ่นที่วางจำหน่ายในปี 2022 โดยที่ยังไม่ติดตั้งระบบความปลอดภัยพื้นฐานมาให้ ที่ต้องเอ่ยเช่นนี้ เพราะยังคงมีอยู่จริงๆ ตัวอย่างที่นำมาเสนอให้ชมในวันนี้ ก็คือ Lada Granta Classic การพ่วงท้ายชื่อรุ่นด้วยคำว่า Classic อาจเป็นคำบอกใบ้ถึงความขาดแคลนอุปกรณ์ที่รถยุคปัจจุบันมีก็เป็นได้

เจ้ารถรุ่นนี้ได้อยู่ในสายพานการผลิตมากว่า 11 ปีแล้ว โดยที่ยังไม่มีการปรับปรุงเรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานต่างๆ ตั้งแต่ เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ ระบบป้องกันล้อล็อกหรือ ABS ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และแน่นอนระบบรักษาการทรงตัว electronic stability control system เช่นเดียวกัน

 

ทางด้านมาตรฐานมลพิษก็ตกที่นั่งเดียวกัน เจ้า Lada Granta Classic ยังคงใช้เครื่องยนต์ที่ผ่านมาตรฐานเพียง Euro 2 ในขณะที่ยุโรปกำลังจะก้าวเข้าสู่ Euro 7 ด้วยเหตุที่เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้า ที่เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1996

ถึงกระนั้นก็ตาม Lada ยังให้เครื่องปรับอากาศแบบปรับด้วยมือหมุน ลำโพง 4 ตำแหน่ง ที่ลูกค้าต้องติดตั้ง Head Unit หรือเครื่องเล่นเอง ระบบเซนทรัลล็อก มาตรวัดพร้อม Trip computer กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบไล่ฝ้า กระจกหน้าต่างทั้ง 4 บาน ปรับด้วยไฟฟ้า ล้อกระทะเหล็กขนาด 14 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานและอัลลอยขนาด 15 นิ้วเป็นออฟชั่นเสริม

 

แน่นอนว่าราคาจำหน่ายของ Lada Granta Classic ต้องเป็นที่น่าดึงดูดให้ลูกค้ายังคงจับจ่ายรถรุ่นนี้อยู่ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 658,300 รูเบิ้ล (420,019 บาท) ถูกกว่า Lada Granta รุ่นปกติอยู่ประมาณ 1 แสนรูเบิ้ล (63,803 บาท) ทำให้เป็นรถยนต์นั่งที่ราคาถูกที่สุดในประเทศรัสเซีย

ที่มา: Motor1