วันนี้เมื่อปีที่แล้ว Toyota Corolla Cross เปิดตัวในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2021 โดยมีรูปร่างหน้าตาภายนอกและภายในห้องโดยสารเหมือนเวอร์ชั่นไทย แต่มีกำลังวังชามากกว่าด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Dynamic Force กำลังสูงสุด 169 แรงม้า ล่าสุดมีการอัพเดทความสดใหม่ให้กับ Corolla Cross US Version ด้วยการปรับหน้าตาภายนอกใหม่เป็นแบบเดียวกับเวอร์ชั่นญี่ปุ่น พร้อมขุมพลัง 2.0 ลิตร Hybrid เจเนอเรชั่นที่ 5 ที่ปรับจูนให้แรงขึ้น และเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ S, SE และ XSE

ดีไซน์ภายนอกของ Corolla Cross Hybrid (MY 2023) เวอร์ชั่นอเมริกา มีความคล้ายรุ่นเดิมราว 75% ทว่ามีการหยิบยกองค์ประกอบหลายจุดของ Corolla Cross เวอร์ชั่นญี่ปุ่นมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นล้ออัลลอยสีทูโทนปัดเงา ขนาด 18 นิ้ว กระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถ ตลอดจนกันชนหน้ารูปตัว U คว่ำ ล้อมกรอบด้วยพลาสติกสีดำ ส่วนชุดไฟหน้ายังใช้ดีไซน์แบบเดิมอยู่ นอกจากนี้ ยังมีสีตัวถังภายนอกใหม่ให้เลือก เป็นสีทอง Acidic Blast ตัดกับหลังคาสีดำ Black Roof

ภายในห้องโดยสารไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก ยังคงใช้การตกแต่งด้วยวัสดุ Softex พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ชุดมาตรวัดพร้อมหน้าจอ MID ขนาด 7 นิ้ว หน้าจอความบันเทิงระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ติดตั้งเบาะนั่งฝั่งผู้ขับขี่ปรับด้วยไฟฟ้าได้ 10 ทิศทาง หลังคา Moonroof ระบบปรับอากาศ Dual Zone ช่องปรับอากาศพร้อมช่องเสียบชาร์จแบบ USB ด้านหลัง ตลอดจนเบาะนั่งด้านหลังแบบแยกพับได้ 60:40

ด้านขุมพลังขับเคลื่อน เดิมทีมีให้เลือกเพียงแบบเดียวคือ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Dynamic Force กำลังสูงสุด 169 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift CVT ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า และขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD พร้อมระบบ Dynamic Torque Control สามารถปลดการส่งกำลังลงล้อคู่หลังได้ทั้งหมด หรือ ส่งแรงบิดไปยังล้อคู่หลังได้สูงสุด 50% หากต้องการ

แต่ครั้งนี้มีการเสริมทัพด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Hybrid เจเนอเรชั่นที่ 5 มีพละกำลังรวมสูงสุดจากเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว อยู่ที่ 194 แรงม้า (HP) ส่งกำลังด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Electronic All-Wheel Drive

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน

  • อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง : 8.2 วินาที
  • อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย : 15.62 กิโลเมตร/ลิตร

ด้านความปลอดภัย ทุกรุ่นย่อย ติดตั้งแพกเกจ  Toyota Safety Sense 3.0 ประกอบด้วยระบบต่างๆ ดังนี้

  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre-Collision System with Pedestrian and motorcyclists Detection
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมดึงพวงมาลัยกลับ Lane Departure Alert with Steering Assist
  • ระบบรักษารถให้อยู่กลางเลน Lane Tracing Assist
  • ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร Road Sign Assist
  • ระบบไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-beam

Toyota Corolla Cross Hybrid (MY 2023) เวอร์ชั่นอเมริกา จะขึ้นสายพานการผลิต ณ โรงงาน Mazda Toyota Manufacturing plant ในเมือง Alabama โดยโรงงานแห่งนี้มีกำลังผลิตเพื่อป้อนความต้องการของลูกค้าได้มากถึง 150,000 คัน/ปี

ที่มา : Toyota