Bentayga ถือว่าเป็นรถ SUV รุ่นแรกของค่ายที่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2015 เมื่อพิจารณายอดขายปี 2021 ที่ขายไปได้มากถึง 14,659 คัน คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 31% โดยก่อนหน้านี้ Bently ได้ออกรุ่น Opulent ซึ่งเน้นความหรูหรา และรุ่น Speed ที่เน้นความดุดันและสมรรถนะการขับขี่ จนกระทั่งเปิดตัวรุ่นฐานล้อยาว EXTENDED WHEELBASE (EWB) จากรุ่นปกติ 2,995 มิลลิเมตร เป็น 3,175 มิลลิเมตร โดยความยาวรถโดยรวมเพิ่มเป็น 5,322 มิลลิเมตร

ภายนอกมาพร้อมประตูคู่หลังที่ยาวกว่ารุ่นปกติตามฐานล้อ พร้อมหลังคาซันรูฟที่เพิ่มความยาวให้ครอบคลุมผู้โดยสารตอนหลัง ด้านหน้ามาพร้อมกระจังแบบ Vertical Vane Grille เน้นความหรูหราเป็นหลัก พร้อมล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว แบบ 10 ก้าน
มิติตัวถัง:

 

มิติตัวถัง:

  • ความยาว: 5,322 มม.
  • ความกว้าง: 1,999 มม.
  • ความสูง: 1,739 มม.
  • ฐานล้อ: 3,175 มม.

 

ภายในห้องโดยสารมีความโอ่อ่ากว้างขวางยิ่งขึ้นจากระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นกว่า 180 มิลลิเมตร ทำให้ยาวที่สุดในคลาส โดยที่ยังมีแนวเส้นหลังคาภายนอกที่ต่ำกว่าคู่แข่ง และด้วยเหตุที่ห้องโดยสารยาวขึ้น Bentley ได้ออกแบบคอนโซลกลางระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้ยาวขึ้น และเพิ่มฟังก์ชั่นให้กับผู้โดยสารด้านหลังด้านจอทัชสกรีนที่สั่งงานควบคุมระบบต่างๆ เช่น เบาะนั่งด้านหลังและระบบปรับอากาศพร้อมช่องแอร์และที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

แผงประตูมาพร้อมไฟตกแต่ง LED (คู่หน้า บานละ 12 ดวง และ คู่หลังบานละ 22 ดวง) Bentley Diamond Illumination ที่เปล่งแสงผ่านรูระบายอากาศที่มีขนาดเพียง 1 มิลลิเมตร ของหนังบริเวณแผงประตู กลายเป็นลวดลายเสมือนกลืนไปกับตัวหนัง

 

เบาะนั่งคู่หลังคือจุดขายสำคัญของรถรุ่นนี้ ที่สามารถปรับได้ถึง 22 ทิศทาง และยังสามารถเอนได้สูงสุดถึง 40 องศา เมื่ออยู่ในโหมด Relax พร้อมที่วางเท้าแบบพับเก็บได้สั่งการด้วยระบบไฟฟ้าบริเวณด้านหลังของเบาะคู่หน้า ซึ่งจะทำการเลื่อนเบาะไปด้านหน้ารถเพื่อเพิ่มพื้นที่วางขาไปในตัว และเมื่อเปลี่ยนเป็นโหมด Business เบาะคู่หลังจะปรับสู่ตำแหน่งตั้งชันปกติเพื่อเหมาะกับการทำงาน พร้อมแท่นวางโน๊ตบุ้คแบบพับเก็บได้ที่บริเวณด้านหลังของเบาะคู่หน้าซ่อนตัวได้อย่างไม่เกะกะสายตา

ระบบปรับอากาศที่ใช้เซนเซอร์วัดอุณหภูมิร่างกายรวมทั้งความชื้นของผู้โดยสาร เพื่อนำไปประมวลผลและปรับให้อากาศมีความเย็นสบายพอเหมาะบนพื้นฐานสภาพอากาศที่แตกต่างกัน และเป็นครั้งแรกที่ Bentley ติดตั้งระบบอุ่นที่แผงประตูคู่หลังและที่วางแขนตรงกลางระหว่างเบาะนั่งคู่หลัง

 

นอกจากนี้ยังมีระบบปิดประตูไฟฟ้าที่ประตูคู่หลัง ซึ่งสามารถสั่งการผ่านสวิตซ์บริเวณคอนโซลกลาง ทำงานผ่านชุดมอเตอร์ที่จะทำให้การปิดประตูแต่ละฝั่งของผู้โดยสารด้านหลังสะดวกยิ่งขึ้นเพียงปลายนิ้วสัมผัส พร้อมทั้งระบบช่วยผ่อนแรงขณะเปิดประตู

 

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง

เครื่องยนต์เบนซิน V8 DOHC 32 วาล์วขนาด 4.4 ลิตร (3,996 ซีซี) กระบอกสูบ x ช่วงชัก 86 x 86 มิลลิเมตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection พร้อมระบบอัดอากาศ แบบ Twin-Turbocharger พ่วง Intercooler ให้กำลังสูงสุด 550 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 770 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-4,500 รอบ/นาที

ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 290 กม./ชม.

 

ระบบบังคับเลี้ยว

Rack and pinion ผ่อนแรงด้วยพาวเวอร์ไฟฟ้า ePAS ปรับอัตราทดได้ พร้อมติดตั้งระบบเลี้ยว 4 ล้อ

ระบบกันสะเทือน

ด้านหน้าเป็นแบบ 4-Link Double Wishbone พร้อมเหล็กกันโคลงไฟฟ้า (48 volt active sway bar) และด้านหลังแบบ แบบ Multi-Link พร้อมเหล็กกันโคลงไฟฟ้า (48 volt active sway bar) พร้อมระบบช่วงล่างถุงลม Air suspension with automatic self-levelling และ Continuous damping control

ล้ออัลลอยขนาดมาตรฐานตั้งแต่ 21 -22 นิ้ว พร้อมยางขนาด 285/45 R21 285/45 ZR21 หรือ 285/40 ZR22

ระบบห้ามล้อ

ระบบห้ามล้อเป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ จานเบรกคู่หน้ามีครีบระบายความร้อน เส้นผ่าศูนย์กลาง 400 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์ 6 สูบ ส่วนจานเบรกคู่หลังมีครีบระบายความร้อน เส้นผ่าศูนย์กลาง 380 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์ 1 สูบ และมีออฟชั่นจานเบรก Carbon Silicon Carbide (CSiC) พร้อม พร้อมคาลิปเปอร์ 10 สูบ ที่ด้านหน้า ให้เลือก

 

Bentley พร้อมส่งมอบ Bentayga EWB ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2022 เป็นต้นไป ในบางตลาดเท่านั้น และยังไม่ประกาศราคาอย่างเป็นทางการในขณะนี้

ที่มา: Bentley