ถึงแม้ดูหน้าตาจะไม่ใช่รถที่บ้านเรานิยมกันในอดีตหรือแม้แต่วางจำหน่ายในปัจจุบัน แต่รถแวนขนาดเล็กเช่นนี้ ได้รับความนิยมมากในยุโรปโดยเฉพาะในเชิงพาณิชย์ หรือที่เรียกกันว่า LCV (light commercial vehicle) มีบรรดาผู้ผลิตรถยนต์แข่งขันในตลาดกลุ่มนี้หลากหลายแบรนด์ ตั้งแต่ Volkswagen Fiat Peugeot Citroen Vauxhall Renault และ Ford ที่จะมาพร้อม 2 ทางเลือกให้กับผู้บริโภค ได้แก่ เน้นการโดยสารและ เน้นการบรรทุกสัมภาระ ทำให้ Mercedes เห็นโอกาสในการแนะนำ T-Class ที่มีความหรูหรามากกว่าคู่แข่งในตลาด ด้วยการใช้งานวิศวกรรมร่วมกับ Renault Kangoo รุ่นล่าสุด บนพื้นฐาน CMF-CD Platform ที่เปิดตัวไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020
นอกจากนี้ Mercedes-Benz T-Class ยังมีฝาแฝดที่เปิดตัวไปก่อนหน้าเมื่อปลายปี 2021 อย่าง Mercedes-Benz Citan ที่ เน้นการใช้งานเชิงพาณิชย์ ในขณะที่ T-class จะเน้นการโดยสารมากกว่า ทั้ง 2 รุ่นสามารถเลือกติดตั้งประตูท้ายเป็นแบบตู้กับข้าว สามารถเปิดแยกได้ที่มุม 90 องศา และ 180 องศา
งานออกแบบภายนอกยังคงอ้างอิงจาก Citan แต่เพิ่มเติมการตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมี่ยม เพื่อให้สอดคล้องกับธีมของรถ ไฟหน้าแบบ LED High Performance เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Progressive Line พร้อมล้ออัลลอยสีทู-โทน งานออกแบบด้านข้างยังคงอ้างอิง Renault Kangoo รวมไปถึงไฟท้ายที่ใช้ทรงเดียวกัน แต่เปลี่ยนรายละเอียดภายในโคม ประตูสไลด์ทั้งสองข้างเปิดได้กว้างเพื่อการเข้า-ออกที่สะดวกยิ่งขึ้น
มิติตัวถัง :
- ความยาว: 4,498 มม.
- ความกว้าง: 1,859 มม.
- ความสูง: 1,811 มม.
- ฐานล้อ: 2,716 มม.
- รัศมีวงเลี้ยว: 5.9 ม.
ภายในมาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ARTICO คอนโซลและแผงประตูตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา แผงประตูตกหุ้มด้วยวัสดุ NEOTEX เบาะแถวที่ 2 พับได้แบนราบ พร้อมจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX ทั้ง 3 ที่นั่ง และสามารถติดตั้งได้พร้อมกัน
ส่วนรุ่น Progressive จะเพิ่มความหรูหราด้วยวัสดุตกแต่งสีเงิน พร้อมกระจกหน้าต่างแบบเปิดได้ที่ประตูสไลด์ นอกจากนี้ยังมีวัสดุตกแต่งคอนโซลสีเหลืองเป็นออฟชั่นเสริม
ทั้ง 2 รุ่น จะติดตั้งหน้าจอ Infotainment ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการ MBUX จอมาตรวัดแบบสีขนาด 5.5 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น และ KEYLESS Start เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้ พร้อมไฟตกแต่ง Ambient light ในห้องโดยสาร ปรับได้สูงสุด 8 สี เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
T 160
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 1.3 ลิตร (1,332 ซีซี) กำลังอัด 10.6 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (PS) ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 6.7-7.2 ลิตร/100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP
- อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 14.7 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 168 กิโลเมตร/ชั่วโมง
T 180
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 1.3 ลิตร (1,332 ซีซี) กำลังอัด 10.6 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection กำลังสูงสุด 131 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติแบบ Dual clutch 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 6.6-7.3/6.7-7.1 ลิตร/100 กิโลเมตร (7DCT/6MT)
- ตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 11.6 / 12.85 วินาที (7DCT/6MT)
- ความเร็วสูงสุด 184/183 กิโลเมตร/ชั่วโมง (7DCT/6MT)
T 160d
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 1.5 ลิตร (1,461 ซีซี) กำลังอัด 15.5 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วย หัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ ผ่านระบบราง Common-Rail กำลังสูงสุด 95 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติแบบ Dual clutch 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 5.5-5.9 / 5.3-5.6 ลิตร/100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP (7DCT / 6MT)
- อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 15.3 / 15.1 วินาที (7DCT / 6MT)
- ความเร็วสูงสุด 165 / 164 กิโลเมตร/ชั่วโมง (7DCT / 6MT)
T 180d
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 1.5 ลิตร (1,461 ซีซี) กำลังอัด 15.5 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วย หัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ ผ่านระบบราง Common-Rail กำลังสูงสุด 116 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติแบบ Dual clutch 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า
- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 5.5-5.9 / 5.6-5.9 ลิตร/100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP (7DCT / 6MT)
- อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 13.2 / 13.6 วินาที (7DCT / 6MT)
- ความเร็วสูงสุด 165 / 164 กิโลเมตร/ชั่วโมง (7DCT / 6MT)
และจะมีรุ่นขุมพลังไฟฟ้า 100% ตามมาภายหลังในชื่อรุ่น EQT ที่น่าจะเปิดตัวไล่เลี่ยกับฝาแฝดรุ่น eCitan
ระบบบังคับเลี้ยว
แร็คแอนด์พิเนียน พร้อมมอเตอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
ระบบกันสะเทือน
- ด้านหน้าแบบ McPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
- ด้านหลังแบบ Torsion-beam
- ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว และ 17 นิ้ว เป็นออฟชั่นเสริม
ระบบห้ามล้อ
- ดิสก์เบรกคู่หน้าพร้อมครีบระบายความร้อน
- ดิสก์เบรกคู่หลังพร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัยจำนวนสูงสุด 7 ตำแหน่ง รวมถุงลมระหว่างคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าป้องกันการกระแทกของศีรษะทั้ง 2 ที่นั่ง
- ระบบเตือนวัตถุในมุมอับสายตาด้านหน้า-ข้าง Blind Spot Assist
- ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อผ่านจุดตัดทางแยก Active Brake Assist with cross-traffic function
- ระบบช่วยเตือนหากผู้ขับขี่เหนื่อยล้า Fatigue warning system
- ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทาง Active Lane Keeping Assist
- ระบบตรวจรับการจับความเร็ว Speed Limit Assist
- ระบบรักษาระยะห่างรถคันหน้าอัตโนมัติ Active Distance Assist DISTRONIC (ออฟชั่น)
- ระบบช่วยบังคับรถตามการจราจร Active Steering Assist (ออฟชั่น)
- ระบบช่วยเหลือการทรงตัวระหว่างมีการลากจูง Trailer Stability Assist (ออฟชั่น)
- ระบบควบคุมการจอดรถระยะไกล Active Parking Assist พร้อม PARKTRONIC (ออฟชั่น)
- กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
Mercedes-Benz T-Class มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 10 สี และจะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรปที่ 30,000 ยูโร (1.09 ล้านบาท) สำหรับรุ่น T 160 เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
ที่มา: Mercedes-Benz