หลังจากที่ Mercedes-Benz เปิดตัว EQS ตัวถังซีดานเมื่อเดือนเมษายน 2021 และทยอยทำตลาดที่ยุโรป สหรัฐอเมริกา รวมไปถึงประเทศไทยที่นำมาโชว์ตัว พร้อมเตรียมผลิตในประเทศเร็วๆ นี้ ก็ถึงคราวของ EQS ตัวถัง SUV ที่กำลังนิยมทั่วโลก ซึ่ง Mercedes-Benz ได้ออกมาประกาศก่อนหน้านี้ว่า EQS SUV จะถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรุ่นพี่ตัวถังซีดาน ชูจุดเด่นความล้ำสมัยทั้งงานออกแบบและขุมพลังไฟฟ้าที่มีระยะทางวิ่งได้สูงกว่ารถ EV ทั่วไป
จนกระทั่งวันที่ 19 เมษายน 2022 Mercedes-Benz ได้เปิดตัว EQS SUV อย่างเป็นทางการกับงานออกแบบด้านหน้าที่มีความบึกบึนเพิ่มขึ้นจากตัวถังซีดาน ไฟหน้า DIGITAL LIGHT กระจังหน้าแบบทึบตามฉบับรถ EV ที่ตกแต่งด้วยตราสัญลักษณ์เล็กๆ และตกแต่งด้วยไฟ LED tube ลากยาวต่อเนื่องจากไฟคู่หน้า คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับรถตระกูล EQ อย่างชัดเจน ไฟท้าย LED แบบ 3D helix design
กระจกมองข้างแบบรถทั่วไป ไม่ใช่แบบกล้องอย่างที่ค่ายคู่แข่งชอบใช้กัน ในขณะที่ระบบ Automatic comfort doors เป็นออฟชั่นเสริมที่เพิ่มความสะดวกในการเข้า-ออกตัวรถ โดยประตูทั้ง 4 บานสามารถเปิดได้โดยอัตโนมัติเมื่อคนขับเดินเข้าใกล้ตัวรถในระยะ 1.5 เมตร พร้อมกับปิดให้โดยอัตโนมัติเมื่อทำการเหยียบเบรก
มิติตัวถัง:
- ความยาว: 5,125 มม.
- ความกว้าง: 1,959 มม.
- ความสูง: 1,718 มม.
- ฐานล้อ: 3,210 มม.
- รัศมีวงเลี้ยว: 5.9 ม. / 5.5 ม. (ระบบเลี้ยวล้อหลัง 4.5 องศา / 10 องศา)
ภายในยังคงกลิ่นอายของ EQS รุ่นปกติ ด้วยจอขนาดยักษ์เรียงต่อกันแบบไร้รอยต่อที่เรียกว่า MBUX Hyperscreen แบบจอโค้ง OLED ขนาดรวมกว่า 56 นิ้ว (อุปกรณ์มาตรฐานใน EQS SUV 580) ประกอบไปด้วยจอกลางขนาด 17.7 นิ้ว จอฝั่งผู้โดยสารขนาด 12.3 นิ้ว และจอมาตรวัดผู้ขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว ในขณะที่จอมาตรฐานจะเป็นแบบ Portrait ขนาด 12.8 นิ้ว ในรุ่น EQS SUV 450 การควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ในรถผ่านปุ่มแบบ Touch-sensitive หรือการเลือกจากหน้าจอสัมผัสทีเรียงรายด้านหน้ารถ และยังมีจอแสดงผล Head-up display ขนาดใหญ่ถึง 77 นิ้ว ที่แสดงผลร่วมกับเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) เป็นออฟชั่น และไฟตกแต่งในห้องโดยสาร Active Ambient Lighting จำนวนมากถึง 190 สี ที่ปรับสีตามการเปลี่ยนแปลงของฟังก์ชั่นตัวรถ พร้อม Wireless Apple CarPlay และ Android Auto
คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยลายไม้ด้านและหุ้มด้วยวัสดุ MB-Tex faux พร้อมเบาะนั่งหุ้มหนังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มาพร้อมเบาะนั่งจำนวน 5 หรือ 7 ที่นั่ง เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าเต็มระบบพร้อม Ambient lighting โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้าในอัตราส่วน 40:20:40 พร้อมทั้งเลื่อนหน้า-หลัง ระยะ 130 มม. สามารถเลือกติดตั้งระบบอุ่นเบาะทั้ง 5 หรือ 7 ที่นั่งได้ และมาพร้อมกับความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยหน้าจอคู่ขนาด 11.6 นิ้ว MBUX High-End Rear Seat Entertainment Plus พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง Hey Mercedes พร้อมระบบเครื่องเสียง Burmester 3D พร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos 360 องศา และ หูฟังไร้สาย รวมทั้งระบบกรองอากาศ ENERGIZING AIR CONTROL Plus พร้อมแผ่นกรอง HEPA (High-Efficiency Particulate Air) filter
ขุมพลังและระบบส่งกำลัง
EQS SUV 450+ จะใช้มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อคู่หลัง Electric drivetrain (eATS)ในขณะที่ EQS SUV 450 4MATIC
และ EQS SUV 580 4MATIC จะใช้มอเตอร์คู่หน้า-หลัง Electric drivetrain (eATS)
ทั้ง 2 รุ่นจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่ติดตั้งอยู่บนเพลาด้านหน้า-หลัง หรือ electric drivetrain (eATS) เพื่อทำให้เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบแปรผันได้อย่างอิสระ
โหมดการขับขี่ ECO COMFORT SPORT และ INDIVIDUAL ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC จะเพิ่มโหมด OFF-ROAD ที่ทำงานร่วมกับระบบ Hill-descent control และ ช่วงล่างถุงลม พร้อมแสดงภาพรอบคันจากกล้อง 360 องศา รวมทั้งมุมก้ม-เงย และข้อมูลต่างๆของเส้นทาง รวมทั้งภาพมุมบอด เพื่อให้สามารถขับผ่านอุปสรรคได้โดยง่าย
EQS SUV 450+
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ชนิด permanently excited synchronous motors (PSM) กำลังสูงสุด 360 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 568 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 536-660 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ระบบชาร์จไฟแบบ DC กำลังสูงสุด 200 kW นาน 15 นาที สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 250 กม.และใช้เวลาชาร์จจาก 10%-80% เพียง 31 นาที นอกจากนี้ยังชาร์จไฟ AC 11 kW และ 22 kW ได้ด้วย onboard charger ใช้เวลาชาร์จจาก 10%-100% ที่ 11 ชั่วโมง 15 นาที แบตเตอรี่จำนวน 12 เซลล์ ความจุ 107.8 kWh 396V
EQS SUV 450 4MATIC
มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ชนิด permanently excited synchronous motors (PSM) กำลังสูงสุด 360 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 507-613 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ระบบชาร์จไฟแบบ DC กำลังสูงสุด 200 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 10%-80% เพียง 31 นาที นอกจากนี้ยังชาร์จไฟ AC 11 kW และ 22 kW ได้ด้วย onboard charger ใช้เวลาชาร์จจาก 10%-100% ที่ 11 ชั่วโมง 15 นาที แบตเตอรี่จำนวน 12 เซลล์ ความจุ 107.8 kWh 396V
EQS SUV 580 4MATIC
มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ชนิด permanently excited synchronous motors (PSM) กำลังสูงสุด 544 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 858 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 507-613 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ระบบชาร์จไฟแบบ DC กำลังสูงสุด 200 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 10%-80% เพียง 31 นาที นอกจากนี้ยังชาร์จไฟ AC 11 kW และ 22 kW ได้ด้วย onboard charger ใช้เวลาชาร์จจาก 10%-100% ที่ 11 ชั่วโมง 15 นาที แบตเตอรี่จำนวน 12 เซลล์ ความจุ 107.8 kWh 396V
ระบบบังคับเลี้ยว
แร็คแอนด์พิเนียนพร้อมมอเตอร์ผ่อนแรงผสมระบบไฮดรอลิค มาพร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวที่ล้อคู่หลัง ซึ่งทำมุมเลี้ยวได้สูงสุดถึง 4.5 / 10 องศา หากใช้ความเร็วต่ำกว่า 60 กม./ชม. ล้อคู่หลังจะเลี้ยวในทิศตรงกันข้ามกับล้อคู่หน้า เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและให้วงเลี้ยวที่แคบ แต่ถ้าใช้ความเร็วเกินกว่านั้น จะเป็นการเลี้ยวไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเพิ่มระยะฐานล้อเสมือน ให้รถมีการทรงตัวดีขึ้น
ระบบกันสะเทือน
- ด้านหน้าแบบ four-link พร้อมเหล็กกันโคลง
- ด้านหลังแบบมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง
และยังมีระบบช่วงล่างแบบถุงลม AIRMATIC และ Continuously adjustable damping ADS+ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อรองรับมุมไต่ 40 องศา และ มุม adaptive AMG RIDE CONTROL+ ที่สามารถปรับความแข็ง-อ่อน รวมไปถึงความสูงของตัวรถเพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการขับขี่
ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 20 ถึง 22 นิ้ว ซึ่งอย่างหลังสามารถเลือกติดตั้งจานเบรกแบบเซรามิคได้ รวมไปถึงยางสมรรถนะสูงที่ออกมาสำหรับรถ EV โดยเฉพาะอย่าง MICHELIN Pilot Sport EV
ระบบห้ามล้อ
- ดิสก์เบรกคู่หน้าพร้อมครีบระบายความร้อน
- ดิสก์เบรกคู่หลังพร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัยจำนวนสูงสุด 8 ตำแหน่ง รวมถุงลมหัวเข่าข้างคนขับและถุงลมระหว่างคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าป้องกันการกระแทกของศีรษะทั้ง 2 ที่นั่ง
- ระบบเตือนวัตถุในมุมอับสายตาด้านหน้า-ข้าง Active Blind Spot Assist
- ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อผ่านจุดตัดทางแยก Active Brake Assist with cross-traffic function
- ระบบรักษาระยะห่างรถคันหน้าอัตโนมัติ Active Distance Assist DISTRONIC
- ระบบช่วยนำรถจอดเข้าจอดข้างทางโดยอัตมัติ Active Emergency Stop Assist
- ระบบช่วยหักหลบเมื่อเจอคนเดินเท้าและจักรยานตัดหน้า Active Evasive Steering Assist
- ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทาง Active Lane Keeping Assist
- ระบบตรวจรับการจับความเร็ว Active Speed Limit Assist
- ระบบช่วยเบรกเมื่อเจอการจราจรคับขัน Congestion emergency braking function
- ระบบตรวจสอบยานพาหนะขณะลงจากรถพร้อมระบบแจ้งเตือน Exit warning function when hand moves towards the door handles
- ระบบเคลื่อนตัวตามรถข้างหน้า Extended automatic restart on motorways
- ระบบแจ้งเตือนด้วยแสงจากไฟในห้องโดยสาร Hazard display via ambience lighting
- ระบบช่วยบังคับรถตามการจราจร Active Steering Assist
- แพ็คเกจ PRE-SAFE® PLUS และระบบยกตัวรถฉุกเฉินเมื่อเกิดการปะทะด้านข้างฉับพลัย Impulse Side with body-raising function
- ระบบปรับความเร็วให้เหมาะสมกับเส้นทาง Route-based speed adjustment with end of traffic jam function
- ระบบควบคุมความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่งและเคลื่อนตัว Active Stop-and-Go Assist
- ระบบควบคุมการจอดรถระยะไกล Remote Parking Assist พร้อมจดจำเส้นทาง Memory Parking Assis และ Valet Parking INTELLIGENT PARK PILOT
- กล้องมองภาพ 360 องศา
Mercedes-Benz EQS SUV แบ่งการตกแต่งเป็น 2 แบบ ได้แก่ Electric Art และ AMG-Line โดยจะถุกผลิตขึ้นในโรงงาน Tuscaloosa รัฐ Alabama สหรัฐอเมริกา และเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ต้นปี 2023 เป็นต้นไป
สำหรับความคืบหน้าการทำตลาดในประเทศไทยทางทีมงาน Headlightmag จะนำมารายงานให้ทราบอีกครั้ง
ที่มา: Mercedes