หลังจากวางจำหน่ายมาแล้ว 3 ปี ก็ถึงเวลาปรับโฉมให้กับ SUV 3 แถว 8 ที่นั่ง ที่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ยอดขายและรางวัลที่ได้รับ KIA เคลมว่า Telluride สามารถดึงความสนใจจากลูกค้ารายใหม่ได้มากถึง 3 ใน 4 ของยอดขายทั้งหมด อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ เป็นหนึ่งในรุ่นที่ลูกค้าพึงพอใจสูงสุด

นี่อาจเป็นสาเหตุที่ KIA ตัดสินใจคงแนวคิดเดิมไว้ เพียงแค่เสริมภาพลักษณ์ความเป็นตัวลุยของครอบครัว ที่ทุกคนยังเข้าถึงได้ง่ายเช่นเคย ซึ่งแตกต่างจากเพื่อนร่วมงานวิศวกรรมอย่าง Hyundai Palisade ที่ตัดสินใจยกหน้าใหม่สร้างความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า แต่ KIA จะเน้นไปที่การเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ถึง 2 รุ่น X-Line และ X-Pro ที่เน้นภาพลักษณ์การลุยและทำกิจกรรมกลางแจ้งมากขึ้น

ภายนอกมากับงานออกแบบใหม่หลายจุด แต่ยังคงไว้ซึ่งเค้าโรงเดิม ตั้งแต่กันชนหน้าและกระจังหน้าใหม่ พร้อมปรับรายละเอียดภายในโคมไฟหน้า LED และไฟตัดหมอก LED ทรงใหม่ ทั้งหมดนี้ทำให้ Telluride ดูดุดันยิ่งขึ้น ใช้เส้นสายที่แข็งแกร่งมาเสริมให้ดูแตกต่าง พร้อมตรา KIA แบบใหม่ตรงกลางกระจังรังผึ้งสีดำ

ด้านท้ายไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก นอกจากกันชนท้ายทรงใหม่ แต่ยังคงไว้ซึ่งไฟท้าย LED ทรงเดิม เปลี่ยนรายละเอียดภายในโดยแยกไฟถอยมาติดตั้งที่กันชนท้ายแทน ทำให้ไฟทรงบูมเมอแรงโดดเด่นยิ่งขึ้นยามกลางคืน

ด้านข้างมาพร้อมชายล่างของประตูทั้ง 4 บาน ออกแบบใหม่ พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ทุกรุ่นย่อย

มิติตัวถัง:

• ความยาว: 5,001 มม.
• ความกว้าง: 1,989 มม.
• ความสูง: 1,750 มม.
• ฐานล้อ: 2,900 มม.

Photo taken in California, United States

ภายในมาพร้อมคอนโซลออกแบบใหม่ เพื่อให้สอดรับกับจอคู่ทั้งมาตรวัดและจอกลาง ขนาดเท่ากันที่ 12.3 นิ้วที่เชื่อมต่อกันเป็นแนวยาว ช่องแอร์เปลี่ยนดีไซน์ให้เพรียวบางลง รับกับเส้นสายแบบใหม่ตามสมัยนิยม พร้อมพวงมาลัยทรงใหม่และการปรับโทนสีวัสดุภายในใหม่

จอ Head-up display แบบสีขนาดใหญ่ กระจกมองหลังแบบ Full Display Mirror with HomeLink พร้อมฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าติดตั้งระบบ Auto Close

ระบบ infotainment ได้รับการอัพเกรดจาก Kia Connect services ทั้งกุญแจ Digital Key ที่สามารถใช้ iPhones Apple Watches และ โทรศัพท์ Samsung Galaxy ในการล๊อคและปลดล๊อค โดยสามารถแชร์กันภายในครอบครัวหรือเพื่อนที่ได้รับอนุญาตได้ รวมไปถึง Wi-Fi Hotspot ผ่านระบบ 4G ระบบเครื่องเสียง Harman/Kardon 10 ลำโพง พร้อม Apple CarPlay
Android Auto

เพิ่มจุดชาร์จ USB เป็นแถวละ 2 จุด (อัพเกรดจาก type-A เป็น type-C) เบาะนั่งระบบตรวจจับผู้โดยสารแถวหลังช่วยให้เพิ่มความปลอดภัยขณะเดินทางที่มีผู้โดยสารเป็นเด็กหรือสัตว์เลี้ยง ช่วยให้ผู้ขับขี่ตรวจสอบทุกที่นั่งก่อนออกจากรถ

สำหรับอุปกรณ์ในรุ่นย่อยใหม่ทั้ง 2 รุ่น ที่เน้นแนวผจญภัยกลางแจ้ง

รุ่น Telluride X-Line (มาแทน Telluride Nightfall Edition)

ภายนอก:
กระจังหน้าดีไซน์เฉพาะรุ่น
ราวหลังคาขนาดใหญ่
มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ
ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ลายเฉพาะรุ่น
ป้ายบอกชื่อรุ่น X-Line

ภายใน:
เบาะคู่หน้าปักชื่อรุ่น X-Line ที่พนักพิงด้านบน
การตกแต่งภายในด้วยสีเฉพาะ

ช่วงล่างและระบบกันสะเทือน:
เพิ่มระยะต่ำสุดจากพื้นอีก 10 มิลลิเมตร
ปรับปรุงมุมไต่เมื่อต้องปีนป่าย
เพิ่มโหมดลากจูง พร้อมระบบช่วยเหลือ shift logic และ sway control
อัพเกรดระบบควบคุมการทรงตัว

รุ่น Telluride X-Pro (สิ่งที่เพิ่มจากรุ่น X-Line)

ภายนอก:
ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง All-terrain จาก Continental
ป้ายบอกชื่อรุ่น X-Pro

ภายใน:
เบาะคู่หน้าปักชื่อรุ่น X-Pro ที่พนักพิงด้านบน
Power outlet 110V ที่ด้านท้ายรถ

ช่วงล่างและระบบกันสะเทือน:
เพิ่มขีดจำกัดในการลากจูงจาก 5,000 ปอนด์เป็น 5,500 ปอนด์

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง

KIA แจ้งว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้ ยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซินบล๊อคเดิม

เครื่องยนต์ Lambda II รหัส G6DN เบนซิน V6 DOHC 24 วาล์ว 3.8 ลิตร 3,778 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 96.0 x 87.0 มิลลิเมตร กำลังอัด 13.0 : 1 จุดระเบิดแบบ Atkinson Cycle ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Gasoline Direct-injection (GDi) กำลังสูงสุด 295 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 355 นิวตันเมตร (36.2 ก.ก.-ม.) ที่ 5,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ เพิ่ม Tow mode สำหรับการลากจูง

โหมดการขับขี่ 4 โหมดได้แก่ Smart Eco Sport และ Comfort นอกจากนี้ยังเพิ่มอีก 2 โหมดสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Snow และ AWD Lock

ตัวเลขสมรรถนะ

อัตราเร่ง 0 – 60 ไมล์/ชัวโมง ภายใน 7.2 วินาที

ระบบบังคับเลี้ยว

Rack and pinion แบบพาวเวอร์ไฟฟ้า แบบ Column Mounted Motor Driven Power Steering (C-MDPS)

ระบบกันสะเทือน

ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ MacPherson Strut พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบอิสระ Multi-Link และระบบปรับสมดุลระหว่างช่วงล่างด้านหลังกับด้านหน้า ขณะบรรทุกหนัก Self-Leveling Suspension (ออฟชั่น)

ระบบห้ามล้อ

ระบบห้ามล้อเป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ จานเบรกคู่หน้า มีครีบระบายความร้อน เส้นผ่าศูนย์กลาง 340 มิลลิเมตร ส่วนจานเบรกคู่หลังเป็นแบบปกติ เส้นผ่าศูนย์กลาง 305 มิลลิเมตร
เพิ่มระบบ Downhill Brake Control (DBC) เพื่อช่วยควบคุมรถขณะลงทางลาดชัน

ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่

ระบบ ADAS เพิ่มเติมดังนี้

• ระบบตรวจจับพร้อมควบคุมความเร็วตามกฎหมายกำหนด Intelligent Speed Limit Assist
• ระบบควบคุมความเร็วภายใต้ข้อมูลจากระบบนำทาง Navigation-based Smart Cruise Control – Curve (ออฟชั่น)
• ระบบรักษาระยะห่างกับคันข้างหน้าระหว่างใช้ความเร็วบนทางหลวง พร้อมตรวจสอบตำแหน่งเลนที่ถูกต้อง Highway Driving Assist 2 (ออฟชั่น) (Highway Driving Assist 1.5 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน)
• ระบบตรวจจับยานพาหนะตามจุดตัดและแยกขณะเลี้ยวรถ พร้อมช่วยเบรกฉุกเฉิน Forward Collision Avoidance – Junction Turning
• ระบบตรวจจับยานพาหนะตามจุดตัดและแยกขณะเคลื่อนตัวผ่านแยก พร้อมช่วยเบรกฉุกเฉิน Forward Collision Avoidance – Junction Crossing (ออฟชั่น)
• ระบบหลีกเลี่ยงการปะทะกับสิ่งกีดขวางขณะเคลื่อนตัวตามจราจร Forward Collision Avoidance – Lane Change Oncoming (ออฟชั่น)
• ระบบหลีกเลี่ยการชนด้านหน้ากับพาหนะ 2 ล้อ/4 ล้อ ขณะเปลี่ยนเลน ด้วยการช่วยบังคับเลี้ยว Forward Collision Avoidance – Lane Change Side (ออฟชั่น)
• ระบบหลีกเลี่ยการชนด้านหน้ากับพาหนะทุกรูปแบบและคนเดินเท้าขณะขับขี่ทางตรง ด้วยการช่วยบังคับเลี้ยว Forward Collision Avoidance – Evasive Steering Assist (ออฟชั่น)

นอกจากนี้ยังมีระบบ ADAS ที่มีอยู่เดิม ดังนี้

• ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
• ระบบหลักเลี่ยงการชนด้านหน้า พร้อมระบบตรวจจับคนเดินเท้า Forward Collision Avoidance Assist with Pedestrian Detection (FCA)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HBA)
• ระบบเตือนการออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
• ระบบบังคับควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA) และ Lane Following Assist (LFA)
• ระบบหลักเลี่ยงการชนจากมุมอับสายตาขณะถอยหลัง Blind Spot Collision-Avoidance Assist-Rear (BCA-R)
• ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot View Monitor (BVM) (ออฟชั่น)
• ระบบตรวจสอบการควบคุมของผู้ขับขี่ Driver Attention Warning (DAW)
• ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมเคลื่อนตัวตามรถข้างหน้า Smart Cruise Control with Stop & Go
• ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist (RCCA)
• เซนเซอร์ตรวจจับระยะพร้อมระบบแจ้งเตือนด้านหน้า-หลัง Parking Distance Warning – Forward and Reverse
• กล้องมองภาพรอบคัน Surround View Monitor (SVM) (ออฟชั่น)
• ระบบตรวจสอบยานพาหนะขณะลงจากรถ Safe Exist Assist (SEA)

สีภายนอกมีให้เลือกเพิ่มอีก 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Midnight Lake Blue สีแดง Dawning Red และ สีเขียว Jungle Wood Green

ที่มา: KIA