หลังจากที่ Honda ประกาศความร่วมมือกับ Sony อย่างเป็นทางการ แต่ได้เปรยไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยังคงไว้ซึ่งความร่วมมือกับ GM ซึ่งแยกจุดประสงค์และการดำเนินงานออกจากกันอย่างชัดเจน
ณ วันที่ 5 เมษายน 2022 Honda และ GM จึงได้ร่วมแถลงการถึงความร่วมมือระหว่าง 2 บริษัท เพื่อสร้างรถ EV ใน Segment ที่จับต้องได้ โดยตั้งเป้าวางจำหน่ายทั่วโลก บนพื้นฐานเทคโนโลยี Next-generation Ultium battery ของ GM
ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถเข้าถึงรถ EV ได้ง่ายขึ้น โดย GM กำลังพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ lithium-metal silicon และ solid-state รวมไปถึงกระบวนการผลิตที่จะปรับปรุงและเพิ่มศักยภาพของการผลิตแบตเตอรี่ ในขณะที่ Honda กำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียม All-solid-state battery เข้าสู่กระบวนการผลิต เนื่องจากเห็นว่าเป็นจุดเปลี่ยนของอนาคตของรถ EV
ทั้ง 2 ค่ายเคยร่วมมือกันมาแล้วหลายโครงการทั้งด้านขุมพลังไฟฟ้าและระบบขับขี่อัตมัติ โดยในปี 2013 ได้เริ่มพัฒนาขุมพลัง Hydrogen fuel-cell รุ่นใหม่ พร้อมเทคโนโลยีถังบรรจุปรับปรุงใหม่ ในปี 2018 Honda ได้เจรจากับ GM อีกครั้ง เพื่อร่วมกันสร้างเทคโนโลยีแบตเตอรี่สำหรับรถ EV รุ่นใหม่ จนกระทั่งในปี 2020 ได้ประกาศแผนการพัฒนารถ EV ร่วมกันถึง 2 รุ่น หนึ่งในนั้นคือ Honda Prologue ภายใต้พื้นฐานของ GM Ultium platform ที่เตรียมเปิดตัวในปี 2024 รวมไปถึงรถ EV คันแรกของ Acura

(Honda e)
เป้าหมายสำคัญของการร่วมมือครั้งล่าสุดนี้ คือการผลิตรถ EV ในสเกล Global production จำนวนหลักหลายล้านคัน เริ่มตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป โดยจะมี Compact crossover เป็นหนึ่งในหัวหอกสำคัญ เนื่องจากเป็น Segment ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และกินส่วนแบ่งทางตลาดมากที่สุดจากจำนวนยอดขายทั่วโลกกว่า 13 ล้านคัน ต่อปี ผ่านตลาดหลักของทั้งคู่ ใน อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และจีน

(Hummer EV)

(Hummer EV modular platform with Ultium technology)
เมื่อพิจารณาแผนการเข้าสู่ยุค Decarbonization ของ GM จะพบว่า ภายในปี 2040 จะยกเลิกการขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในสำหรับตลาดโลก แต่จะเริ่มใช้นโยบายนี้กับรถยนต์ขนาดเล็กสำหรับตลาดสหรัฐอเมริกาก่อนในปี 2035 โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า GM จะต้องมีส่วนพลักดันให้โลกเข้าสู่ยุคของ EV ได้เร็วกว่าที่ค่ายรถยนต์อื่นคาดการณ์ไว้

(2024 Honda PROLOGUE)
ทางด้าน Honda ก็มีแผนที่จะยกเลิกการทำตลาดรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ก่อนปี 2050 จึงจำเป็นต้องผลักดันให้ต้นทุนการผลิตรถ EV ลดลงในระดับการผลิตจำนวนมาก สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในอนาคตอันใกล้นี้

GM ยังกล่าวปิดท้ายถึงรถ EV ที่จะทำตลาดต่ำกว่า Chevrolet Equinox EV ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของรถ EV ในกำลังการผลิตกว่า 2 ล้านคัน ภายใต้แผนการผลิตปี 2025 นี้
————————///————————
PLUG_IN: ความร่วมมือระหว่างค่ายรถยนต์ หรือแม้แต่กระทั่งบริษัท Tech company ไปจนถึง Startup เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นทุกวัน เนื่องจากการพัฒนาและผลิตรถ EV ยังต้องการเทคโนโลยีล้ำสมัยอีกจำนวนมาก นอกจากจะทำให้รถมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสมเหตุสมผลกว่าในปัจจุบัน เพื่อความยั่งยืนของกระบวนการผลิตโดยรวม ที่สำคัญต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
————————///————————
ที่มา: Honda , GM
อ่านเพิ่มเติม: จับตาดีลใหญ่ ! Honda จับมือ SONY ตั้งบริษัทผลิตและขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ภายในปี 2025