Nissan เตรียมยกเลิกขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายในล้วนในยุโรป ปี 2023 นี้

ตามกันมาติดๆกับความเคลื่อนไหวของค่ายรถแดนอาทิตย์อุทัยในฝั่งภูมิภาคยุโรป Nissan เป็นอีกหนึ่งค่ายที่แถลงแผนการเปิดตัวรถในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเตรียมหยุดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในล้วน ภายในปี 2023 Nissan ตั้งเป้ายอดขายกว่า 75% ของปีงบประมาณ 2026 จากกลุ่มรถไฟฟ้า ก่อนที่จะเดินหน้าอย่างเต็มตัวในปี 2030 ด้วยบรรดารถ EV บนพื้นฐาน CMF-EV รวมกว่า 15 รุ่น ในขณะที่ พื้นฐาน CMF-BEV จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2024

นอกจากนี้ยังมีการจัดการ ecosystem ให้สอดคล้องกับการใช้รถ EV โดยเฉพาะการจัดการพลังงานของแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งศูนย์กลางตั้งอยู่ที่เมือง Sunderland ประเทศอังกฤษ ชื่อว่า EV36Zero ที่มีส่วนประกอบต่างๆ ครบวงจร ตั้งแต่โรงงานประกอบรถยนต์ การผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้มุ่งเข้าสู่ยุค Carbon neutral ตามสมัยนิยม

Nissan มุ่งมั่นที่จะส่งมอบขุมพลังพ่วงระบบไฟฟ้าที่มีความหลากหลาย โดยเฉพาะในตัวถัง Crossover เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ไล่ตั้งแต่ เทคโนโลยี Hybrid ใน Juke เทคโนโลยี e-POWER ใน Qashqai และ X-Trail ใหม่ รวมไปถึง รถ EV ตัวล่าสุดของค่ายอย่าง Ariya ซึ่งทั้งหมดนี้จะพร้อมส่งมอบภายในเดือนสิงหาคม ปี 2022

(Nissan Chill-Out concept ที่อาจจะมาทดแทน Nissan Leaf)

(Nissan Surf-Out concept)

(Nissan Hang-Out concept)

(Micra EV)

ไลน์อัพรถ Hybrid e-POWER และ EV ในปัจจุบันและเร็วๆ นี้ ประกอบไปด้วย

JUKE Hybrid – ด้วยการใช้เทคโนโลยีระบบ Hybrid จาก Renault ที่ผสมผสานขุมพลังไฟฟ้าเข้ากับระบบส่งกำลังที่ได้รับการถ่ายทอดงานวิศวกรรมจากสนามแข่ง F1 อย่าง Multi-modal transmission เพื่อให้การตอบสนองที่ฉับไวและมอบความสนุกในการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยี e-Pedal Step system ที่ Nissan พัฒนามาโดยเฉพาะกับขุมพลังไฟฟ้า โดยจะสามารถใช้แป้นคันเร่งในการควบควบการเคลื่อนที่ของรถตั้งแต่การเร่ง การชะลอความเร็ว จนกระทั่งรถใกล้ถึงจุดหยุดนิ่งที่ความเร็วประมาณ 5 กม./ชม.

Qashqai e-POWER – เป็นการแนะนำคู่หูใหม่ของระบบ e-POWER ที่จับคู่เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ แปรผันอัตราส่วนกำลังอัดได้ตั้งแต่ 8:1 และ 14:1 ให้กำลังสูงสุด 158 แรงม้า (PS) เป็นต้นกำเนิดพลังงานไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ขับเคลื่อนกำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า โดยสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตามที่ Nissan เคลมไว้ที่ 53.3 mpg (UK) หรือ 18.9 กิโลเมตร/ลิตร และปล่อยมลภาวะที่ 119 กรัม/กิโลเมตร ด้วยเอกลักษณ์การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ของระบบ e-POWER ทำให้มีอัตราเร่งที่ต่อเนื่องและลื่นไหล โดยการเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ที่ทรงพลังขึ้นพร้อมเทคโนโลยีใหม่นี้ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของระบบได้อย่างชัดเจน

All-new X-Trail e-POWER – ณ ตอนนี้ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ Nissan เผยว่า X-trail จะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ e-4ORCE ที่ใช้มอเตอร์คู่ ติดตั้งที่เพลาหน้าและหลัง ซึ่งคาดว่าจะใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกับ Qashqai แต่อาจปรับจูนเพื่อให้สอดคล้องกับพละกำลังมอเตอร์ที่มากขึ้น รวมไปถึงน้ำหนักตัวรถที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ในขณะที่รถ EV ที่พร้อมวางจำหน่ายในปัจจุบัน ประกอบไปด้วย

LEAF – ผู้บุกเบิกตลาดรถไฟฟ้าที่เข้าถึงคนทั่วไปได้ตั้งแต่ปี 2010 ด้วยยอดขายสะสมกว่า 577,000 คัน ที่คิดเป็นระยะทางรวมกว่า 9 พันล้าน กิโลเมตร ในรุ่นปัจจุบัน Leaf ยังคงไว้ซึ่งราคาที่จับต้องได้ พร้อมกับเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย ทั้งการเชื่อมต่อต่างๆ รวมไปถึงประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่สูงขึ้นในรุ่นอัพเดทปี 2022 นี้

Ariya – รถ EV ที่ Nissan หมายหมั่นปั้นมือให้เป็นหัวหอกในการลุยศึก Crossover อย่างเต็มตัว ด้วยพื้นฐานที่ร่วมพัฒนากับ Renault อย่าง CMF-EV platform ทำให้เป็นรถที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง และยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ พร้อมทางเลือกระบบส่งกำลังตั้งแต่ มอเตอร์เดี่ยวแบตลูกเล็ก มอเตอร์เดี่ยวแบตลูกใหญ่ และมอเตอร์คู่ที่เน้นความแรงภายใต้ชื่อระบบ e-4ORCE

Townstar – รถเพื่อการพาณิชย์ในรูปแบบขุมพลังไฟฟ้า 100% ที่พัฒนาร่วมกับ Renault Kangoo มุ่งไปที่กลุ่มผู้ใช้งานที่มองหารถ EV ที่มีความยืดหยุ่น ด้วยระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้งกว่า 300 กม. ตามมาตรฐาน WLTP เพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการทั้งความอเนกประสงค์และความคุ้มค่าเชิงธุรกิจ ได้ทำรถรุ่นนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของการขนส่งที่ยั่งยืนในอนาคตอันใกล้นี้