หลังจากที่ Ford ประกาศแนวทางการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายใน ให้อยู่ภายใต้แบรนด์ Ford Blue ที่จะดูแลรถสมรรถนะสูงอย่าง Mustang รวมไปถึงรถกระบะ F-150 ที่ยังคงพึ่งพาเครื่องยต์สันดาปภายในอยู่ ในขณะที่ Ford Model E จะแยกออกไปทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มตัว
ล่าสุด Ford ได้จดสิทธิบัตรเครื่องยนต์สันดาปภายในพลังงานไฮโดรเจนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่าไม่เหมือนกับขุมพลัง Hydrogen fuel-cell ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งใช้การทำปฏิกิริยาเคมีระหว่างเซลล์เชื้อเพลิงกับไฮโดรเจน สร้างพลังงานไฟฟ้าให้กับระบบขับเคลื่อน โดย Ford ใช้เครื่องยนต์ที่ฉีดจ่ายน้ำมันแบบ Direct-Injection พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharger
ในทางทฤษฎีนั้น เครื่องยนต์ที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงสามารถเผาไหม้ภายใต้อัตราส่วนผสมระหว่างอากาศและเชื้อเพลิงสูงกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป กล่าวคือ เครื่องยนต์เบนซินทั่วไปสามารถทำ Lean combustion ได้ ที่อัตราส่วน อากาศ ต่อ เชื้อเพลิง ที่ 18.5 ต่อ 1 ในขณะที่เครื่องยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนจะสามารถใช้อากาศในปริมาณมากกว่า ในอัตราส่วนสูงถึง 68 ต่อ 1 เพื่อเป็นการลดปริมาณเชื้อเพลิงต่อ 1 รอบของการเผาไหม้
รายละเอียดสิทธิบัตรนี้ยังอ้างด้วยว่า การใช้ระบบฉีดจ่ายน้ำมันแบบ Direct-Injection สามารถทำให้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนสร้างกำลังได้มากกว่าเชื้อเพลิงเบนซินที่ใช้พื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกัน ได้มากถึง 15% นอกจากนี้ Ford ยังนำแนวคิดนี้ พ่วงกับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้กลายเป็น Hybrid system อย่างไรก็ตามสิทธิบัตรนี้ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับระบบ Hybrid ดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งหมดนี้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นต้นกำลังของรถยนต์ โดยที่สามารถลดปริมาณสารประกอบ Hydrocarbon ที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้ เพื่อยังคงไว้ซึ่งการใช้งานของเทคโนโลยีที่ยังแพร่หลายในปัจจุบัน เป็นอีกทางเลือกนอกจากขุมพลังไฟฟ้า 100% หรือ เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน
————————///————————
ที่มา: Motor1 , Musclecarsandtrucks