ราคาอย่างเป็นทางการ Nissan Almera 1.0 Turbo (MY 2022)

• 1.0 Turbo S CVT : (Discontinued)
• 1.0 Turbo E CVT : 509,000 บาท
• 1.0 Turbo EL CVT : 559,000 บาท
• 1.0 Turbo V CVT : 619,000 บาท (เพิ่มขึ้น 10,000 บาท)
• 1.0 Turbo VL CVT : 649,000 บาท (เพิ่มขึ้น 10,000 บาท)
• 1.0 Turbo V SPORTECH CVT : (Discontinued)
• 1.0 Turbo VL SPORTECH CVT  669,000 บาท (เพิ่มขึ้น 10,000 บาท)

สีขาวและสีส้ม เพิ่มเงิน 10,000 บาท / สีเทา เพิ่มเงิน 5,000 บาท / สี Two-Tone ขาว-เทา เพิ่มเงิน 5,000 บาท / สีขาวหลังดำ เพิ่มเงิน 15,000 บาท และสีเทาหลังคาดำ เพิ่มเงิน 10,000 บาท

นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก เมื่อ เดือนตุลาคม 2011 วันนี้ Nissan Almera มีอายุในตลาดเมืองไทย ครบ 10 ปี และมีตัวเลขยอดขายสะสม นับถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2022 มากถึง 237,116 คัน แถมยังมีการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น (เฉพาะรุ่นแรก) Australia Vietnam , Brunai , Phillipines ฯลฯ

เพื่อกระตุ้นตลาดและรักษาระดับยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนเอาไว้ Nissan จึงเปิดตัว Almera 1.0 Turbo รุ่นตกแต่งพิเศษ Sportech Model Year 2022 ในงาน Bangkok International Motor Show เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2022 โดยยังไม่มีการปรับปรุงงานด้านวิศวกรรมใดๆเพิ่มเติม มุ่งเน้นแต่เพียงการปรับรูปโฉมให้กับ Almera Sportech เป็นหลัก

รายการอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Almera 1.0 Turbo (MY 2022)

• สีตัวถังใหม่ Two-tone ขาวหลังคาดำ และ เทาหลังคาดำ (สำหรับ V, VL และ VL SPORTECH)
• สี Two-tone ตกแต่ง หลังคาสีดำเงา
• เสาหลังคาคู่หน้า กลาง และหลัง สีดำเงา
• กระจกมองข้างสีดำเงา
• สปอยเลอร์หลังสีดำเงา (เฉพาะรุ่น VL SPORTECH)
• กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED พับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ (รุ่น EL ขึ้นไป)
• ล้ออัลลอย ขนาด 15 นิ้ว ปัดเงารมดำ ลายใหม่
• ภายในตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ Piano Black ตัดสีเทา Dark Grey (เฉพาะรุ่น VL SPORTECH)
• มือจับแผงประตู สีโครเมียม สีเงิน และลาย Carbon Fibre
• กระจกมองหลังแบบไร้ขอบ
• วิทยุ AM/FM พร้อมจอ Touchscreen 8 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ Nissan Connect
• เบาะนั่ง หุ้มด้วยหนัง Quole Modure ลดการอมความร้อน ขณะจอดตากแดด
• ระบบเปิด – ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
• พวงมาลัยหุ้มหนัง D-Shape และหัวเกียร์หุ้มหนังแบบ Soft Touch
• ตำแหน่ง Push Start ใหม่ ย้ายไปไว้ที่ฐานคันเกียร์ ตกแต่งด้วย Trim Piano Black และ สี Silver
• เพิ่มถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (รุ่น V ขึ้นไป)

ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension

• ความยาว  4,495 มิลลิเมตร
• ความกว้าง 1,740 มิลลิเมตร
• ความสูง 1,460 มิลลิเมตร
• ความยาวฐานล้อ  2,620 มิลลิเมตร
• ความกว้างล้อคู่หน้า / หลัง  1,625 / 1,635 มิลลิเมตร
• ระยะตำ่สุดใต้ท้องรถ  135 มิลลิเมตร
• นำ้หนักตัวรถ 1,070 – 1,079 กิโลกรัม

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Engine & Drivetrain

เครื่องยนต์ รหัส HRA0 เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ขนาด 1.0 ลิตร 999 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 72.2 x 81.3 มิลลิเมตร กำลังอัด 9.5 : 1 พ่วง Turbocharger กำลังสูงสุด 100 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร ที่ 2,400 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTronicCVT พร้อม D-Step Logic ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ความจุถังน้ำมัน 35 ลิตร

ระบบบังคับเลี้ยว
Steering Wheel

พวงมาลัยเป็นแบบ Rack and Pinion พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า EPS (Electronic Power Steering) หมุนจากซ้ายสุดไปถึงขวาสุด 2.96 รอบ รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด อยู่ที่ 5.2 เมตร

ระบบกันสะเทือน
Suspension

• ช่วงล่างด้านหน้า แบบอิสระ MacPherson Strut พร้อม Coil Spring จาก Tokico และ เหล็กกันโคลง
• ช่วงล่างด้านหลัง แบบคานบิด Torsion Beam พร้อม Coil Spring จาก Tokico และเหล็กกันโคลง

อุปกรณ์มาตรฐาน – Option ของแต่ละรุ่นย่อยของ Almera 1.0 Turbo (MY 2022) มีดังนี้ 

รุ่น E CVT – 509,000 บาท

ภายนอก
Exterior

• กระจังหน้าแบบโครเมียม
• กันชนหน้า-หลัง สีเดียวกับตัวรถ
• มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
• ไฟหน้า Halogen
• ไฟเลี้ยวด้านข้างบนตัวรถ
• ไฟท้ายแบบ Signature Light พร้อมไฟเบรกแบบ LED
• กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ปรับด้วยสวิตช์ไฟฟ้า
• ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง
• ไล่ฝ้ากระจกหลัง แบบตั้งเวลา
• เสาอากาศ แบบสั้น
• กระทะล้อเหล็ก สวมยางขนาด 105/65R15

ภายใน
Interior

• ตกแต่งภายในโทนสีดำ
• เบาะผ้าสีดำ ตกแต่งขอบด้วยสีเทา
• เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง – ต่ำได้
• วัสดุขึ้นรูปสีดำ ตกแต่งคอนโซลหน้า
• วัสดุ Trim สีเงินและดำ ตกแต่งช่องแอร์
• ตกแต่งคอนโซลกลาง ด้วยวัสดุ Trim สีดำ
• ตกแต่งบริเวณหัวเกียร์ ด้วยวัสดุ ยูริเทน
• พวงมาลัยยูริเทน 3 ก้าน ทรงสปอร์ต ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน ปรับสูง-ต่ำ และใกล้-ห่างได้
• กุญแจรีโมท
• มาตรวัดแบบเรืองแสง Fine Vision Meter แบบ Analog
• หน้าจอแสดงข้อมลการขับขี่ MID (Multi Information Display)
• กระจกหน้าต่างไฟฟา รอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ Jam Protection เฉพาะด้านคนขับ
• แผงบังแดดด้านหน้า พรอมกระกแต่งหน้า ทั้งฝั่งคนขับและผู้โดยสาร
• ช่องเก็บเอกสารหลังเบาะผู้โดยสารตอนหน้า
• พนักพิงศีรษะ สำหรับเบาะนั่งด้านหน้า และผู้โดยสารด้านหลัง 3 ตำแหน่ง
• ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
• ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
• ไฟห้องสัมภาระท้ายรถ
• ช่องวางแก้วตอนหน้า 2 ตำแหน่ง
• ช่องวางขวดน้ำ บริเวณแผงประตูหน้า-หลัง 4 ตำแหน่ง
• กล่องเก็บของด้านหน้า
• มือจับด้านใน 3 ตำแหน่ง (ผู้โดยสารด้านหน้าซ้าย 1 ด้านหลัง 2)
• เครื่องปรับอากาศ แบบมาตรฐาน
• ช่องจ่ายไฟสำรอง 12 V 2 ตำแหน่ง
• วิทยุ พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth USB และ AUX-IN
• ลำโพง 4 ตำแหน่ง

ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่
Safety System & Driving Assistant

• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual SRS
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (AntiLock Braking System)
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution System)
• ระบบเสริมแรงเบรก Brake Assist
• ระบบกุญแจ Immobilizer
• สัญญาณกันขโมย
• ปุ่มควบคุม Central Lock
• เข็มขัดนิรภัยคนขับ ELR ดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ Single Pre-tensioner & Load Limiter
• เข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
• จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก ISOFIX
• ระบบป้องกันเด็กเปิดประตูเองจากภายในรถ ที่บานประตูคู่หลัง
• โครงสร้างตัวถังนิรภัย Zone Body Concept
• ไฟเบรกดวงที่ 3
• ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC ( Vehicle Synamic Control)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist)

รุ่น EL – 559,000 บาท
บวกเพิ่มจากรุ่น E 50,000 บาท มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้น ดังนี้

• ไฟเลี้ยวด้านข้าง กระจกมองข้าง
• กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ปรับและพับด้วยสวิตช์ไฟฟ้า
• เสาอากาศแบบฝังในกระจกหลัง
• ล้ออัลลอย สวมยางขนาด 195/65 R15
• ตกแต่งช่องแอร์ด้านข้าง ด้วย วัสดุ Trim สีเงิน และ ดำ Piano Black
• ตกแต่งคอนโซลกลาง ด้วย Trim Piano Black
• เพิ่มสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์ บนพวงมาลัย
• กุญแจรีโมท Intelligent Key
• ปุ่ม Push Start
• แผงประตูคู่หน้า ประดับเพิ่มด้วยหนังสังเคราะห์
• ช่องจ่ายไฟสำรอง 12 V 1 ตำแหน่ง
• ระบบเตือนก่อนการชน IFCW (Intelligent Forward Collision Warning)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน IEB (Intelligent Emergency Braking

รุ่น V – 619,000 บาท
บวกเพิ่มจากรุ่น EL 60,000 บาท มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้น ดังนี้

• ไฟหน้า LED พร้อม LED Signature Light
• คอนโซลหน้า กแต่งด้วยวัสดุหุ้มหนังสังเคราะห์สีเทา เดินตะเข็บด้าย
• บริเวณหัวเกียร์ ตกแต่งด้วย วัสดุยูรีเทน และวัสดุสีเงิน
• เพิ่มสวิตช์ควบคุมหน้าจอ MID บนก้านพวงมาลัย
• มาตรวัดเรืองแสง Fine Vision Meter แบบ Digial ผ่านหน้าจอ TFT สี ขนาด 7 นิ้ว
• มาตรวัดอุณหภูมิภายนอก
• เพิ่มการตกแต่ง หนังสังเคราะห์ ที่แผงประตูคู่หลัง
• มือจับเปิดประตูด้านใน เป็นพลาสติกชุบโครเมียม
• เครื่องปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ
• วิทยุ AM/FM พร้อมหน้าจอ Monitor สี Touchscreen 8 นิ้ว พร้อมช่องต่อ Bluetooth USB AUX-IN
• ระบบเชื่อมต่อ Smartphone ทั้ง Apple Car Play และ Android Auto
• ลำโพง 6 ตำแหน่ง
• ถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Airbag)
• ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Curtain Airbag)
• กล้องมองภาพรอบคัน IAVM (Intelligent Around View Monitor)
• ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ/บุคคล เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน MOD (Moving Object Detection)

รุ่น VL – 649,000 บาท
บวกเพิ่มจากรุ่น V 30,000 บาท มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้น ดังนี้

• เพิ่มระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
• ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED
• ตกแต่งบริเวณหัวเกียร์ ด้วยวัสดุสีเงิน
• เบาะหนังสังเคราะสีดำ
• แผงประตูคู่หน้าและหลัง ตกแต่งด้วยหนังสังเคราะห์ แบบเดินตะเข็บ
• ระบบเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning
• ระบบเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

รุ่น VL SPORTECH – 669,000 บาท
บวกเพิ่มจากรุ่น VL 20,000 บาท มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้น ดังนี้

• กระจังหน้า โครเมียม ดำเงา
• กันชนหน้า-หลัง สีเดียวกับตัวรถ ตกแต่งด้วยสีเงิน
• กระจกมองข้าง สีเงิน ยังคงปรับและพับได้ด้วยสวิตช์ไฟฟ้า
• สปอยเลอร์หลัง สีเดียวกับตัวรถ
• ล้ออัลลอย สีดำ ปัดเงา สวมยางขนาด 195/65R15
• ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ พร้อมเดินด้ายเทาเข้ม
• พวงมาลัย เปลี่ยนวัสดุตกแต่งเป็นสีเทาเข้ม นอกนั้น เหมือน V และ VL
• คอนโซลหน้า ตกแต่งด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์สีดำ เดินตะเข็บด้ายสีเทาเข้ม
• ตกแต่งบริเวณช่องแอร์ด้านข้าง ด้วย Trim สีเทาเข้ม และดำ Piano Black
• หัวเกียร์ ใช้วัสดุหุ้มหนังสีเทาเข้ม
• แผงประตูหน้า-หลัง ใช้หนังสังเคราะห์ เดินตะเข็บด้ายสีเทาเข้ม

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ Click Here !