MG HS เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2019 ประเดิมด้วยรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร Turbo ก่อนจะมีการเผยโฉมเวอร์ชั่นขุมพลัง Plug-in Hybrid (PHEV) ตามออกมา เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2020 ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา MG HS ทั้ง 2 รุ่น ที่ชูจุดเด่นด้านการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมาให้อย่างครบครัน ในราคาที่คนส่วนใหญ่เอื้อมถึงได้ง่าย สามารถกอบโกยยอดขายและสร้างผลกำไรให้กับ SAIC Motor – CP ไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ล่าสุด MG Sales (ประเทศไทย) เตรียมเปิดตัวรุ่นปรับโฉม Minorchange ของ MG HS ทั้งรุ่น 1.5 Turbo และ PHEV ในวันที่ 21 มีนาคม 2022 ที่จะถึงนี้ จุดสำคัญที่จะมีการปรับปรุงคือภายนอกที่เปลี่ยนมาให้กระจังหน้า Digital Burning Grille อันเป็น Design Language ใหม่ ยกชุดมาจาก MG Pilot ในเมืองจีน
นับเป็นการอัพเดทความสดใหม่ครั้งสำคัญที่จะส่งผลต่อยอดขายของ HS ในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันมี Crossover SUV จากชาติเดียวกันอย่าง Haval H6 เข้ามาแชร์ส่วนแบ่งการตลาดโดยใช้สูตรสำเร็จคล้ายกัน คือ ดีไซน์สวย อุปกรณ์ Option ครบ จบในราคาสุดคุ้ม
ขนาดและมิติตัวถัง / Dimension
- ยาว 4,575 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,876 มิลลิเมตร
- สูง 1,664 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,720 มิลลิเมตร
- ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย : 463 – 1,287 ลิตร (เมื่อพับเบาะ)
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Engine & Drivetrain
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังของ MG HS 1.5 Turbo Minorchange เวอร์ชั่นไทย ยังคงมีรายละเอียดเหมือนเดิม ทั้ง 2 แบบ
ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor พละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ EDU II Gearboxเมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังรวมสูงสุด 284 แรงม้า 480 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion จำนวน 6 โมดูล ขนาด 16.6 kW พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Coolant สามารถแยกซ่อมแต่ละโมดูลได้ตัวเลขสมรรถนะจากโรงงาน
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.5 วินาที
- วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ได้ระยะทางไกลสุด 67 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)
รายละเอียดการปรับปรุงอุปกรณ์ ของ MG HS Minorchange
MG HS Minorchange ยังคงมี 3 รุ่นย่อย ตามเดิมคือ C, D และ X
รุ่น C (เพิ่มอุปกรณ์จากรุ่นก่อน Minorchange ดังนี้)
- ไฟหน้า LED
- ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว
- ชุดมาตรวัด ขนาด 7 นิ้ว
- หน้าจอกลาง ขนาด 10 นิ้ว
- เบาะนั่งฝั่งคนขับ ปรับด้วยสวิตช์ไฟฟ้า (เบาะผู้โดยสารด้านซ้ายยังเป็นคันโยกปกติ)
รุ่น D (เพิ่มอุปกรณ์ จากรุ่น C ดังนี้)
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ลายใหม่
- หลังคากระจก Panoramic Sunroof
- กุญแจ แบบ Digital Key สั่งการผ่านระบบ i-Smart เพื่อติดเครื่องยนต์ได้ โดยไม่ต้องใช้กุญแจ
- เบาะนั่ง Sport Seat สีฟ้า Monaco Blue ตัดกับ สีดำ ปรับด้วยไฟฟ้า ทั้งฝั่งคนขับ ทั้งและผู้โดยสารด้านซ้าย (ยกมาจากรุ่น X และ PHEV)
- กล้องมองหลัง 3 มิติ (3D Around View Camera)
- AR Navigation System ใช้กล้องเข้ามาช่วย แสดงภาพจริงบนมาตรวัด มีลูกศรบอกให้ตรงไปหรือเลี้ยวซ้าย-ขวา
- เพิ่มระบบ BLIS ประกอบไป BSD ,RCTA, LCA,DOW
รุ่น X (เพิ่มอุปกรณ์ เพิ่มจาก รุ่น D ดังนี้)
- คาลิเปอร์เบรก สีแดง
- จอ Monitor กลาง เพิ่มขนาดเป็น 12 นิ้ว เหมือน PHEV
รายละเอียดการปรับอุปกรณ์ ของ MG HS PHEV Minorchange
MG HS PHEV Minorchange ยังคงมีให้เลือก 2 รุ่นย่อยตามเดิม นั่นคือ D และ X
รุ่น PHEV D
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ลายใหม่
- ไฟหน้าแบบ Blue Colour Headlamp
- หน้าจอกลาง ขนาด 12 นิ้ว
รุ่น PHEV X (เพิ่มอุปกรณ์จากรุ่น D ดังนี้)
- คาลิเปอร์เบรก สีแดง
- ระบบความปลอดภัย ADAS เพิ่มระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
- ระบบ AEB กล้องกับเรดาห์ตรวจพบว่า มีแนวโน้มจะชนรถคันข้างหน้า ระบบจะเตือนผู้ขับขี่ก่อน ถ้าไม่มีการตอบสนอง จะสั่งเบรกเองทันที
รายละเอียด ข้อมูลทั้งหมด ตลอดจนราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ MG HS Minorchange สามารถติดตามได้ทาง Headlightmag.com ได้เร็วๆ นี้
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ Click Here !