Honda Integra เคยเป็นรถยนต์นั่ง ขนาด Compact 3 , 4 และ 5 ประตู ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อคั่นกลาง ระหว่าง Honda Civic และ Honda Accord ถูกเปิดตัวครั้งแรก ในปี 1985 ในฐานะ ตัวตายตัวแทนของ Honda Quint (1980)
ถึงแม้ว่าชื่อ Integra จะตราตรึงกับบรรดาแฟนๆ Honda ทั่วโลกในฐานะของรถสปอร์ต 2 ประตู ที่จับต้องได้ โดยรุ่นสุดท้ายในบอดี้คูเป้รหัสตัวถัง DC5 ในช่วงปี 2002-2006 แต่ Honda ก็ตัดสินใจยุติการทำตลาด Integra ไปนานเกิน 10 ปี แต่ล่าสุด Honda ก็ได้นำชื่อ Integra มาใช้กับรถ Sedan 4 ประตูที่สร้างบนพื้นฐาน CIVIC FE และวางขายในตลาดจีนโดยเฉพาะ ซึ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2021 ที่ผ่านมา
ทว่า ช่วงเวลาเดียวกัน Acura หรือแบรนด์รถหรูของ Honda ที่ทำตลาดอยู่ในทวีปอเมริกาก็ได้ออก Teaser ว่าพวกเค้าก็จะใช้ชื่อ Integra เช่นเดียวกันกับรถทรง 5 ประตูท้ายลาด Liftback ที่มาแทนรุ่น ILX รวมไปถึงการปล่อยซีรี่ส์ Anime ชื่อ Chiaki’s Journey ที่เรานำเสนอข่าวไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เป็นการยืนยันว่าจะมี Integra อีกรุ่นที่มาในเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวกว่าตลาดจีน ออกจำหน่ายในทวีปอเมริกา
วันนี้ Acura Integra สำหรับลูกค้าชาวอเมริกัน พร้อมเปิดให้ลูกค้าชาวอเมริกันได้จับจองเป็นเจ้าของกันแล้วเสียที
เหตุผลที่ตัวรถมาในรูปแบบ 5 ประตู ท้ายลาด นั่นเพราะว่า Honda วิจัยตลาดมานานพอสมควรจนพบว่า ยอดขายของ Civic Coupe ลดลงจนไม่คุ้มที่จะสร้างขึ้นมาใหม่อีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Civic Si Coupe เกียร์ธรรมดา ที่รรดานักนิยมความแรง ชื่นชอบกันนั้น กลับมียอดขายภาพรวมไม่ดีนัก ตลอดอายุตลาด จนต้องยกเลิกไป
ขณะเดียวกัน Integra ตัวถัง Coupe นั้น แม้จะมีความเป็นไปได้ แต่ต้นทุนก็ยังสูงเกินไป จนทำให้ลูกค้าเมิน Honda มองว่า ในโลกที่ทุกวันนี้ผู้คนหันไปหารถยนต์แนว Crossover กันมากขึ้น การสร้าง Integra ใหม่ บนตัวถัง Liftback 5 ประตู คือทางออกที่สวยที่สุด เพราะ กลุ่มลูกค้า Millenials ต้องการพื้นที่อเนกประสงค์ สำหรับการไปพักผ่อนหย่อนใจกับเพื่อน แม้ว่าพวกเขาจะใช้รถยนต์แบบเตี้ย ที่ไม่ใช่ SUV ก็ตาม
มิติตัวถัง
• ความยาว: 4,719 มม.
• ความกว้าง: 1,829 มม.
• ความสูง: 1,410 มม.
• ระยะฐานล้อ: 2,736 มม.
งานออกแบบภายนอกมาพร้อมกับกระจังหน้า Diamond Pentagon พร้อมไฟหน้า LED แบบ JewelEye® จำนวน 4 ดวง และ ไฟ DRL รูปทรงเฉี่ยวแตกต่างกับรุ่นอื่นๆของค่าย กันชนหน้าพร้อมสลักชื่อรุ่น Integra ที่ใต้ไฟหน้าฝั่งผู้ขับขี่ เป็นเอกลักษณ์ที่สืบทอดมาจากรุ่นที่ 3 หรือ DC2 กันชนท้ายทรงเฉี่ยวพร้อมสลักชื่อรุ่น Integra อีกเช่นกัน ท่อไอเสียออกแยก ซ้าย-ขวา ไฟท้าย LED ที่มีดีไซน์สอดรับกับไฟหน้า หลังคาซันรูฟเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วสำหรับรุ่นเริ่มต้น และขนาด 18 นิ้วสำหรับรุ่น A-Spec® อีกทั้งยังสามารถเลือกติดตั้งขนาด 19 นิ้วได้จากตัวแทนจำหน่าย
ภายในมากับลุคสปอร์ตและวัสดุพรีเมี่ยมตามจุดสัมผัสและปุ่มควบคุมต่างๆ ช่องแอร์แบบตะแกรงรูปทรงคล้าย Honda Civic แต่ไม่ได้ลากยาวตลอดคอนโซลหน้าและถูกแทนที่ด้วย Trim ตกแต่ง Piano black และย้ายตำแหน่งติดตั้งกระจกมองข้างมาไว้ที่ประตูเพิ่มความสปอร์ตและทัศนวิสัย เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์และเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ สีแดง และสีขาว ขึ้นอยู่กับสีภายนอก ที่นั่งด้านหลังมาพร้อมพื้นที่กว้างขวาง รวมไปถึงเบาะนั่งที่พับได้แบบ 60/40 มาตรวัดแบบจอดิจิตอลขนาด 10.2 นิ้ว จอกลาง Infotainment ขนาด 7 นิ้ว พร้อม Apple CarPlay® and Android Auto™ เครื่องเสียง Premium audio พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง และ USB Type-A 1 ตำแหน่ง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ในรุ่น A-Spec® จะเปลี่ยนวัสดุตกแต่งภายนอกเป็นสีดำเงาที่กันชนหน้า-หลัง และกรอบกระจกประตูรอบคัน ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED สปอยเลอร์ตูดเป็ดที่ฝาท้าย เพลท A-Spec® ที่ซุ้มล้อคู่หน้าและฝากระโปรงท้าย ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีเทา Shark Gray พร้อมยางขนาด 235/40 R18 ภายในเปลี่ยนด้ายเย็บเบาะ คอนโซล พวงมาลัย และหัวเกียร์เป็นสีแดงหรือสีขาว แป้นเหยียบแบบสปอร์ต เปลี่ยนสีเข็มมาตรวัดเป็นสีแดง
นอกจากนี้ยังมี Technology Package ให้เลือกติดตั้งในรุ่น A-Spec® ซึ่งจะยกทัพอุปกรณ์หลายรายการดังนี้
• ไฟส่องพื้นรูปโลโก้ Acura ที่ประตูคู่หน้า
• เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง พร้อมความจำ 2 ตำแหน่ง
• เบาะนั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
• เบาะนั่งเพิ่มวัสดุผ้า Microsuede
• ไฟ LED Ambient Light
• Remote Engine Start (สำหรับรุ่นเกียร์ CVT)
• จอแสดงผลขนาด 9 นิ้ว
• เครื่องเสียง ELS STUDIO® 3D Premium Audio System พร้อมลำโพง 16 ตำแหน่ง
• จอ Head Up Display (HUD) ขนาด 5.3 นิ้ว
• Wireless Charging
• USB Type-C 2 ช่อง ที่ด้านหลัง และ 1 ช่อง ที่ด้านหน้า
• Alexa Built-in
• ระบบเชื่อมต่อ AcuraLink™
• โหมดการขับขี่ Individual Mode
• ระบบช่วงล่าง Adaptive Damper System (ADS) เลือกได้ 3 แบบ Comfort Normal และ Sport
• สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า-หลัง
Powertrain
เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 73.0 x 89.5 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.3 : 1 ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct-Injection พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VTC และแปรผันระยะยกวาล์ว VTEC กำลังสูงสุด เพิ่มขึ้นจาก 203 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,000 รอบ/นาที (ยกมาจาก Civic SI) ส่งกำลังลงสู่ล้อคู่หน้า ด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม paddle shifters เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และมีเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ พร้อม automatic rev matching และ limited-slip differential (LSD) ให้เลือกใน Technology Package โหมดการขับขี่ Comfort Normal และ Sport และเพิ่ม Individual ใน Technology Package
ระบบบังคับเลี้ยว / Steering Wheel
แร็คแอนด์พิเนียนพร้อมมอเตอร์ผ่อนแรงแบบอัตราทดแปรผัน
ระบบกันสะเทือน / Suspension
ด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ด้านหลังแบบมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบห้ามล้อ / Brake
ดิสก์เบรกคู่หน้าพร้อมครีบระบายความร้อน ขนาด 12.3 นิ้ว
ดิสก์เบรกคู่หลัง ขนาด 11.1 นิ้ว
ระบบความปลอดภัย
– AcuraWatch™ Advanced Safety and Driver Assistive Technology
– ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
– ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ System Lane Keeping Assist System (LKAS)
– ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมปรับความเร็วตามคันหน้า Adaptive Cruise Control (ACC) with Low-Speed Follow
– ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Lane Departure Warning (LDW) System
– ระบบควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation (RDM) System
– ระบบเตือนการชนรถ และคนเดินถนน พร้อมระบบช่วยเบรก Collision Mitigation Braking System™ (CMBS™) with Advanced Pedestrian Detection
– ระบบเคลื่อนตัวรถตามการจราจรจนถึงจุดหยุดนิ่ง Traffic Jam Assist
– ระบบตรวจจับป้ายจราจร Traffic Sign Recognition
– ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Blind Spot Information System
– ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Monitoring
– ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง (คู่หน้า,ด้านข้างเบาะหน้า ,ด้านข้างเบาะหลัง , ม่านนิรภัย ,ตรงกลางระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสาร)
– โครงสร้างตัวถัง Acura’s Advanced Compatibility Engineering™ (ACE™)
Acura Integra จะถูกผลิตขึ้นในโรงงาน Marysville รัฐ Ohio และพร้อมให้สั่งจองได้ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2022 นี้ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่สี สีดำ Majestic Black Pearl ภายในสีดำ สีเทา Liquid Carbon Metallic ภายในสีแดง สีขาว Platinum White Pearl ภายในสีแดง และสีแนะนำ สีน้ำเงิน Apex Blue Pearl ภายใน สีขาว ด้วยราคาเริ่มต้นราว 30,000 สหรัฐ (993,930 บาท) และจะพร้อมส่งมอบในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ พิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งจอง 500 ท่านแรก จะได้รับ Nonfungible Token (NFT) เพื่อเป็นของที่ระลึกอีกด้วย
ที่มา: ACURA