ในอดีต Nissan สหรัฐอเมริกาเคยทำตลาด Sentra SE-R ที่เปิดตัวครั้งแรกในตัวถัง B13
เกรดย่อยที่ติดตั้งเครื่องยนต์แรงกว่ารุ่นมาตรฐานด้วยเครื่องยนต์ SR20DE 2.0 ลิตร
140 แรงม้า ถือว่าค่อนข้างแรงมากเมื่อเทียบกับขนาดตัวถัง แถมยังสามารถทำความเร็ว
0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 7.6 วินาที
แต่ดูเหมือนว่า Nissan Sentra SE-R ตัวถัง B15 (ตัวถังเดียวกับ Nissan Sunny B15
แต่คนละตัวถังกับ Sunny N16 ในบ้านเรา) เริ่มเป็นรุ่นจุดประกายที่ทำให้วัยรุ่นอเมริกัน
เริ่มยอมรับมากขึ้น เพราะนอกจากเครื่องยนต์ที่แรงแล้วก็ยังมีการปรับลุคและปรับแต่งรถ
ให้รองรับสมรรถนะเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรได้ และยังเพิ่มทางเลือก SE-R Spec V ที่แรงขึ้น
อีกระดับ และ ปรับลุคเลียนแบบ Nissan Skyline R34
สำหรับ Nissan Sentra SE-R โฉมล่าสุดก็จะเป็นโฉมตัวถัง B16 ก็มีให้เลือกทั้ง SE-R
มาตรฐานและ SE-R Spec V แต่ลุคภายนอกกลับไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมายอย่างที่
คิดนักเลยทำให้กระแส Sentra SE-R B16 เงียบเป็นพิเศษ
ล่าสุด Nissan กล้าสืบสานตำนาน Sentra SE-R ด้วยการเผยโฉม 2017 Nissan
Sentra NISMO ที่มาทั้งทีก็ต้องพิเศษกว่า Sentra SE-R เจเนเรชั่นก่อน ๆ พอสมควร
รูปลักษณ์ภายนอกจะเป็นการนำ Nissan Sentra Minorchange มาพัฒนาขึ้นใหม่
ในรูปลักษณ์ NISMO อันคุ้นเคยแก่ผู้เล่นรถทั่วโลก ถือว่าฉีกขนบ Sentra SE-R เดิม ๆ
และที่สำคัญ 2017 Nissan Sentra NISMO จะมีรายละเอียดการต่อยอดรูปลักษณ์
ที่แตกต่างไปจาก Nissan Sentra NISMO Concept ที่เคยอวดโฉมในปี 2013 ได้แก่
ปรับปรุงช่องดักลมกันชนหน้าให้ดูเหลี่ยมขึ้น, เปลี่ยนตำแหน่งไฟตัดหมอก LED ใหม่
, สเกิร์ตข้างที่มีการขึ้นรูปรายละเอียดสวยงาม
ส่วนบั้นท้ายดูใกล้เคียงกับรถต้นแบบมากที่สุด ด้วยกันชนท้ายดีไซน์ใหม่ แต่ลดเหลือ
ท่อไอเสียเพียงแค่ท่อเดียว และ มีการเปลี่ยนสปอยเลอร์ท้ายที่ดูดุดันกว่าเวอร์ชันต้นแบบ
2017 Nissan Sentra NISMO มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.29 เท่ากับ Sentra
รุ่นมาตรฐานแต่ออกแบบให้ลดแรงยกถึง 30% และ เพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้
เร้าใจจึงสวมยาง 215/45R18 Michelin Pilot Sport และลดความสูงของตัวรถลง
อีก 0.4 นิ้ว
ภายในห้องโดยสาร มีการเปลี่ยนเบาะคู่หน้าทรงสปอร์ตใหม่พร้อมบุหุ้มด้วยวัสดุผ้า
แบบใหม่ และ เดินด้ายสีแดง พร้อมกับตกแต่งรายละเอียดให้เข้ากับความเป็น NISMO
จุดขายสำคัญของ 2017 Nissan Sentra NISMO คงหนีไม่พ้นการปรับจูนสมรรถนะ
การขับขี่ของตัวรถที่บรรดา Aftermarket ไม่สามารถเซ็ตออกได้ดีเท่ารถที่ผลิตจาก
โรงงาน มีการเพิ่มความแข็งแกร่งของโครงสร้างตัวถังด้วยการเพิ่มความหนาของโครง
สร้างระหว่างห้องเครื่องและห้องโดยสารด้านหน้า, มีการปรับปรุงพื้นตัวถังและพื้นห้อง
สัมภาระท้ายให้ทนต่อการบิดตัวเพื่อรองรับเครื่องยนต์และช่วงล่างใหม่สไตล์ NISMO
2017 Nissan Sentra NISMO แรงด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร DIG-Turbo
190 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ที่ 2,400-5,200 รอบ/นาที
จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และ เกียร์ XtronicCVT พร้อม D-Mode Step Shift
การปรับแต่ง 2017 Nissan Sentra NISMO จะเป็นไปตามหลักการพัฒนาที่หวังให้
รถขับดีขึ้น 5 ประการ (และแน่นอนว่าต้องขับดีกว่า Nissan Sentra SR Turbo) ได้แก่
การตอบสนองบังคับควบคุม, การยึดเกาะถนน, ความรู้สึกของพวงมาลัย, การควบคุม
ตัวถังและสมดุลแห่งการขับขี่/การบังคับ
ช่วงล่างหน้าเป็นแบบอิสระและช่วงล่างหลังแบบทอร์ชันบีม ที่มีการติดตั้งแดมเปอร์
โมโนทู๊บ และปรับจูนสปริง/สตรัทสำหรับล้อคู่หน้าและหลังที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยลด
อาการโคลงของตัวรถ, ติดตั้งช็อกอัพโมโนทู๊บน้ำหนักเบา ที่มีการตอบสนองอย่างฉับไว
, แดมเปอร์ก็มีการตอบสนองไวต่อการเปลี่ยนพวงมาลัยและสภาพถนน
พวงมาลัยไฟฟ้าถูกปรับจูนให้เป็นแบบ NISMO Feel ที่มีการปฏิสัมพันธ์กับพื้นถนนและ
มีการตอบสนองที่ดีขณะขับขี่บนทางไฮเวย์และในสภาวะลมพัดผ่านแรง ถึงแม้ว่ามันติด
ตั้งมอเตอร์พวงมาลัยขนาดใหญ่และแม็ปปิ้งโปรแกรมแบบเดียวกับ Sentra SR ก็ตาม
การทุ่มทุนสร้าง Nissan Sentra NISMO ในครั้งนี้มันไม่ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเอาใจแฟน
Sentra แต่มันตั้งใจที่จะจับตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่เคยเป็นเจ้าของหรือคิดที่จะซื้อ
Sentra เลย เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการรถที่ขับสนุกสนานภายใต้ราคาที่ไม่โหดร้ายไปนัก
2017 Nissan Sentra NISMO จะขึ้นสายการผลิตที่โรงงาน Aguascalientes ประเทศ
เม็กซิโก ยกเว้นเครื่องยนต์เทอร์โบที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น
สำหรับ Nissan Sylphy NISMO ในบ้านเราต้องลุ้นว่ามันจะมีหรือไม่?
ที่มา : Nissan