ปฏิเสธไม่ได้ว่า MINI ในเจเนอเรชั่นนี้ ต้องยอมลดความเรโทรลง ใส่ประโยชน์ใช้สอยให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
มากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขาย ก่อนจะหมดมุกของแบรนด์กันไปก่อน นี่จึงทำให้เราได้เห็น
MINI ที่เปลี่ยนไปมาก ทั้งการเปิดตัวรุ่น 5 ประตู รุ่น Crossover ยกสูง ไปจนถึงการเตรียมรุ่นซีดาน 4 ประตู
ในเร็วๆนี้ และล่าสุดกับ 2016 MINI Clubman ซึ่งเปิดตัวออกมาแล้วเรียบร้อย
จากจุดเริ่มต้นของตัวถัง Clubman ใช้ตัวถัง 2 ประตู ขยายฐานล้อหน้า-หลัง และในอดีตถูกใช้เป็นรถขนส่งนมยอดนิยม
จนมาถึงโฉมที่แล้ว ซึ่งเป็นการผสมผสานความร่วมสมัยมากขึ้น โดยยังคงเน้นเอกลักษณ์ประตูหลังแบบตู้กับข้าวอยู่
แต่ก็มีการดัดแปลงรูปแบบให้เป็นตัวถัง 2+1 ประตู เพื่อตีตลาดกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเนื้อที่โดยสารและบรรทุกสัมภาระที่มากขึ้น
อยากเข้า-ออกตัวรถได้สะดวกมากขึ้น
สำหรับ MINI Clubman โฉมใหม่ ทีมออกแบบ MINI เปลี่ยนให้ Clubman มีความเป็นผู้ใหญ่ เพิ่มความเป็น
รถยนต์ครอบครัวมากขึ้น เน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก ลดเอกลักษณ์ลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการขยายตัวถัง
จนกลายเป็น MINI ที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยทำกันมา (4.23 เมตร )และเปลี่ยนมาใช้เป้นตัวถังแบบ 4 ประตูแทน เพื่อการเข้า-ออกที่ง่ายขึ้นไปอีก
แต่ยังคงเอกลักษณ์ประตูท้ายแบบตู้กับข้าว เพื่อไม่ให้หลุดความเป็น Clubman จนมากไป ซึ่งตัวประตูถูกออกแบบ
ให้มีแถบกระจกดำที่แคบลง เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยด้านหลังมากขึ้นจากรุ่นก่อน
จะเห็นได้ว่า MINI Clubman ยังคงรูปลักษณ์ด้านหน้าที่คล้ายกับ MINI Hatch (F56) แต่มีการปรับปรุง
กระจังหน้าเล็กน้อย เป็นครั้งแรกของ MINI ที่นำ Air Curtain และ Air Breather จาก BMW มาใช้ ดีไซน์
ด้านข้างตัวถังและด้านท้ายที่แตกต่างออกไป รวมถึงการย้ายไฟท้ายไว้บนฝาท้าย ในดีไซน์ทรงเรียวแนวนอน
จากเดิมที่เป็นทรงแนวตั้งยึดติดกับตัวถังและเจาะช่องบนฝาท้ายแทน สัดส่วนตัวรถมีความเป็นรถแวนแบบ Tourer มากขึ้น
ซึ่งเป็นผลมาจากการเน้นพื้นที่ในตัวรถ
รูปลักษณ์ภายในมีการออกแบบแผงแดชบอร์ดใหม่ ไม่สามารถใช้รวมกับ MINI Hatch ได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความแตกต่าง
จากเดิมที่ใช้แผงแดชบอร์ดร่วมกันได้ ออกแบบเน้นความหรูหราเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นโทนสี การเพิ่มวัสดุโครเมี่ยม
ในหลายจุด แต่ก็มีเอกลักษณ์ของ MINI เจเนอเรชั่นนี้อยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดความเร็วที่ย้ายมาอยู่หลังพวงมาลัย
ช่องแอร์ทรงเหลี่ยม หน้าจอระบบอินโฟเทนเมนต์ขนาด 2.7, 6.5 หรือ 8.8 กลางแผงแดชบอร์ดพร้อมวงไฟ LED
ทีมออกแบบ เน้นลูกเล่นบรรยากาศภายในห้องโดยสาร MINI Clubman ใหม่ เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น
ออพชั่น MINI Your Interior Styles ระบบไฟสร้างบรรยากาศทั้งภายนอกและภายในตัวรถ ซึ่งสามารถติดตั้ง
ระบบฉายไฟลงพื้น เมื่อเข้า-ออกตัวรถได้
เบาะนั่งยังถูกหุ้มหนังแท้ด้วยแพทเทิร์นลายเพชรใหม่ สร้างความหรูหรากว่าที่เคย และเป็นครั้งแรกที่ MINI ติดตั้ง
ระบบปรับเบาะไฟฟ้าพร้อมระบบจำ 3 ตำแหน่งมาให้ เบาะนั่งด้านหลังสามารถพับราบได้ สร้างพื้นที่สัมภาระมากถึง
1,250 ลิตร
ขุมพลังที่นำมาใช้ ยกชุดมาจาก MINI Hatch (F56) บางส่วน และมีเครื่องยนต์ใหม่ด้วย นำทีมโดยขุมพลังตระกูล TwinPower Turbo
ฟากเบนซิน เริ่มต้นจากเครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ในรุ่น Cooper Clubman
และแบบ 4 สูบ 2.0 ลิตร 192 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ในรุ่น Cooper S Clubman
ส่วนดีเซล ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เป็นครั้งแรกของ MINI สร้างกำลังได้ 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตัน-เมตร ในรุ่น Cooper D Clubman ขุมพลังทั้งหมด จะถูกเชื่อมต่อเข้ากับระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
และเป็นครั้งแรกของ MINI อีกเช่นกันที่มีระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ จาก BMW มาให้เลือกใช้
ด้วยตัวรถที่ยาวใหญ่มากขึ้น MINI จึงต้องปรับปรุงงานวิศวกรรมตัวถังและช่วงล่างใหม่ทั้งหมด ด้วยการหันมาใช้
วัสดุน้ำหนักเบาเพื่อทำให้ตัวรถเบามากที่สุด พร้อมระบบ Dynamic Damper Control และออกแบบตัวรถ
ให้เตี้ยต่ำ ทำให้ MINI Clubman ใหม่ จะยังคงให้อารมณ์การขับขี่รถโกคาร์ท เหมือนกับ MINI รุ่นอื่นๆ
แม้ว่าตัวรถจะยาวกว่าใครเพื่อนก็ตาม
นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยการขับขี่มากมาย ทั้งเพิ่มความสะดวกสบายอย่าง Parking Assistant, Head-Up Display
ไปจนถึงเพื่อความปลอดภัย Driving Assistant ที่ช่วยเตือนและเบรกรถอัตโนมัติ ฯลฯ
MINI พร้อมแล้วที่จะส่ง Clubman ตีตลาดครอบครัวมากขึ้น ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ แต่มีความหรูหรา
มีความอเนกประสงค์มากกว่าความโดดเด่น คำถามคือ แล้วรถยนต์รุ่นนี้จะแย่งกลุ่มลูกค้ากันเองกับ BMW 2-Series Active Tourer ที่ใช้ข้าวของร่วมกันหรือไม่?