วันนี้ Proton เปิดตัว Proton Saga โฉมใหม่ล่าสุดสำหรับรุ่นปี 2016 ถือเป็นการ
มาเพื่อมาแก้แค้น Perodua Bezza ที่กล้ามาแย่งซีนอย่างหน้าตาเฉย

ถ้ามองในมุมลูกค้าก็ไม่ควรจะแปลกใจที่ทำไม Perodua Bezza จะกลายเป็นอาวุธ
ร้ายฆ่า Proton Saga ในอนาคต เพราะชื่อของ Perodua ณ วันนี้มันคือรถยนต์
คุณภาพ(ในแบบฉบับ Daihatsu) แต่มีราคาขายที่ต่ำมาก เปรียบเสมือนลูกค้าได้
รถระดับมาตรฐานโลกแต่ราคาชาวบ้านนั่นเอง ก็ทำให้ Proton ย่อมเสียเปรียบทุกประตู

2016_09_28_Proton_Saga_1 2016_09_28_Proton_Saga_2

ถึงมองมุมไหน Proton ไม่มีทางจะสู้ Perodua ในโดยรวมได้ แต่ Proton ก็จำเป็น
ต้องออกอาวุธเพื่อแย่งชิงลูกค้าต่อไป

2016 Proton Saga มาพร้อมกับจุดขายรถระดับ A-Segment Sedan ที่ขยายขนาด
ไปแตะในระดับ B-Segment อย่างน้อยมันก็มีความยาวตัวถังถึง 4,331 มิลลิเมตร

ถึง All New Proton Saga ยังคงใช้โครงสร้างตัวถังจากรุ่นเดิมมาพัฒนาแต่ทีมวิศวกรรม
ก็พยายามออกแบบเสา C และบานประตูท้ายใหม่ทั้งหมดทำให้ตัวรถดูลงตัวขึ้นกว่ารุ่นเดิม
ผลจากความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คาดว่าน่าจะมีเนื้อที่เหนือศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
กว้างขวางกว่าเดิม

2016_09_28_Proton_Saga_3 2016_09_28_Proton_Saga_4

ดีไซน์ด้านหน้าดูเรียบร้อยสะอาดด้วยกระจังหน้าที่มีบานเกล็ดสองชั้นเหมือนกับ Perdana
พร้อมกันชนหน้าที่มีช่องดักลมทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ส่วนบั้นท้ายถูกออกแบบให้ดูหรูหราเกิน
หน้าเกินตาใคร

2016_09_28_Proton_Saga_5

เครื่องยนต์กลไกจะนำเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตรจาก Proton Iriz มาติดตั้งให้กำลัง
94 แรงม้า 5,750 รอบต่อนาที แรงบิด 120 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที
จับคู่เกียร์ธรรมดา (ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 12.2 วินาที
ประหยัดน้ำมัน 5.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรเมื่อวิ่งความเร็วเฉลี่ย 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
หรือ CVT (ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 13.1 วินาที ประหยัด
น้ำมัน 5.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรเมื่อวิ่งความเร็วเฉลี่ย 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

2016_09_28_Proton_Saga_6

Proton ใช้งบลงทุนพัฒนา Saga รุ่นใหม่ถึง 150 ล้านริงกิตหรือ 1,255 ล้านบาท
ถือว่าเป็นต้นทุนการพัฒนาที่ต่ำค่อนข้างมากเพราะไม่ได้ลงทุนสร้างแพลทฟอร์ม
ขึ้นมาใหม่ ดังนั้น Proton จึงสามารถปรับปรุงเทคโนโลยีเครื่องยนต์และระบบส่ง
กำลังได้

หาก Proton Saga มียอดขายเดือนละ 5 พันคันก็จะสามารถถึงจุดคุ้มทุน
ได้ภายใน 3 ปี

ส่วนจะประสบความสำเร็จแค่ไหน ต้องจับตาดูกันไปก่อน

ที่มา : Paultan 1/2