เป็นไปตามความคาดหมายจริงๆ สำหรับการวางจำหน่ายของ Honda GRACE สมาชิกรุ่นใหม่ล่าสุดจากฮอนด้า
ที่ใช้ Honda City โฉมที่ 4 ในบ้านเรา เอาไปใส่ขุมพลังไฮบริด พร้อมจำหน่ายในญี่ปุ่นแล้ว เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา
โดยถือเป็นซีดานในระดับต่ำกว่าแอคคอร์ดรุ่นแรก ที่ได้โอกาสทำตลาดในญี่ปุ่น หลัง CIVIC และ INSIGHT ถูกถอดออกจากตลาด
ในปี 2012

การเปิดตัว Honda Grace ครั้งนี้ เป็นความพยายามรุกตลาดซีดานไฮบริดอีกครั้ง หลังจาก Honda Insight โฉมที่ 2
ได้เปิดตัวในปี 2009 และขายดีในช่วงแรก ก่อนจะโดน Toyota สวนกลับด้วย Prius รุ่นปัจจุบัน ซึ่งกวาดยอดขายจน
ทำให้ Insight ต้องยุติบทบาทลงในที่สุด

alt
alt

ปัญหาของ Honda Insight ที่เกิดขึ้น คือการพยายามออกแบบตัวถังในสไตล์ Hatchback มากเกินไป จนทำให้ผู้โดยสาร
ตอนหลัง เหลือพื้นที่ศรีษะไม่มากเท่าที่ควร ประกอบกับขุมพลัง Hybrid IMA เจเนอเรชั่นก่อน ไม่สามารถทำสมรรถนะทั้ง
ความแรงและความประหยัดได้โดนใจผู้บริโภค กลับมาคราวนี้ Honda จึงเตรียมตัวมาอย่างดี ด้วยการยกระดับการพัฒนา
Honda City ใหม่ ให้กลายเป็นซับคอมแพคท์ซีดานสำหรับตลาดโลก ไม่จำกัดเฉพาะตลาดเอเชียเหมือนแต่ก่อน ทำให้
พร้อมสำหรับการบุกตลาดญี่ปุ่น อีกทั้งยังพัฒนาขุมพลังไฮบริดใหม่ จนมีสมรรถนะที่น่าพึงพอใจ และเชื่อว่าจะกลับมาโดดเด่น
ในกลุ่มรถยนต์ไฮบริดที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นสูงเรื่อยๆได้

ที่มาที่ไปของการตั้งชื่อ ‘GRACE’ นั้น มาจากความหมายในภาษาอังกฤษล้วนๆ ซึ่งสามารถสื่อถึงได้ทั้งความหรูหรา
และความน้อบน้อม ชื่อนี้จึงเปลี่ยนเสมือนตัวแทนความรู้สึกจากทีมพัฒนารถยนต์รุ่นนี้ ที่ตั้งใจพัฒนารถยนต์ซีดาน
ที่เพียบพร้อม สำหรับการเดินทางไปกับคนที่เรารัก

alt

ตัวรถนั้น งานออกแบบไม่แตกต่างจาก Honda City ที่เปิดตัวในไทยเมื่อต้นปีเลย มีเพียงรายละเอียดงานออกแบบต่างๆ
ที่เปลี่ยนไป และน่าจะโดนใจชาวไทยไม่น้อย เช่น โคมไฟหน้าแบบ LED และโคมไฟท้ายที่ออกแบบใหม่ ใช้เลนส์โคมเจือสีฟ้าอ่อน
พร้อมกับใช้หลอด LED สำหรับไฟเบรก นอกจากนี้ยังได้สีตัวถังเพิ่ม ได้แก่ สีเงิน Tinted Metallic โทนใหม่ สีแดง
Premium Deep Rosso สีเดียวกันกับ Honda CR-Z และ สีน้ำตาล Gold Brown ใหม่

ในเกรดล่างนั้น จะใช้ล้อเหล็กพร้อมฝาครอบลายเดียวกันกับ FIT Hybrid ในขณะที่เกรดสูงสุด HYBRID EX จะได้ใช้
ล้ออัลลอยปัดเงาขนาด 16 นิ้ว ลายเดียวกันกับ CITY เกรด SV/SV+ ในบ้านเรา แต่ GRACE จะได้ออพชั่น Smart Keyless
พร้อมปุ่มสตาร์ทในทุกรุ่นเลย

alt
alt

ส่วนภายในถูกตกแต่งให้หรูหราขึ้นด้วยเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังแท้เกรดพิเศษ พร้อมกับการเปลี่ยนชุดมาตรวัดสำหรับระบบไฮบริด
และคันเกียร์ไฟฟ้า

ขุมพลังที่ใช้ยกมาจาก Honda FIT Hybrid และ VEZEL Hybrid ที่เพิ่งเปิดตัวไปในปีก่อน ใช้เครื่องยนต์ลูกผสมแบบ
Sport Hybrid i-DCD ผสานเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า และ
เกียร์อัตโนมัติกึ่งไฟฟ้าแบบคลัทช์คู่ i-DCD 7 จังหวะ สร้างกำลังรวม 135 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 170 นิวตัน-เมตร

นอกจากนี้ยังมีความพิเศษเพิ่มเติมจาก Honda City ในไทย ได้แก่การใส่ระบบ City-Brake Active ให้ในเกรด HYBRID EX
อันเป็นรุ่นบนสุดของ Grace ส่วนระบบ VSA, ABS, EBD, ESS, HSA และถุงลมนิรภัย 6 จุด ก็มีให้ครบครันเหมือนเดิม

alt

สำหรับผู้ที่สนใจ Honda City พร้อมกับขุมพลังไฮบริด บอกได้คำเดียวว่า น่าจะได้เจอกันอย่างเร็วสุดในปีหน้า แต่ต้องลุ้นว่าจะมา
พร้อมกับออพชั่นที่ใกล้เคียงกับ Grace หรือไม่ นอกจากนี้ยังเตรียมเจอกับ Jazz Hybrid ด้วยได้เลย ก่อนที่ HR-V Hybrid จะตาม
มาสมทบในปี 2016