หลังจำหน่าย Seat Leon ในฐานะรถยนต์คอมแพคท์ทรงสปอร์ตจากค่าย Seat ในเครือ Volkswagen Group มาได้ปีกว่า
Seat ยังไม่ทิ้งตลาดรถคอมแพคท์สมรรถนะสูงไป ด้วยการเดินหน้าเปิดตัวเวอร์ชัน Cupra และ Cupra 280 ให้กับ Seat Leon
เรียบร้อยแล้ว วันนี้ ณ งานแสดงรถยนต์ Geneva Motor Show 2014
2014 Seat Leon Cupra/Cupra 280 มีความแตกต่างจาก Leon รุ่นปกติในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชุดกันชนหน้า
ที่ได้รับการออกแบบใหม่ ให้เน้นช่องรับอากาศใหญ่โตมากขึ้น พร้อมกับออกแบบให้ดูดุดันมากกว่าเดิม ส่วนกระจังหน้าและ
ช่องรับอากาศบนกันชนหน้า ใช้ตะแกรงลายรังผึ้งบ่งบอกความสปอร์ต นอกจากนี้ยังมีโคมไฟหน้าแบบ LED และโดดเด่น
ด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ด้านท้ายสังเกตความแรงได้ง่ายขึ้นที่ระบบท่อไอเสียซึ่งใช้ท่อแบบคู่
ในขณะที่รุ่น Cupra 280 ถูกแต่งให้ดุดันขึ้นไปอีก ทั้งการติดตั้งชุดบอดี้คิทรอบคัน ใช้ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำ
ส่วนระบบเบรกแม้จะมีคาลิปเปอร์เบรกสีแดงเหมือนกัน แต่ในรุ่น Cupra 280 จะมีการสลักแบรนด์ ‘CUPRA’ ไว้ด้วย
รวมถึงเปลี่ยนล้ออัลลอยสีไททาเนียมแบบ 2 โทน ขนาด 19 นิ้ว
ภายในห้องโดยสาร เลือกได้ว่าจะตกแต่งภายในด้วยโทนสีเงินปัดเงาแบบปกติ หรือสีดำเงา เปลี่ยนพวงมาลัยให้เป็น
ทรงสปอร์ตแบบ 3 ก้าน พร้อมการตัดตรงในส่วนล่างของพวงมาลัย เปลี่ยนเบาะนั่งให้เป็นแบบสปอร์ต
พร้อมแป้นคันเร่ง-เบรกแบบสปอร์ต ทำด้วยวัสดุอะลุมิเนียม เสริมสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้มีมิติด้วย
แสงไฟ LED ยามค่ำคืน พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกระหว่างการเดินทางด้วยระบบอินโฟเทนเมนต์บนหน้าจอสีขนาด 5.8 นิ้ว
ใน Seat Leon รุ่น Cupra เป็นการใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง พร้อมเทอร์โบ TSI ขนาด 2.0 ลิตร ผลิตกำลังสูงสุด
ได้ 265 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร มาพร้อมกับออพชั่นระบบเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ DSG
แบบ 6 จังหวะ สร้างอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลาเพียง 5.8 วินาที
ส่วนรุ่น Cupra 280 ใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกัน แต่ปรับจูนสมรรถนะจนสามารถรีดแรงม้าได้เพิ่มเป็น 280 ตัว
ในขณะที่คงแรงบิดสูงสุดไว้เท่าเดิม ด้วยกำลังที่เพิ่มขึ้นทำให้สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้เร็วขึ้น 0.1 วินาที
รถยนต์ทั้ง 2 รุ่น จะมาพร้อมกับระบบ Dynamic Chassis Control และติดตั้งระบบเฟืองท้าย Limited Slip
รวมถึงปรับแต่งระบบพวงมาลัย ให้สามารถควบคุมได้เฉียบคมมากขึ้นกว่ารุ่นปกติ
2014 Seat Leon Cupra/Cupra 280 เป็นอีกหนึ่งความพยายามสำคัญของ Seat ที่จะพิสูจน์ตัวเองในฐานะ
รถยนต์สปอร์ตราคาทั่วไป และพยายามสร้างจุดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวเกินหน้า Volkswagen และ Skoda
แต่จะทำให้ชาวยุโรปอยากจับจองเป็นเจ้าของมากขึ้นหรือไม่? ต้องติดตามดูกันครับ