หลังปล่อยทีเซอร์และแย้มข้อมูลออกมาทีละน้อย วันนี้ ไม่ต้องคาดคะเนรายละเอียดใดๆทั้งสิ้น เพราะ Audi ได้เปิดผ้าคลุม
2014 Audi TT/TTS รถยนต์พรีเมี่ยมสปอร์ตคูเป้ยอดนิยมในเจเนอเรชั่นที่ 3 ออกมาแล้วเรียบร้อย เพื่อให้ทันกับการ
โชว์ตัวใน Geneva Motor Show 2014 ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
กลับมาคราวนี้ งานออกแบบของตัวรถ มีความเปลี่ยนแปลงไปตามที่ Audi เคยกล่าวเอาไว้ แม้อาจจะทำให้แฟนๆ Audi
ที่รอคอย TT โฉมใหม่ผิดหวังกันไปบ้าง ว่าไม่มีความเปลี่ยนแปลงเท่าที่ควร แต่ภาพรวมของตัวรถถือว่าเป็นวิวัฒนาการ
ที่เข้ากับสไตล์การออกแบบยุคใหม่ Audi มากทีเดียว โดยเปลี่ยนจากความโค้งมนในเจเนอเรชั่นแรก มาเป็นเส้นสายที่เฉียบคม
ชัดเจน แข็งกร้าวมากขึ้น
เริ่มต้นจากรูปลักษณ์ด้านหน้า เปลี่ยนงานออกแบบกระจังหน้าใหม่ในสไตล์ 6 เหลี่ยมขนาดโต อันกลายเป็นเอกลักษณ์ของ Audi ไปแล้ว
จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อเมืองนอกว่ากระจังหน้าขนาดใหญ่นี้ มีความเหมือนกับรถยนต์ซีดานของ Audi จนทำให้เสีย
ความเป็นรถยนต์สปอร์ตไปหรือไม่?
กระจังหน้าขนาดใหญ่ ถูกขนาบด้วยโคมไฟหน้าทรงเรียวแหลม แตกต่างจากรุ่นที่แล้วชัดเจนพร้อมออกแบบรายละเอียดภายใน
ให้เน้นเส้น LED Daytime Running Light พร้อมออพชั่นไฟหน้า LED ให้ติดตั้งเสริม ส่วนโลโก้ 4 ห่วงของ Audi ถูกย้ายขึ้นไปติดตั้งบนฝากระโปรงหน้าแทน
เส้นสายด้านข้าง เด่นชัดด้วยซุ้มล้อหน้า-หลังบ่งบอกความสปอร์ต พร้อมทั้งเส้นบ่าด้านข้างที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพายุ Tornado
และแนวหลังคาที่ลาดเทมากขึ้น ส่วนด้านท้ายยังคงมาพร้อมดีไซน์ฝากระโปรงท้ายแบบ Liftback เช่นเคย พร้อมกับโคมไฟท้าย
ทรงเหลี่ยมเหมือนเดิม และสปอยเลอร์ที่ยกตัวขึ้นอัตโนมัติเมื่อขับขี่เกิน 120 กม./ชม. โดยรวมแล้วเป็นงานออกแบบที่เติบโตขึ้น
จากรุ่นแรก แต่เสริมความเกรี้ยวกราดของเส้นสายลงไป
ในด้านของมิติตัวถัง กลายเป็น Audi TT โฉมใหม่ มีขนาดสั้นลงจากรุ่นที่แล้ว 20 มิลลิเมตร (ความยาวตัวถัง 4,180 มิลลิเมตร)
แต่ถูกขยายระยะฐานล้อหน้า-หลังขึ้นอีก 37 มิลลิเมตร ส่วนความกว้างถูกลดลงจากรุ่นที่แล้ว 8 มิลลิเมตรเช่นกัน ในขณะที่
ความสูงจะอยู่ที่ 1,353 มิลลิเมตร เท่าเดิม
และด้วยการพัฒนาบนแฟลตฟอร์ม MQB ที่คุ้นเคยกัน ทำให้ 2014 Audi TT/TTS มีน้ำหนักลดลงจากเดิม 50 กก. (ในรุ่น
2.0 TFSI มีน้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 1,230 กิโลกรัม) ผลของการใช้แพลตฟอร์มใหม่นี้ ยังช่วยให้ทีมวิศวกรสามารถเพิ่มความจุ
สัมภาระด้านท้ายได้อีก 13 ลิตรจากรุ่นที่แล้ว กลายเป็นเนื้อที่บรรทุกสัมภาระขนาด 305 ลิตร
ส่วนเครื่องยนต์ ตามที่เคยได้รายงานไว้ว่า Audi จะยังคงเรียกใช้ขุมพลังเบนซิน พร้อมเทอร์โบ TFSI และขุมพลังดีเซล พร้อมเทอร์โบ TDI
เช่นเคย โดยในรุ่น TT จะมีขุมพลังเบนซิน TFSI ขนาด 2.0 ลิตรเดิม ที่ถูกจูนสมรรถนะใหม่ จนสามารถรีดกำลังออกมาได้
230 แรงม้า พร้อมแรงบิด 370 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ดีเซล TDI ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมกำลังสูงสุด 184 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ให้เลือกใช้กัน
ในขณะที่ Audi TTS จะได้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน TFSI ขนาด 2.0 ลิตรเช่นกัน แต่ปรับปรุงให้สามารถมีแรงม้าได้สูงถึง 310 แรงม้า
และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ทั้ง Audi TT และ TTS จะมีเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ S Tronic
แบบ 6 จังหวะให้เลือกใช้ โดยใน Audi TT รุ่น 2.0 TFSI สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลาเพียง 5.3 วินาที
และในรุ่น TTS จะใช้เวลาน้อยกว่านั้นอีก ที่ 4.7 วินาทีเท่านั้น ด้านระบบช่วงล่าง Audi ยังคงให้ TT โฉมใหม่ ใช้ระบบช่วงล่าง
แมคเฟอร์สันสตรัทสำหรับล้อคู่หน้า และระบบช่วงล่างอิสระ 4-Link ในล้อคู่หลังเช่นเคย แต่มีการปรับจูนให้มีความแน่นหนึบมากขึ้น
ห้องโดยสารของ 2014 Audi TT/TTS จะเป็นตัวอย่างของการออกแบบภายในห้องโดยสารยุคใหม่ของ Audi ที่เล็งเห็นว่า
หน้าจอสีกลางคอนโซลหน้าของระบบอินโฟเทนเมนต์ จะลดบทบาทลง และยุบรวมกับหน้าจอมาตรวัดของผู้ขับขี่ให้กลายเป็นหน้าจอเดียว
ส่งผลให้งานออกแบบภายในมีความสะอาดตาและเรียบง่ายจากการใช้งานมากขึ้น
หน้าจอมาตรวัดของผู้ขับขี่ถูกเปลี่ยนให้เป็นหน้าจอสีขนาดมหึมา 12.3 นิ้ว พร้อมชิปประมวลผลกราฟิิคของ Nvidia Tegra 30
ที่สามารถแสดงผลได้หลากหลายโหมดใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นโหมดเน้นการขับขี่แบบสปอร์ต โหมดนำทาง หรือโหมดการขับขี่แบบทั่วไป ฯลฯ
งานออกแบบชิ้นสำคัญอีกหนึ่งจุดอยู่ที่การออกแบบช่องแอร์ระบบปรับอากาศทรงกลม ที่แฝงปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศเข้าไป
อย่างชาญฉลาด ทำให้ลดความวุ่นวายและเนื้อที่ในการติดตั้ง ส่วนเบาะนั่งแบบสปอร์ต S ที่เป็นออพชั่นเสริม จะมีลูกเล่นปีกเบาะ
ที่ปรับให้กระชับร่างกายของผู้ขับขี่/ผู้โดยสารด้วยระบบลม
นอกจากนี้ พวงมาลัย 3 ก้านแบบสปอร์ต พร้อมส่วนล่างของพวงมาลัยแบบตัดตรง ยังถูกออกแบบชุดถุงลมนิรภัยให้มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม 40%
ส่วนระบบเครื่องเสียงเป็นหน้าที่ของ Bang & Olufsen ที่ออกแบบลำโพงกว่า 12 จุดรอบคัน พร้อมทั้งแอพพลิไฟเออร์ และซับวูฟเฟอร์บนแผงประตู
2014 Audi TT/TTS จะถูกส่งลงตลาดยุโรปกันก่อนในปีนี้ ก่อนจะทะยอยทำตลาดในภูมิภาคอื่นๆต่อไป รวมถึงในประเทศไทยด้วยเช่นกัน