ช่วง 1-2 ปีนี้ ตลาดรถยนต์หรูขนาดใหญ่จะร้อนระอุเป็นพิเศษ เพราะผู้เล่นตัวสำคัญในตลาดต่างผลัดโฉมรุ่นใหม่ ยกระดับตนเอง
ไปสู่ความหรูหราอีกขั้น เริ่มต้นด้วย Mercedes-Benz S-Class ที่พกเอาความหรูหราใกล้เคียง Maybach มาใช้ ส่วน
BMW 7-Series ก็เตรียมเผยโฉมใหม่ในช่วงปีหน้า วันนี้ Audi จึงขอตัดหน้าด้วยการชิงเพิ่มความสดใหม่ให้กับ A8/S8
รถยนต์เรือธงของตนเองกันก่อน หลังจากขายโฉมนี้ได้ประมาณ 3 ปี
การปรับโฉมครั้งนี้ เน้นไปที่การเปลี่ยนงานดีไซน์ให้มีความเรียบง่าย แต่ภูมิฐาน หรูหรา และทันสมัยมากขึ้น เห็นได้ชัดจากรูปลักษณ์
ด้านหน้า ที่มีการเปลี่ยนชิ้นส่วนทั้งหมด ตั้งแต่กันชนหน้าพร้อมกระจังหน้าทรง 6 เหลี่ยมแบบใหม่ ใช้เส้นสายที่สะอาดตา ลดความ
ยุ่งเหยิง เน้นความหรูหราด้วยแถบโครเมี่ยม ฝากระโปรงหน้าถูกออกแบบใหม่ให้เพิ่มมิติและเฉียบคมกว่าเดิม ส่วนโคมไฟหน้า
เป็นครั้งแรกที่ Audi นำเทคโนโลยี Matrix LED มาให้เลือกเป็นออพชั่นเสริม โดยประกอบไปด้วยหลอดไฟ LED 25 ดวง ที่แต่ละ
ดวงจะมีการคำนวณการทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อการส่องสว่างที่เหมาะสมในแต่ละสภาพการขับขี่
ส่วนระบบไฟเลี้ยว Audi นำเอาระบบหลอดไฟที่ทำงานจากด้านในไล่ไปยังด้านนอกของตัวรถ ทั้งในไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านท้าย
ซึ่ง Audi กล่าวว่าจะช่วยทำให้เกิดความชัดเจนของสัญญาณไฟเลี้ยวแก่ผู้ร่วมถนนมากขึ้น ส่วนรูปลักษณ์ด้านท้ายมีความเปลี่ยนแปลง
เพิ่มเติมด้วยเช่นกัน ทั้งกันชนหลังที่ออกแบบใหม่ เสริมความเรียบง่ายมากกว่าเดิม โดยถูกออกแบบให้เข้ากับปลายท่อไอเสียทรงเหลี่ยมสัน
นอกจากนี้ 2014 Audi A8 ยังมีสีตัวถังใหม่ให้เพิ่มเติมถึง 5 สีด้วยกัน และมีออพชั่นล้ออัลลอยให้เลือกถึงขนาด 21 นิ้ว
ส่วนขุมพลังที่ Audi เตรียมมาใส่ให้กับ A8/S8 ก็ล้วนเป็นเครื่องยนต์ทรงพลังทั้งสิ้น เริ่มต้นด้วยบล็อกเล็กที่สุด เครื่องยนต์เบนซิน
แบบ V6 พร้อมเทอร์โบ TFSI ขนาด 3.0 310 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล V6 พร้อมเทอร์โบ TDI ขนาด 3.0 ลิตร 258 แรงม้า
ขยับมาเป็นเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ TFSI ขนาด 4.0 ลิตร 435 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล V8 พร้อมเทอร์โบ TDI
ขนาด 4.2 ลิตร 385 แรงม้า โดยทำการตัดเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.2 ลิตรทิ้งไป ส่วนในรุ่น A8 L มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินบล็อกโต
แบบ W12 สูบ ขนาด 6.3 ลิตร สร้างกำลังได้ 500 แรงม้า ในขณะที่รุ่น S8 จะได้ขุมพลังที่แรงที่สุดไป ได้แก่เครื่องยนต์เบนซิน
แบบ V8 พร้อมเทอร์โบ TFSI ขนาด 4.0 ลิตร 520 แรงม้า ที่สามารถทำตัวเลข 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.2 วินาที
นอกจากนี้ A8 ยังมาพร้อมกับขุมพลังไฮบริดให้เลือกใช้กันด้วย โดยเป็นการใช้เครื่องยนต์เบนซินพร้อมเทอร์โบ TFSI ขนาด 2.0 ลิตร
ผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้า จนได้กำลังรวม 245 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-เมตร โดยระบบ Hybrid ของ A8 จะแบ่ง
การทำงานของเครื่องยนต์เบนซินไว้ที่ล้อหน้า และมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อหลัง และสามารถแล่นด้วยพลังไฟฟ้าล้วน
ได้ไกล 3 กม. ทำความประหยัดน้ำมันเฉลี่ยได้ 15.8 กม./ลิตร
ส่วนภายในห้องโดยสาร เป็นการปรับปรุงการตกแต่งเป็นส่วนใหญ่ โดยไร้การเปลี่ยนแปลงรูปทรงของคอนโซลหน้าแต่อย่างใด
และยังคงอัดแน่นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันเหมือนเดิม ทั้งเบาะนั่งหุ้มหนังแท้พร้อมฟังก์ชั่นนวด เบาะนั่งด้านหลังปรับระดับได้
หรือระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน และการมีออพชั่นระบบความบันเทิงในรถจาก Bang & Olufsen นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี
ด้านความปลอดภัยมากมาย ทั้งระบบช่วยควบคุมเลน ระบบ Head-up Display พร้อมระบบช่วยมองในสภาพกลางคืน เป็นต้น
2014 Audi A8/S8 จะพร้อมจำหน่ายในเยอรมนีเป็นที่แรกในเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่ก่อนหน้านั้น สื่อมวลชนทั่วโลกจะได้พบตัวเป็นๆ
กันก่อนในงานแสดงรถยนต์ Frankfurt Motor Show 2013 เดือนกันยายนที่จะถึงนี้