Volkswagen Beetle น่าจะเป็นรถยนต์ย้อนยุคที่น่าสงสารที่สุดในบรรดารถคลาสสิคแล้วนำกลับมาพัฒนาเป็นรถยนต์ยุคใหม่ เพราะ Volkswagen Beetle เจเนเรชั่นที่ 2 ไม่ประสบความสำเร็จด้านภาพลักษณ์สินค้า ลูกค้าหมดศรัทธาทันทีที่เห็นดีไซน์เอาใจคุณผู้หญิงมากจนเกินไป ยิ่งเห็นราคาแล้วหลายคนอยากจะเป็นลม ลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่อาจลบล้างภาพลักษณ์ความเป็นรถยนต์ของประชาชนยาวนาน เพราะเจ้าเต่าน้อยเจเนเรชั่นแรกยังถูกประกอบในโรงงานประเทศเม็กซิโกกันอยู่เลย แถมยังเพิ่งเลิกประกอบในเดือนกรกฎาคมปี 2003 นี้เอง

อันที่จริง Volkswagen Beetle ก็ยังไม่ถึงกับล้มเหลวจนต้องขายขี้หน้าชาวบ้านเขา อย่างน้อย ๆ Beetle ยุคใหม่ก็ยังถือเป็น icon รถคลาสสิคปัดฝุ่นยุคใหม่ที่คนรุ่นใหม่ยังนึกถึงอยู่ และยังเป็นต้นแบบให้ค่าย Fiat คิดนำ 500 (เคยมีตำนานในไทยว่า “รถอีหนู” อันหมายถึงรถที่หัวหน้าครอบครัวซื้อไปให้ภรรยาน้อยใช้ เนื่องจากความน่ารักและไม่แพง) กลับมาปัดฝุ่นผลิตใหม่ขายดิบขายดีอีกครั้งหนึ่ง

Volkswagen รวบรวมความผิดพลาดทั้งหลายของ Beetle เจเนเรชั่นปัจจุบันมาวิเคราะห์กันอย่างหนัก จนถึงขั้นเคยออกรถต้นแบบ Volkswagen Ragster เพื่อพยายามเรียนรู้ปฏิกริยาของคนทั่วโลกว่าหาก Beetle ตัวต่อไปจะมาแนวนี้ ลูกค้าจะรับไหวไหม?

ความกล้าเปลี่ยนแปลงของ Volkswagen คือกล้านำเอกลักษณ์ Beetle เจเนเรชั่นแรกมาผสมกับความทันสมัย Beetle เจเนเรชั่นปัจจุบันจนกลายมาเป็น Beetle เจเนเรชั่นใหม่ที่มีความคลาสสิค ความแปลกใหม่และความล้ำสมัยอยู่ในที

ภาพที่ทุกท่านเห็นอยู่นี้คือภาพแอบถ่าย Volkswagen Beetle โฉมใหม่โดยทีมช่างภาพ Carpix จากเว็บไซต์ Autoblog.com เราเชื่อว่าหลายท่านคงจะตื่นตะลึงกับโฉมหน้าของ Beetle ใหม่ว่าทำไมมันดูแปลกสายตาเสียเหลือเกิน

นี่ก็นับเป็นความกล้าอีกขั้นของ Volkswagen ที่พยายามนำแนวคิดเดิม ๆ ย้อนหวนกลับมาสู่ยุคใหม่มากขึ้นกว่าเดิม มีความเป็นต้นฉบับมากขึ้น ลดความเป็นรถผู้หญิงลงไปมาก แม้เส้นสายจะประยุกต์จาก Beetle เจเนเรชั่นแรกหรือรถต้นแบบ Ragster แต่มันก็มีความรู้สึกความสปอร์ตอยู่ในทีด้วยเช่นกัน ส่วนจะสวยหรือไม่สวยก็ขึ้นอยู่กับสายตาของคุณเองว่ากล้ามอง Beetle ในมุมมองใหม่อย่างไร?

สัดส่วนรถโดยรวมพยายามจะอ้างอิงจาก Beetle เจเนเรชั่นแรกให้มากที่สุดเพียงแต่ตัวรถทั้งคันจะดูเตี้ยลงมีความปราดเปรียวแฝงอยู่บ้าง  ไล่ตั้งแต่แนวห้องเครื่องยนต์หน้าดูยาวกว่า Beetle เจเนเรชั่นปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด หน้าตารถได้รับอิทธิพลจากรถต้นแบบ Ragster พอสมควร

ความท้าทายที่เด่นชัดมากที่สุดเห็นจะเป็นการออกแบบเสา A ทรงตั้งมีมุมหักศอกเลียนแบบโครงเสา A จาก Beetle เจเนเรชั่นแรกอย่างชัดเจน มองเผิน ๆ นึกว่ากำลังดูรถรุ่นใหม่ของ Porsche อยู่ก็เป็นได้ ผมไม่แปลกใจนักที่ Volkswagen พยายามนำแนวคิดเก่า ๆ มาประยุกต์ใช้มากกว่าเดิม เพราะพวกเขาเรียนรู้แล้วว่าการทำเส้นเสา A ลากจนเสา C ด้วยเส้นโค้งมันทำให้ตัวรถดูหวานแหววมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น

ไหน ๆ ก็รับอิทธิพลจากต้นฉบับแล้ว Volkswagen Beetle ตัวใหม่ก็ยังเปลี่ยนเรือนแนวกระจกจากเดิมที่เคยมีเนื้อที่กระจกมากเพิ่มความปลอดโปร่งก็ลดเนื้อที่กระจกเล็กน้อยตามแบบฉบับ Beetle ดั้งเดิม นอกจากจะดูมีความเป็นต้นฉบับแล้วก็ยังทำให้ Beetle ใหม่มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากกว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นชัด

บั้นท้ายถือเป็นการผสมผสานต้นฉบับและความทันสมัยด้วยกัน Volkswagen ออกแบบเสา C ให้เอนลาดยาวจรดกันชนท้ายมากกว่าเดิม นอกจากเพื่อรำลึกถึง Beetle รุ่นแรกแล้วน่าจะการขยายขนาดห้องโดยสารตอนหลังให้นั่งสบายและปลอดโปร่งมากขึ้น รวมทั้งยังมีความทันสมัยอยู่ในตัว

 ดีไซน์โดยรวมถือเป็นการทดลองงานออกแบบรูปแบบใหม่ของ Volkswagen Beetle เจเนเรชั่นที่ 3 ชนิดถ้าไม่รักก็คงเกลียดกันไปเลย แต่น่าเชื่อว่าสักพักหนึ่งรถคันนี้น่าจะเป็นตรึงตาตรึงใจมากกว่าโฉมเดิมไม่น้อยเลย