จุดอ่อนที่ Nissan อเมริกาเหนือขาดแคลนมานับสิบปีก็คือการขาดรถเอสยูวีระดับคอมแพคท์ที่เหมาะสมกับการเก็บเกี่ยวยอดขายเฉกเช่นเดียวกับ Honda CR-V เคยทำได้มาก่อน แต่ขืนส่ง X-Trail มาขายอีกภาพลักษณ์มันก็จะซ้ำซ้อนกับพวก Xterra โดยไม่จำเป็นนัก
ดังนั้น Nissan จึงยอมพัฒนาเอสยูวีรุ่นใหม่ซิง ๆ สำหรับป้อนตลาดอเมริกาเหนือจะดีกว่า แต่ใช่ว่า Nissan จะต้องทุ่มทุนสร้างรถใหม่ทั้งคันโดยใช่เหตุ แค่ Nissan แชร์การพัฒนารถคันรุ่นใหม่ร่วมกับ Qashqai สำหรับบุกตลาดยุโรป เพียงเท่านี้ Nissan จึงมีเจ้า Rogue ออกมาท้าชนกับคู่แข่งได้แล้ว
หน้าที่ของ Nissan Rogue ก็คือต้องมาอุดช่องว่างตลาดรถเอสยูวีขนาดคอมแพคท์ของ Nissan ในปี 2007 โดยมีคู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่าง Honda CR-V, Toyota RAV4 และ Ford Escape ยืนบนหัวหาดอยู่แล้ว
ยอดขายของ Nissan Rogue ก็ถือว่าขายได้เรื่อย ๆ แม้จะเป็นรอง Honda CR-V แต่ก็ถือว่ามียอดขายไม่น่าเกลียดนัก และยิ่งนานวันตัวรถก็ยิ่งเก่าลงตามกาลเวลาเห็นที Nissan จะต้องเร่งปรับปรุงโฉมหน้าเอสยูวีคันเก่งของตนเสียหน่อย
Nissan จึงเปิดตัว Rogue Minorchange ถูกปรับปรุงหลาย ๆ จุดให้ดูคล้ายรุ่นพี่ Murano เพื่อเตรียมส่งทำตลาดเป็นรุ่นปี 2011 เป็นต้นไป
ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือชุดกระจังหน้าลวดลายตะแกรงแบบใหม่เคลือบสีเงินที่ดูคล้าย Nissan Murano ดูเด่นสะดุดตากว่ารุ่นเดิม พร้อมชุดกันชนหน้าแอบมีลูกเล่นสันเงาใต้ไฟหน้าเล็กน้อยดูทันสมัย แข็งแกร่งและปราดเปรียวยิ่งขึ้น
ด้านข้างประตูตัวรถเพิ่มคิ้วแถบโครเมี่ยมเพื่อความหรูหราและความทนทาน ส่วนบั้นท้ายไม่มีการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนตัวถังหรือไฟท้ายแต่อย่างใด คงมีเพียงแค่ชุดสปอยเลอร์หลังติดตั้งเพิ่มขึ้นมาเท่านั้น
สำหรับรุ่นย่อย S Krōm Edition และ SL Package จะติดตั้งล้อแมกซ์ลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางลดแรงเสียดทาน ส่วนรุ่นย่อยอื่น ๆ ติดตั้งล้อแมกซ์ 17 นิ้วตามเดิม
อย่าคิดว่าแค่เปลี่ยนหน้าตาให้สวยเช้งยิ่งขึ้นเท่านั้น Nissan ยังปรับปรุงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้ดีขึ้นเฉลี่ย 1 MPG หรือ 0.4 กิโลเมตรต่อลิตร ผลก็คือรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้ามีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในเมือง 22 MPG หรือ 9.3 กิโลเมตรต่อลิตร นอกเมือง 28 MPG หรือ 11.9 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในเมือง 22 MPG หรือ 9.3 กิโลเมตรต่อลิตร นอกเมือง 26 MPG หรือ 11.05 กิโลเมตรต่อลิตร
Nissan Rogue Minorchange เตรียมส่งขึ้นโชว์รูมทั่วสหรัฐอเมริกาภายในสิงหาคมนี้