เป็นอีกหนึ่งรถยนต์รุ่นสำคัญของแบรนด์พรีเมี่ยมจากแดนปลาดิบ อย่าง Lexus ที่หมายมั่นส่ง CT200h
เพื่อสกัดดาวรุ่งจากบรรดาคู่แข่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น BMW 1-Series, Audi A3 ฯลฯ โดยหลังจากเคยเผยโฉม
ในฐานะรถยนต์ต้นแบบ LF-Ch concept เมื่อปี 2009 วันนี้ Lexus พร้อมแล้วที่ส่ง CT200h ลุยตลาด
สหรัฐอเมริกา โดยเพิ่งมีการเผยภาพถ่ายของรถเวอร์ชั่นจำหน่ายจริง เมื่อวานนี้ (14 กันยายน 2010)

งานนี้ Lexus เคลมว่า CT200h เป็นรถยนต์”พรีเมี่ยมคอมแพคท์ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดเป็นคันแรกของโลก” โดยงานดีไซน์ภายนอกนั้น ไม่ทิ้งความพรีเมี่ยมอันทรงพลัง ตามปรัญชา L-Finesse จริงๆ อันจะเห็นได้จากรายละเอียดงานดีไซน์ตามจุด
ต่างๆ พร้อมทั้งการการันตีจาก Lexus ถึงคุณภาพวัสดุและงานประกอบ ที่มีความประณีตในทุกๆจุด เด่นด้วยเส้นสาย
J-Line บนเสา C สร้างความมีมิติให้กับตัวรถอีกทั้งยังมาพร้อมกับสปอยเลอร์ที่ออกแบบเป็นชิ้นเดียว สอดรับกับดีไซน์ของ
หลังคา และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

ในส่วนของภายใน เด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตที่ลื่นไหลแต่ยังคงความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งคอนโซลกลางมาพร้อมกับ
จอ LCD ขนาด 8 นิ้ว รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่ให้สัมผัสนุ่มนวลและความหรูหรา โดยเลือกใช้วัสดุที่ให้ความ
เงางามบนผิวสัมผัสเป็นพิเศษ นอกจากนี้ Lexus ยังกล่าวว่า มีการติดตั้งวัสดุกึ่งธรรมชาติอย่าง เยื่อบุลำโพง
ที่ทำมาจากเยื่อไผ่และถ่าน รวมไปถึงการใช้วัสดุ Bioplastic ในหลายๆจุด

ส่วนด้านอุปกรณ์ต่างๆนั้น มาพร้อมความรู้สึกสปอร์ตเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยดีไซน์สปอร์ต ที่วงพวง
มาลัยออกไปทางรูปทรงวงรี คล้ายใน Civic FD รวมไปถึงเบาะนั่งทรงสปอร์ต ติดตั้งในตำแหน่งต่ำ
ผนวกเข้ากับชุดมาตรวัดที่ถูกดีไซน์ให้อ่านง่าย ให้ประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ตหรูอย่างเต็มที่

สำหรับขุมพลังที่ Lexus นำมาประจำการใน CT200h นั้น มีอยู่แบบเดียว คือ เครื่องยนต์ Hybrid หรือ
Lexus Hybrid Drive ซึ่งจับคู่เครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 1.8 ลิิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-i
สร้างกำลัง 98 แรงม้า เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 80 แรงม้า สร้างพลังทั้งหมด 134 แรงม้า โดยในส่วน
ของแรงบิดสูงสุดยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่ Lexus ได้เคลมว่า เครื่องยนต์ชุดนี้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.
ที่ 9.8 วินาที มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 42 ไมล์/แกลลอน และล็อคความเร็วสูงสุดที่ 180 กม./ชม.
นอกจากนี้ยังสามารถขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วน แต่จำกัดความเร็วอยู่ที่ 45 กม./ชม.

ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับระบบส่งกำลังที่ใช้และระบบกันสะเทือนนั้น Lexus ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่
Lexus ได้เปิดเผยถึงบรรดาระบบอิเล็กทรอนิคส์ต่างๆที่แท็กทีมกันมาช่วยการทรงตัว, การขับขี่และความ
ปลอดภัยของรถ ไล่กันตั้งแต่ Adaptive Cruise Control, ถุงลมนิรภัย 8 จุด รวมไปถึงถุงลมนิรมัยบริ-
เวณเข่าของผู้ขับและผู้โดยสารตอนหน้า, ระบบป้องกันความเจ็บจากการถูกชนด้านหลัง WIL, ระบบ
ปั่นกระแสไฟฟ้าจากการเบรก ECB-R ไปจนถึง BA, VSC, ABS, TRAC และระบบ Auto Start-Stop

นอกจากนี้ Lexus ยังภูมิใจเสนอโหมดการขับขี่ ‘On-Demand’ ทั้ง 4 แบบ ให้ผู้ขับขี่ได้เลือกใช้ อันประกอบ
ไปด้วยโหมด EV หรือขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว, โหมด ECO ที่ให้ความประหยัดน้ำมันสูงสุด,
โหมด NORMAL หรือโหมดการขับขี่แบบปกติ และ โหมด SPORT ที่เรียกเค้นกำลังทั้งหมดออกมา พร้อม
ทั้งตัดการทำงาน VSC, TRAC เพื่อสร้างอารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ตสูงสุด โดยสามารถเลือกได้ที่สวิตช์
ควบคุมบริเวณคอนโซลกลางของตัวรถ

ในส่วนของราคานั้นยังไม่มีการประกาศออกมา แต่คาดว่า CT200h จะสามารถมีส่วนแบ่งการตลาดในรถยนต์
พรีเมี่ยมคอมแพคท์ไม่น้อยทีเดียวครับ เพราะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ชูจุดเด่นด้วยขุมพลัง
ไฮบริด แบบที่ไม่มีใครเหมือน