หลังปล่อยให้รุ่นปัจจุบันอยู่ในตลาดมานานจนครบอายุขับ
ฟูจิเฮฟวี อินดัสตรี ผู้ผลิตรถยนต์ ซูบารุ ก็ถือโอกาสใช้เวที
นิวยอร์กออโตโชว์ ประกาศเผยโฉม เลกาซีใหม่ ออกมาเป็นครั้งแรก
อย่างเป็นทางการ แล้วในวันนี้ (31 มีนาคม 2009)
เลกาซี ถือเป็นซีดานขนาดกลาง ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดของตระกูลซูบารุในปัจจุบัน
เปิดตัวครั้งแรก เมื่อเดือนมกราคม 1989 และนับแต่นั้น จนถึงบัดนี้
เลกาซี ทั้ง 4 เจเนอเรชัน ก้พากันสร้างรายได้และยอดจำหน่าย
รวมทั้งถ้วยรางวัลให้กับผู้ผลิตรถยนต์ค่ายดาวลูกไก่แดนอาทิตย์อุทัยเป็นอันมาก
ภายใต้แนวทางการพัฒนาตัวรถให้เน้นความสบายในการขับขี่ แบบรถยนต์ผู้ใหญ่
ออกแนว Cruising GT Sedan & Wagon โดยยึดหลักเครื่องยนต์สูบนอน BOXER
เชื่อมต่อกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลาแบบ symmetrical All-Wheel-Drive (AWD)
อันเป็นเอกลักษณ์ที่ซูบารุพยายามรักษาไว้ นับตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 ที่ผ่านมา
แม้ว่า การเผยโฉมเวอร์ชันต้นแบบเพื่อเรียกน้ำย่อย ในงานแสดงรถยนต์ดีทรอยต์ออโตโชว์ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
อาจจะสร้างความผิดหวังให้แฟนๆซูบารุเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม รูปลักษณ์ภายนอกของเวอร์ชันจำหน่ายจริง
ที่ปรากฎตัวให้เห็น ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด และเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ ทำให้เราได้เห็นว่า บางครั้ง รถคันต้นแบบ
ที่ไม่สวยนัก อาจดูลงตัวขึ้นได้ เมื่อกลายมาเป็นรถคันจำหน่ายจริง
มิติตัวถังใหญ่ขึ้นในทุกสัดส่วน ยาว 4,735 มิลลิเมตร (ยาวขึ้น 35 มิลลิเมตร)
ขยายความกว้างขึ้นไปอีก 90 มิลลิเมตร เป็น 1,820 มิลลิเมตร
เพิ่มความสูงอีก 80 มิลลิเมตร เป็น 1,505 มิลลิเมตร
หากมองผ่านๆ อาจจะนึกถึง Lexus GS 300 ที่มีทำตลาดในบ้านเราอยู่แล้ว
น่าสังเกตว่า ระยะหลังมานี้ ทีมออกแบบของซูบารุ เลือกจะออกแบบรถ ให้มีรูปลักษณ์ธรรมดาๆ
ไม่มีความโดดเด่น โฉบเฉี่ยว หรือแหวกแนว อย่างเช่นที่เคยทำมาในอดีต
ส่วนหนึ่ง เป็นไปได้ว่า เกี่ยวโยงถึงความอยู่รอดของซูบารุในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
วิกฤติเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ หากสร้างรถที่มีเส้นสายแปลกประหลาดมากเกินไป
โอกาสที่ลูกค้าจะรับไม่ได้ มีสูงมาก
ชุดแผงหน้าปัด มีแผงคอนโซลกลาง และการวางตำแหน่งชุดมาตรวัดรวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ
จนดูละม้ายคล้ายคลึงกับ รุ่นน้องอย่าง อิมเพรสซาใหม่
ในเวอร์ชันอเมริกาเหนือ เลกาซีใหม่จะวางขุมพลังมากถึง 3 แบบ โดยยังคงยึดรูปแบบ
การวางกระบอกสูบ แบบ สูบนอน BOXER
เริ่มจาก แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 2,457 ซีซี ไม่มีระบบอัดอากาศ
แต่มีการปรับปรุง ท่อทางเดินไอดี (ทำจากเรซิน) ช่วยให้เครื่องยนต์มีน้ำหนักเบาขึ้น
มีการปรับปรุงให้มีแรงบิดในรอบเครื่องยนต์ต่ำๆ ดีขึ้น อีกทั้งยังมีการปล่อยมลพิษที่ดีกว่าเดิม
กำลังสูงสุด 170 แรงม้า (HP) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 23.46 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที
เชื่อมด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผัน CVT
(Continuously Variable Transimission) ที่ซบารุตั้งชื่อว่า Lineartronic CVT
ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เพราะถูกนำมาใช้กับรถรุ่นนี้เป็นครั้งแรก
ซูบารุเคลมว่า นี่เป็นครั้งแรกในโลกที่มีการออกแบบชุดเกียร์ CVT
ซึ่งติดตั้งในแนวแปลก คือ วางชุดเฟืองและพูเลย์ตามยาว อีกทั้งยังใช้โซ่เป็นตัวขับเคลื่อน
ตามด้วยแบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2,457 ซีซี เพิ่มระบบอัดอากาศ Turbo
ติดตั้งอยู่ด้านใต้ ตอนหน้าของ Crankshaft ช่วยลดระยะทางของไอเสีย ที่จะไหลเข้าสู่แกนเทอร์ไบน์
เพื่อการตอบสนองให้นุ่มนวลขึ้น อีกทั้งมีส่วนช่วยในการลดจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถลงจากเดิมได้อีกเล็กน้อย
กำลังสูงสุด 265 แรงม้า (HP) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 35.6 กก.-ม. ที่ 2,000 – 5,200 รอบ/นาที
เชื่อมด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ เพียงอย่างเดียว ในรุ่น 2.5GT
และขุมพลังที่ใหญ่โตสุด สำหรับตลาดอเมริกาเหนือโดยเฉพาะ
เป็นแบบ 6 สูบ DOHC 3,630 ซีซี ไม่มีระบบอัดอากาศ แต่มาพร้อมระบบแปรผันวาล์ว AVCS
(Active Valve Control System) มาทำตลาดแทน เครื่องยนต์ 3.0 ลิตรเดิม
256 แรงม้า (HP) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 34.08 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที
เชื่อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ
สำหรับตลาดยุโรป และตลาดส่งออกในบางประเทศ (รวมทั้งไทย)
จะมีเครื่องยนต์ ดีเซลใหม่ล่าสุดมาให้เลือกอีกด้วยในภายหลัง
นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบกันสะเทือนหน้ายังคงเป็นแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัต
ด้านหลังเป็นแบบ ปีกนกคู่ ติดตั้งเข้ากับซับเฟรม ไปจนถึงจุดยึดเครื่องยนต์
ปรับปรุงการตอบสนองของพวงมาลัย และลดเสียงรบกวนขณะขับแล่นผ่านรอยต่อถนน ฯลฯ
เลกาซี ใหม่ จะจัดแสดงในรอบสื่อมวลชนของงานนิวยอร์กออโตโชว์ เป็นครั้งแรกในโลก วันที่ 8-9 เมษายนนี้
ก่อนเตรียมจะเปิดตัวสู่ตลาดญี่ปุ่นในเดือน กรกฎาคม และจากนั้น จึงจะมีการเปิดตัวในเมืองไทย ภายในช่วง
ปลายปีนี้ เป็นอย่างเร็วที่สุด
———————————-///———————————
J!MMY
สงวนลิขสิทธิ์
31 มีนาคม 2009
เผยแพร่ครั้งแรกใน
www.headlightmag.com