หลังจากงาน LA Autoshow 2009 ที่กร่อย ๆ ไปเมื่อสิ้นปีที่แล้ว เราก็ไม่แน่ใจว่างานสำหรับปี 2010 จะคึกคักได้สักกี่น้ำ
เราก็เฝ้าจับตาดูว่าผู้ผลิตรถอเมริกันทั้งหลายยังมีแก่ใจเปิดตัวรถใหม่รถต้นแบบบ้างหรือเปล่า
โดยเฉพาะงาน 2010 North American International Auto Show ที่เปิดรับปีใหม่แค่ 10 วันว่าจะกร่อยลงหรือมีอะไรน่าตื่นเต้นหรือเปล่า
แต่จู่ ๆ ผู้ผลิตรถที่เข้าร่วมงานแทบทุกค่ายพร้อมใจกันเปิดตัวรถใหม่และรถต้นแบบราวกับว่ามีการนัดหมายล่วงหน้ากันแล้ว
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด แต่ก็ทำให้อุณหภูมิตลาดรถยนต์สูงปรี๊ดถึงจุดเดือดและน่าจะทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์โลกกลับมามีชีวิตชีวาได้เร็วขึ้น
ไฮไลต์ของงาน 2010 North American International Auto Show หรือเรียกย่อ ๆ ว่า Detroit Auto Show
ก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าค่ายรถต่าง ๆ ประชันรถยนต์รุ่นใหม่และรถต้นแบบที่เป็นยานยนต์สีเขียวเป็นหลักมากกว่าจะโชว์ความล้ำแต่เพียงอย่างเดียว
สถานการณ์โลกเปลี่ยนไป ลูกค้าก็เปลี่ยนไปทำให้ค่ายรถยักษ์ใหญ่ทั้งหลายพร้อมรับปรับตัวกันอย่างรวดเร็ว
ค่ายไหนที่ยังปรับตัวช้าอาจจะหล่นไปจากกระแสโลกได้
แต่โปรดอย่าไปคาดหวังว่าค่ายรถทุกค่ายจากทั่วทุกมุมโลกจะมาโคจรในงานนี้ เพราะงานนี้คงจะเป็นงานโชว์ BIG เสียมากกว่า
เพราะมีแต่ค่ายใหญ่ ๆ มาร่วมงานกันทั้งนั้นโดยเฉพาะ 3 ขาใหญ่เจ้าถิ่น Ford,GM และ Chrysler ที่ผนึกกำลังกับ Fiat
ค่ายรถญี่ปุ่น 3 ค่ายใหญ่ Toyota,Honda และ Nissan แต่รายหลังไม่ลงทุนเปิดบูธใหญ่เหมือนกับคนอื่นมาในมุม EV เล็กมากๆ
ค่ายรถเยอรมัน Mercedes-Benz,BMW และ VW Group
ค่ายรถเกาหลียักษ์ใหญ่ Hyundai
นอกนั้นค่ายรถชื่อดังก็ไม่เห็นมีโผล่ร่วมงานคงจะมีเพียงค่ายรถแปลก ๆ มาตั้งบูธกันเป็นล่ำสันเสียมากกว่า
ก่อนที่จะท่องเที่ยวในงานเราต้องขอขอบคุณภาพถ่ายสด ๆ จากเว็บไซต์ Autoblog.com มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
Ford Group
Ford กล้าปฏิวัติการเปิดตัวรถ C-segment ในงานนี้โดยเฉพาะจากเดิมที่มักจะไปเปิดตัวที่ยุโรปก่อน งานนี้ Ford กล้าทุ่มทุนสร้าง Focus ให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ความท้าทายในการพัฒนารถในตระกูล C-Car Platform คือต้องตอบสนอความต้องการของลูกค้าที่อยากซื้อรถขนาดเล็กที่โดดเด่นไปด้วย ความประหยัดน้ำมัน แต่ไม่ละทิ้งเรื่องของสไตล์,เทคโนโลยี,การเชื่อมต่อการสื่อสาร และคุณภาพการขับขี่
Focus ทั้งตัวถังซีดานและแฮทช์แบคมาในมาดสปอร์ตปราดเปรียวเพรียวลม ซึ่งเป็นอีกขึ้นของ Kinetic Design ที่ใช้กับรถเล็กและรถขนาดกลางเวอร์ชันล่าสุด ให้ความรู้สึกเหมือนรถกำลังวิ่งแม้ขณะจอดนิ่ง ๆ สัดส่วนของตัวรถดูปราดเปรียว คล่องแคล่ว เส้นบ่าด้านข้างรถที่ดูแข่งแกร่งก็รับกับความเพรียวบางทั้งคัน พร้อมเทคโนโลยีเครื่องยนต์ล้ำสมัย EcoBoost 2.0 ลิตร
Lincoln ค่ายรถหรูในเครือ Ford ก็ส่ง MKX รถครอสโอเวอร์ที่พัฒนาร่วมกับ Mazda CX-7 ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ให้สวยใสขึ้นพร้อมเพิ่มอุปกรณ์จอสัมผัส 4.2 นิ้ว สั่งการภายในรถได้
GM
กรีฑาทัพรถรุ่นใหม่พอประมาณเลยครับ แต่งานนี้คงเน้นแบรนด์ Chevrolet GMC และ Cadillac ไปก่อนโดยเฉพาะไฮไลต์เด็ดส่ง Chevrolet AVEO RS Concept ด้วยรูปร่างหน้าตาสวยเผ็ดดุทั้งภายนอกและภายใน ฉีกภาพลักษณ์เดิม ๆ ที่เคยชอบโดนกล่าวหาว่าเป็นรถเกาหลีบ้างอะไรบ้าง พร้อมเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เทอร์โบที่วางใน Cruze ถ้าอยากได้ต้องอดใจรออีก 1 ปี ส่วนในเมืองไทยคาดว่าคงจะมาปี 2011
Cadillac XTS ส่งซีดานต้นแบบเอาใจอภิมหาอัครเศรษฐี XTS Platinum Concept เลอค่าดุจอัญมณี ว่าง่าย ๆ มันเอาไว้ต่อกรกับ Mercedes-Benz S-Class เท่านั้น แต่ดูเรือนร่างแล้วบอดี้ด้านหน้าไม่ค่อยเข้ากันกับตัวถังหลักเท่าไรนะครับ
อีกหนึ่งรุ่นเป็นรถคันขายจริงแต่แรงมากคือ CTS-V ที่ใช้ขุมพลัง V8 6.2 ลิตร 556 แรงม้า พร้อมจูนระบบกันสะเทือนให้เจ๋งขึ้น
อีกแบรนด์หนึ่งที่หันจับกลุ่มวัยเยาว์ขึ้นคือ GMC Granite เป็นรถต้นแบบอเนกประสงค์ทรงกล่องสูง 5 ที่นั่งมีความยาวประมาณ 4,097 มม. กว้าง 1,786 มม. สูง 1,536 มม. ฐานล้อยาว 2,631 มม. หากเทียบง่าย ๆ มันจะต้องเป็นคู่แข่ง Scion XB เท่านั้นเพราะขนาดของรถต้นแบบคันนี้มีขนาดใกล้เคียงกัน นับว่าเป็นการจับรถอเนกประสงค์ระดับคอมแพคท์ของ GMC และเป็นการขยายแบรนด์ที่ยังมีทิศทางอยู่
Chrysler-FIAT Group
รวมกันเราอยู่ แยกกัน Chrysler อาจตายได้เลยต้องให้ Fiat มาช่วยโอบอุ้มกลายเป็นคู่หูหน้าใหม่ของวงการไปอีกราย ปีนี้ทั้งคู่งดเว้นการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของโลกไปสักปีหนึ่ง ทำได้ก็แค่เพียงนำรถในไลน์อัพของตนเองมาอวดโฉมเท่านั้นเริ่มจาก Chrysler 300 ที่เพิ่มรุ่นย่อยพิเศษ S6 และ S8 เพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งภายนอกและภายในใหม่
ฝั่ง Fiat ดูเหมือนจะมีของมาอวดและดูน่าตื่นใจกว่าเล็กน้อยด้วย Fiat 500 BEV รถต้นแบบไฟฟ้าและ Fiat 500 Abarth SS ตกแต่งแนวสปอร์ตที่เหนือกว่า Abarth เวอร์ชันปกติ
และอีกแบรนด์ที่คาดไม่ถึงคือ Lancia ที่ขอส่ง Delta รถคอมแพคท์ขนาดหรูให้ชาวอเมริกันได้รู้จักกัน แต่ที่แปลกยิ่งกว่าแปลกก็คือรถคันนี้มาในนาม Chrysler Lancia พร้อมใส่กระจังหน้าเอกลักษณ์ Chrysler ลงไป ชัดเจนแล้วว่า Fiat ต้องการเล่นตลาดรถหรูในอเมริกาแน่นอน
Toyota
ยักษ์ญี่ปุ่นเบอร์ 1 ของโลกไม่พลาดที่จะจับจองพื้นที่แห่งนี้ตามเคย แถมยังส่งรถต้นแบบนามว่า FT-CH รถเล็ก Hybrid ที่เตรียมวางขายอีก 2-3 ปีข้างหน้าวางตำแหน่งการตลาดต่ำกว่า Prius งานนี้ Toyota ให้ความสำคัญกับตลาดอเมริกันเป็นหลัก
แนวคิดการออกแบบ FT-CH มาแปลกเพราะทีมงานบอกว่าใช้แนวคิดการออกแบบ 8 bit ได้แรงบันดาลใจจากวัวัฒนาการของเทคโนโลยีต้นยุค 80 ทั้งไมโครโปรเซสเซอร์และวิดีโอเกมที่เพิ่งอยู่ในยุคเริ่มต้นจนเป็นที่มาให้ เกิดการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ทั้งเพลง 8 bit ซาวด์ก๊องแก๊ง ๆ และศิลปะ 8 bit
Honda
เอาใจคนอเมริกันอีกรอบด้วยการชิงเปิดตัว Honda CRZ ก่อนญี่ปุ่นเกือบเดือนกว่า ๆ Honda เคลมว่า CR-Z เป็นรถสปอร์ต Hybrid ที่เน้นด้านสมรรถนะควบคู่กับสิ่งแวดล้อมไปในตัว ผมก็คงไม่แปลกใจนักที่มันจะเป็นเช่นนั้นเพราะรถ Hybrid ส่วนใหญ่ล้วนมีสมรรถนะที่ดี ประหยัดน้ำมันและลดมลภาวะไปในตัว ขุมพลัง IMA ก็ผนวกกับเครื่อง 1.5 ลิตร i-vtec และมอเตอร์ไฟฟ้า
Hyundai
แม้ไม่มีรถใหม่มาเปิดตัวแต่ก็ขอยืนยันที่จะเข้าร่วมงานนี้กันต่อไปเพื่อแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เพื่อมิให้ชาวอเมริกันหงุดหงิดใจจึงส่งรถต้นแบบ Bluewill Concept Hybrid มาอวดโฉมอีกครั้ง
BMW Group
BMW ไม่หลุดเทรนด์รถรักโลกจึงส่งรถต้นแบบรถไฟฟ้าโปรโตไทป์ที่ไว้ใช้ทดสอบ 1 ในโครงการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจึงถูกริเริ่มขึ้นภายใต้ชื่อโครงการ Project I ที่ BMW วิจัยและพัฒนารถไฟฟ้าเพื่อทดลองใช้ในภูมิภาคยุโรปและอเมริกากันก่อน ผลผลิตคันแรกของ Project I คือ Mini E ตามมา BMW Concept ActiveE จึงเป็นผลิตผลที่ 2 ในโครงการโดยมีจุดมุ่งหมายการเช่าซื้อแบบยกเหมา (Fleet) เพื่อให้ทีมวิศววกรเก็บข้อมูลก่อนเตรียมผลิตจำหน่ายแก่ประชาชนจริง
ฟาก MINI ก็ทำให้เราผิดคาดได้เล็กน้อยเพราะยังส่งรถต้นแบบ MINI Beachbomber Concept กันอยู่เลย จากแหล่งข่าวลือว่ากันว่า MINI น่าจะเปิดตัวรถครอสโอเวอร์ของตนเองภายในงานนี้ แต่ไม่เป็นไรก็ถือว่า MINI พยายามสร้างกระแสของตนเองจนกว่าจะเปิดตัวรถในช่วงเวลาจริง ๆ
Mercedes-Benz
ปีนี้ส่ง E-Class Convertible พร้อมเทคโนโลยีฟังก์ชันตัดสายลมเข้าห้องโดยสารขณะเปิดประทุนรายแรกของโลก ไฮไลต์เด็ดไม่พ้นหุ่นจำลองต้นแบบ CLS ตัวต่อไป (ดูไปดูมาเหมือนมนุษย์เหล็กไหลใน คนเหล็กภาค 2 ) ชัดเจนแล้วว่า CLS ตัวต่อไปจะลอกหน้าจาก SLS AMG มาใส่ ขณะที่ยังคงรูปลักษณ์แบบซีดานคูเป้อยู่เช่นเคย
Volkswagen Group
VW ปีนี้ขอเปิดตัว New Compact Coupe Concept ถูกออกแบบบนพื้นฐาน DNA ยุคใหม่ที่เน้นเส้นสายที่เรียบแต่มีความคมชัดและมีพลังสูง เรียกว่าแทบจะไม่มีชิ้นส่วนใดฉวัดเฉวียนน่าเวียนหัวเลย แม้รูปทรงและบั้นท้ายจะออกแนว Audi ไปหน่อยก็ตาม
ถ้าใครไม่ทันสังเกตบูธ Audi ให้ดีอาจจะพลาดรถเด่นไปได้นั่นก็คือ Audi E-Tron Concept ตัวที่ 2 ว่ากันว่านี่แหล่ะคือหน้าของ A4 Coupe แต่ถ้ามันเป็น A4 Coupe จริงก็คงหมดห่วงว่าจะไปกินตลาด A5 เพราะดูจากรูปการณ์แล้ว A4 Coupe คงนั่งกันได้แค่ 2 คนเท่านั้น