วิกฤตค่าย Volkswagen ยังคงส่งผลต่อเนื่องแบบโดมิโน หลังจากราคาหุ้นตก โดนแบนการจำหน่ายจาก
ประเทศต่างๆ เปลี่ยนประธานบริษัท และต้องเลื่อนแผนเปิดตัวรถยนต์หลายรุ่นเพื่อเก็บเงินไว้สำหรับชดเชย
ความเสียหาย ล่าสุด ต้องประกาศเรียกรถยนต์พร้อมเครื่องยนต์เจ้าปัญหากลับเข้าไปเพิ่มเติมเป็น
จำนวน 3.6 ล้านคันในยุโรป และทำให้ตัวเลขรถที่ต้องแก้ไขพุ่งขึ้นเป็น 11 ล้านคันทั่วโลกแล้ว
เครื่องยนต์เจ้าปัญหานี้ เป็นเครื่องยนต์ดีเซลรหัส EA189 แบบ 4 สูบเรียง ซึ่งมีหลายขนาดความจุ ตั้งแต่
ขนาด 1.2 ลิตร, 1.6 ลิตร ไปจนถึง 2.0 ลิตร ซึ่งต้นเหตุของวิกฤตนี้ มาจากเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรที่ถูก
จับได้ว่าโกงการทำงานจนปล่อยมลพิษออกมาน้อยกว่าปกติ และเป็นปัญหาด้านซอฟท์แวร์
แต่แท้จริงแล้ว การโกงระบบทำงานของเครื่องยนต์ เป็นการติดตั้งอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ใช้ซอฟท์แวร์นี้อีกที
และตอนนี้ เป็นคิวของเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ที่ต้องถูกเรียกเข้าไปแก้ไข โดยไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธี
การป้อนซอฟท์แวร์ใหม่เข้าไปเหมือนกับขนาด 2.0 ลิตร แต่ต้องมีการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์หรือเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้
กันเลย
เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร TDI เป็นที่นิยมในยุโรปมาก เพราะติดตั้งทั้งใน Polo, Golf, รวมถึงรถตระกูล BlueMotion
(เป็นตระกูลที่ปรับจูนเพื่อมลภาวะต่ำ-เหมือนเป็นเรื่องตลกร้ายเล็กน้อย) และรถยนต์ในเครืออย่าง Audi A1, A3, A4,
Seat Ibiza, Skoda Fabia, Yeti, Octavia ฯลฯ ซึ่งจำหน่ายในยุโรปเป็นจำนวนรวมกันถึง 3.6 ล้านคัน
ล่าสุด Volkswagen ได้ประกาศเรียกคืนรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ EA 189 เริ่มต้นในเดือนมกราคม
และจะแก้ไขรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2016 นั่นหมายความว่า ปีหน้าทั้งปี Volkswagen จะต้องวุ่นกับการจัดการ
ค่าใช้จ่ายและเรียกรถยนต์กลับเข้ามาแก้ไขให้จบ ส่งผลต่อแผนพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่แน่นอน
โดยยังไม่มีรายละเอียดว่า เครื่องยนต์ขนาดเล็กสุด 1.2 ลิตรจะโดนหางเลข ต้องกลับไปแก้ไขหรือไม่
ทวีปยุโรป ถือว่าเป็นกลุ่มประเทศที่มีรถ Volkswagen พร้อมปัญหาโกงผลทดสอบนี้มากที่สุด เพราะเป็นกลุ่มประเทศ
ที่มีการจำหน่ายรถดีเซลมาก โดยรถในค่าย Volkswagen พร้อมเครื่องยนต์ EA 189 ถูกจำหน่ายออกไป
เป็นจำนวนมากถึง 8 ล้านคัน
ที่มา : Reuters