ช้าแต่ชัวร์อาจจะฟังดูเหมาะสมกับสังคมนิยม slowlife ในยุคนี้เป็นอย่างดี รถยนต์อัตโนมัติของ Google ก็เช่นกัน ซึ่งเป็นประเด็น
ให้คนบนโลกออกไลน์ได้หัวเราะกันหลังจากที่โดนตำรวจเรียกให้จอดเพราะวิ่งช้าเกินกฎหมายกำหนดจนทำการจราจรติดขัด

บ่ายแก่ๆของสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเขต Mountain View ในประเทศสหรัฐนั้นได้พบว่าถนน El Camino Real
มุ่งหน้าทิศตะวันออกมีการจราจรติดขัดผิดปกติพอหาที่ไปที่มาก็พบตัวต้นเหตุอยู่ที่หัวแถวใช้ความเร็วแค่ 38 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ในบริเวณที่ต้องใช้ความเร็ว 56 กิโลเมตร/ชั่วโมงซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่รอช้าเข้าไปตักเตือนเพียงเพื่อจะพบว่าตัวเจ้าปัญหา
เป็นรถยนต์อัตโนมัติที่ไม่มีคนขับของ Google

Googleselfdrivingcar

เจ้าหน้าที่จึงติดต่อ call center ของ Google เพื่อให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวเนื่องจากการใช้ความเร็วต่ำเกินกฎหมายกำหนด
จนเป็นเหตุให้การจราจรติดขัดนั้นถือว่าละเมิดกฎเรื่องความเร็วขั้นต่ำของ California (VC Section 22400 Minimum
Speed Law) แต่ทาง Google แย้งว่ารถยนต์อัตโนมัตินั้นถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมงเพื่อความปลอดภัย
ตามกฎการใช้รถพลังงานฟ้าหรือยานพาหนะที่มีความเร็วต่ำ ซึ่งเมื่อจำแนกตามประเภทรถแล้ว Google ถือว่าไม่มีความผิด
ในครั้งนี้

google-autonomous-car-prototype.jpeg1

Google ยังให้สัมภาษณ์ต่อด้วยว่านอกจากจะทำตามกฎดังที่ระบุไปแล้วยังเป็นการทำให้รถยนต์อัตโนมัติดูเป็นมิตรเวลา
วิ่งเข้าไปในเขตเมืองด้วยเพราะผู้คนมันจะให้ความสนใจในรถที่ไม่มีคนขับและการที่ใช้ความเร็วสูงจะทำให้ดูน่ากลัว
นอกจากนี้ Google ยังภูมิใจนำเสนอด้วยว่ารถยนต์ทุกคันของ Google ได้วิ่งทดสอบมาเป็นระยะทางมากกว่า 1.92 ล้านกิโลเมตร
แล้วแต่ยังไม่เคยได้รับใบสั่งเลยซึ่งไม่แน่ใจสาเหตุที่ไม่มีใบสั่งเพราะตำรวจไม่รู้จะลงชื่อว่าใครเป็นคนขับหรือไม่

 

ที่มา : motortrend , caranddriver