ภาพลักษณ์ของรถญี่ปุ่นในสายตาของคนทั่วไปคือภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำการพัฒนาและผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพ,
น่าเชื่อถือได้ภายใต้ราคาขายที่สมเหตุสมผล แต่ร้อยวันพันปี นาน ๆ ทีรถญี่ปุ่นจะแนะนำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่โดด
เด่น ผิดกับผู้ผลิตรถยนต์ฝั่งยุโรป (หรือบริษัทรถอเมริกันที่มีถิ่นฐานการพัฒนาอันแข็งแกร่งในยุโรป) ที่ยังนำกระแสด้านการ
คิดค้นเทคโนโลยีใหม่อยู่เสมอ

2015_07_27_Honda_1

อย่างง่าย ๆ เลยแค่เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ ฉีดเชื้อเพลิงตรงก็หายากในหมู่มวลรถญี่ปุ่นทั้งหลาย มีเพียงแค่
Nissan ที่ได้รับอานิสงค์เครื่องยนต์ชนิดนี้จาก Renault แต่นอกนั้นยังไม่มีหน่วยกล้าตายรายใดที่จะนำเสนอเครื่องยนต์
ชนิดนี้ แม้กระทั่ง Toyota และ Honda

รถ Toyota และ Honda ที่วิ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกาทุกวันนี้ไม่มีรถรุ่นไหนที่มีเครื่องเทอร์โบให้เลือกเลย มีเพียงแค่
Nissan Juke DIG-T และ Nissan GT-R ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ชนิดนี้เท่านั้น

ขณะเดียวกันรถยนต์ Ford และรถยุโรปหลายแบรนด์ก็แนะนำเครื่องยนต์เทอร์โบจนกินจะหมดตลาดกันอยู่แล้ว นี่ยังไม่นับ
รวมค่ายรถจากเกาหลีที่แนะนำเครื่องเทอร์โบให้ลูกค้าเลือกเช่นกัน

Ed Kim รองประธานฝ่ายวิเคราะห์อุตสาหกรรม AutoPacific กล่าวว่า สาเหตุที่ค่ายรถญี่ปุ่นติดตั้งเครื่องเทอร์โบล่าช้าก็
เพราะพวกเขาต้องแน่ใจว่าพวกเขาทำเครื่องเทอร์โบด้วยตัวเองได้

ปัจจุบันค่ายรถญี่ปุ่นพยายามสรรหาเทคโนโลยีระยะยาวเพื่อให้สอดคล้องกับการจับตาค่าไอเสียและอัตราสิ้นเปลือง
เชื้อเพลิงโดยรัฐบาล อย่าง Nissan ก็ออก Leaf รถไฟฟ้าหรือ Toyota ที่เพิ่งเปิดตัว Mirai รถไฮโดรเจนเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่
ค่ายรถญี่ปุ่นเพิ่งหาทางขยายขีดข้อจำกัดของรถยนต์เทคโนโลยีเก่าตามหลังเพื่อนฝูงไปไกล และเชื่อว่าค่ายรถญี่ปุ่นยักษ์
ใหญ่ทั้ง 3 Toyota, Honda และ Nissan จะดาหน้าแนะนำเครื่องยนต์เทอร์โบเต็มท้องตลาดภายใน 5 ปีข้างหน้า
เร็ว ๆ นี้เราจะได้เห็น All New Honda Civic ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบก่อนใคร เป็นการเปิดโอกาสในการขาย
ให้กับรถยนต์รุ่นขายดีที่สุดของ Honda หลังจากนั้นจะตามมาด้วย Accord และ CR-V ที่จะติดตั้งเครื่องยนต์บล็อก
เดียวกันนี้

ทั้ง Honda Civic, Accord และ CR-V เป็นรถยนต์หัวใจหลักของ Honda ที่มียอดขายรวมกันในสหรัฐอเมริกามากกว่า 1
ล้านคันภายในปี 2014

ฝ่าย Toyota ก็มีเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ แทนที่เครื่องยนต์ V6 บลีอกเดิมเพื่อติดตั้งลงใน Toyota
Camry และ Lexus หลายรุ่น

แต่อย่างไรก็ตาม Toyota ยังยืนกรานจะไม่ให้เครื่องยนต์ 4 สูบฉีดเชื้อเพลิงตรง เทอร์โบเข้ามาแทนที่เครื่องรุ่นใหญ่เสมอไป
แต่ Toyota อาจจะนำเครื่องรุ่นใหญ่มาดัดแปลงติดตั้งเทคโนโลยีฉีดเชื้อเพลิงตรงภายใต้การทำงานระบบ Atkinson
Cycle และต้องมีการพึ่งพาเกียร์ CVT มากยิ่งขึ้น

สำหรับ Nissan ได้มีการนำเกียร์ CVT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอัตราสิ้นเปลือง แต่ทว่าการขยายไลน์เครื่องยนต์เทอร์โบจะช้า
กว่า Toyota และ Honda เพราะพวกเขาจะเน้นเทคโนโลยีฉีดเชื้อเพลิงตรงอย่างเดียวมากกว่า

นอกจากค่ายรถญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่ทั้ง 3 ล้าหลังเทคโนโลยีในด้านเครื่องยนต์เทอร์โบ แล้วยังล้าหลังเทคโนโลยี
infotainment อีกด้วยซึ่ง Ed Kim เผยว่าขณะนี้ค่ายรถญี่ปุ่นก็กำลังพัฒนาระบบ infotainment เพื่อให้กวดกับคู่แข่งได้
ทัน

ก็เรียกว่าค่ายรถญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่คงตั้งใจเพลี่ยงพล้ำการพัฒนาเทคโนโลยี และคาดว่าพวกเขาก็คงเร่งพัฒนาตัวเพื่อให้ตาม
โลกยนตรกรรมให้ทัน แต่มันจะมีประสิทธิภาพดีแค่ไหน กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เท่านั้น เพราะในโลกนี้ยังมีสำนวน
“หัวเราะทีหลังดังกว่า”

ที่มา : Automotive News