ผู้คนที่ทำงานอยู่ใน บริษัทรถยนต์ซาบ ทั้งในเมือง โทรลฮัตตัน รัฐบาลสวีเดน
ไปจนถึง พนักงาน 3,400 คน และ ดีลเลอร์ กว่า 1,100 ราย ทั่วโลก คงจะตกอยู่ใน
ความกระวนกระวายใจในชะตากรรมของตนเอง และของบริษัทที่ตนทำงานอยู่
เมื่อ General Motors ประกาศว่า การเจรจากับผู้ผลิตรถสปอร์ต Spyker แห่ง
เนเธอร์แลนด์ ไม่เป็นผลสำเร็จ และ ส่งผลให้ GM ต้องประกาศ ยุติการทำตลาด
แบรนด์รถยนต์จาก สวีเดน เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา
แต่แล้วจู่ๆ ข่าวล่าสุด ออกมาในค่ำคืนนี้ (20 ธันวาคม 2009) ว่า Victor Muller CEO
ของ Spyker ตัดสินใจ ยื่นข้อเสนอใหม่ รวมทั้งสิ้น 11 ข้อ ให้กับทาง GM เรียบร้อยแล้ว
และเชื่อมั่นว่า ข้อเสนอครั้งนี้ จะช่วยขจัด อุปสรรคในการเจรจาซื้อขายกิจการของซาบ
ลงไปได้มาก
โดยส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ที่ออกมา Muller กล่าวว่า “เราพยายาม ทำทุกอย่าง
ที่จะขจัดปัญหา ซึ่งเป็นอุปสรรคในการเจรจา และเราได้บอก GM รวมทั้ง ผู้มีส่วน
เกี่ยวข้องอื่นๆ ให้พิจารณา ข้อเสนอทั้ง 11 ข้อนี้อย่างจริงจัง” เขายังกล่าวต่อไปว่า
“เรามีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า ข้อเสนอใหม่ของเราในครั้งนี้ จะคลี่คลายข้อจำกัดต่างๆ
ที่มีอยู่ตลอดการเจรจา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และนี่จะยังช่วยให้เรา สามารถบรรลุ
ข้อตกลงต่างๆ ได้ทันกำหนดการเดิมที่ GM ตั้งเอาไว้ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2009
โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง จะช่วยให้ ธนาคารเพื่อการลงทุนแห่งยุโรป European
Investment Bank (EIB) สามารถอนุมัติสินเชื่อเงินกู้ ได้ทันเส้นตายที่ GM กำหนด
ไม่เพียงเท่านั้น Muller ยังกล่าวด้วยว่า “การเจรจาครั้งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ
ความรู้สึกของเรา ที่อยากจะช่วยรักษา แบรนด์อันแข็งแกร่ง ที่เราสมควรจะยกย่อง
รวมถึง การรักษาไว้ซึ่งตำแหน่งงาน และชีวิตของพนักงานผู้จงรักภักดีในซาบ
นับพันๆคน ผู้จำหน่าย และผู้ผลิตชิ้นส่วน ของซาบ ทั่วโลก”
สิ่งที่ Spyker เสนอมา ถิอเป็นการกระทำเยี่ยงวีรบุรุษ ที่พยายามจะทำทุกวิถีทาง
เพื่อจะไม่ให้ซาบ ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันกับ Pontiac และ Saturn 2 แบรนด์สำคัญ
สำหรับตลาดอเมริกาเหนือ ที่ต้องถูกยุติบทบาทไปในท้ายที่สุด อย่างน้อย ก็ยังรักษา
ชีวิตของ แบรนด์ที่มีคุณค่าเอาไว้ได้ เฉกเช่นเดียวกับการที่ GM ขายแบรนด์ SUV
ที่ซื้อมาจาก American Motors อย่าง HUMMER ให้กับ SAIC (เซี่ยงไฮ้ ออโตโมบิลล์)
ขณะเดียวกัน GM ยังคงเก็บ Opel เอาไว้ ในฐานะ แหล่งพัฒนารถยนต์สำหรับตลาดยุโรป
อันเป็นฐานการทำเงินสำคัญ ที่ยังไม่อาจละทิ้งได้
แม้ประวัติศาสตร์ อันยาวนาน ของกลุ่ม Saab-Scania จะมีมาช้านาน แต่ว่า ถ้านับกัน
เฉพาะในตลาดรถยนต์แล้ว Saab (Svenska Aeroplan Aktiebolaget) ก่อตั้งขึ้นเป็น
ครั้งแรก เมื่อปี 1946 เพื่อผลิตรถยนต์ และอากาศยาน จนกระทั่งปี 1969 Saab AB
และ ผู้ผลิตรถบรรทุก Scania-Vabis AB. ได้ควบรวมกิจการกันเป็น Saab Scania AB.
ปัญหาก็คือ ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะพยายามขนาดไหนก็ตาม Saab ก็ยังขายรถได้ไม่ดีเท่าที่ควร
และจัดอยู่ในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ขนาดกลาง ค่อนข้างเล็ก ตัวเลขสถิติ ที่ ซาบเคยทำได้ดีที่สุด
คือในปี 1986 ซาบขายรถในสหรัฐอเมริกาได้เพียง 48,181 คัน สูงที่สุด นับตั้งแต่อยู่ในตลาด
ที่ใหญ่ที่สุด และขายรถได้ปีละหลายล้านคัน แห่งนี้
ดังนั้น GM จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ตั้งแต่ปี 1990 ซาบ-สแกเนีย ตัดสินใจแยกกิจการ
รถยนต์ซาบ ออกมา เป็นบริษัทอิสระ ภายใต้การถือหุ้นของ Investor AB และ GM คนละ 50%
ก่อนจะเข้าถือหุ้น เป็นเจ้าของเองแต่เพียงผู้เดียว 100% ในปี 2000
GM มีส่วนร่วมในความพยายามสร้างรถยนต์รุ่นต่างๆ ของ ซาบ มาโดยตลอด ตั้งแต่รุ่น 900
ในปี 1993 รุ่น 9-5 (โมเดลเชนจ์ ของ 9000) ในเดือนพฤษภาคม 1998 รุ่น 9-3 (ปรับโฉม
ไมเนอร์เชนจ์ของรุ่น 900) ในปี 1999 รุ่น เปลี่ยนโฉม ของ 9-3 ใหม่ ในช่วง ปี 2003-2004
รวมทั้ง การจับแพะชนแกะที่น่าเกลียดที่สุดในประวัติศาสตร์ ครั้งหนึ่งของวงการรถยนต์
อย่างเช่น การนำ Subaru Impreza มาแปลงหน้าปรับท้าย ขายเฉพาะในอเมริกาเหนือด้วยชื่อ
Saab 9-2x และ การจับเอา GMC Envoy มาแปลงหน้าใหม่ ขายในชื่อ Saab 9-7x เมื่อ 3-4 ปีก่อน
และล่าสุด การเปิดตัว 9-5 รุ่นใหม่ Full Modelchange เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง!
แต่ สุดท้าย GM คงจะแบกรับการขาดทุนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว จึงเริ่มส่งสัญญาณ ให้โลกได้รับรู้
ว่าพวกเขาอยากจะขาย ซาบ ออกไป เป็นครั้งแรกเมื่อ 11 มกราคม 2009 ด้วยการ เริ่มให้ข่าวกับ
สื่อมวลชนในสหรัฐอเมริกาว่า พวกเขาเคยเจรจาขายกิจการซาบมาแล้ว ตามติดด้วยการแสดง
ความคิดเห็น จากรัฐบาลของสวิเดนในวันรุ่งขึ้น (12 มกราคม 2009) ว่า พวกเขาไม่มีแผน
ที่จะเพิ่มทุนให้กับ ซาบ หรือให้ความช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น
แต่อย่างไรก็ตาม รับาล สวิเดน ก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำไปเสียทีเดียว เพราะอีก 1 เดือนต่อมา
20 กุมภาพันธ์ 2009 ศาลของสวิเดน ยื่นมือเข้ามาคุ้มครองซาบ จากนักลงทุนในระหว่าง
การหาพันธมิตรรายใหม่ และ..เงินลงทุนก้อนใหม่ อีก 3 วันต่อมา รัฐบาลสวิเดน
ก็ประกาศว่า จะให้การค้ำประกันสินเชื่อเงินกู้ก้อนใหญ่ของ ธนาคารเพื่อการลงทุนแห่งยุโรป
(European Investment Bank) ถ้าเจ้าของใหม่ มีเงินทุนมากพอในระดับ ครึ่งหนึ่ง
ของตัวเลขทั้งหมดที่จำเป็นต้องมี
เวลาล่วงเลยไปนานถึง 18 สิงหาคม Koenigsegg ผู้ผลิตรถสปอร์ตจากสวิเดน ขนาดเล็ก
ประกาศว่า ได้ทำข้อตกลงเบื้องต้น กับ GM ในการเจรจาต่อรองเพื่อซื้อกิจการของซาบ
9 กันยายน 2009 บริษัทปักกิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ หรือ Beijing Automotive Industry
Holdings (BAIC) ซึ่งเป็นกิจการที่ดำเนินงานโดยรัฐบาลจีน ลงนามในสัญญา ซื้อหุ้น
บางส่วนของ Koenigsegg ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาดีลเพือ่ซื้อกิจการของซาบ
แต่ต่อมา 24 พฤศจิกายน 2009 ตัดสินใจแล้วว่า จะไม่เจรจาอีกต่อไป รัฐบาล สวีเดน จึงตัดสินใจ
ยกเลิกความช่วยเหลือที่เคยประกาศไว้ วันรุ่งขึ้น BAIC ประกาศว่า กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
ทางเลือกที่มีให้
27 พฤศจิกายน 2009 GM กล่าวว่า กำลังพูดคุยอยู่กับ นักลงทุนที่คาดว่าจะซื้อกิจการซาบ
ก่อนที่ 4 วันต่อมา คณะกรรมการ ของ GM จะลงมติร่วมกันถึง 2 ทางออกสุดท้าย ว่า
จะดึงผู้ซื้อเข้าสู่โต๊ะการเจรจา หรือว่ายกเลิกแบรนด์นี้ไปเสีย
30 พฤศจิกายน 2009 BAIC แสดงความสนใจว่า เอาละ จะขอซื้อกิจการซาบเองทั้งหมด
1 ธันวาคม 2009 คณะผู้บริหารของ GM เริ่มวางกำหนดเวลาแล้วว่า จะยังรอคอย ใครก็ตาม
ที่จะติดต่อเข้ามาเสนอซื้อกิจการของซาบ ภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ หากยังไม่มีใคร
เสนอตัวเข้ามาเจรจา GM อาจจะตัดสินใจ ลดบทบาทการทำธุรกิจของซาบลง
14 ธันวาคม 2009 BAIC ผู้ผลิตรถยนต์ จากจีน ตัดสินใจ ซื้อ สินทรัพย์บางส่วนของ ซาบ
อันได้แก่เครื่องไม้เครื่องมือ พิมพ์เขียว และแพล็ตฟอร์มของ ซาบ ทั้งรุ่น 9-3 Sedan และ 9-5
เพื่อหวังจะนำไปผลิตขายในประเทศจีน ในราคาสูงถึง 200 ล้านเหรียญ ในที่สุด ผู้ผลิตชาวจีน
ก็เลือกที่จะเอาแต่สินทรัพย์ ที่ดีๆของซาบไป พอให้มีเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบได้บ้าง แทนที่
จะเอาไปทั้งแบรนด์ซึ่งก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า พวกเขา ไม่ได้สนใจแบรนด์ซาบ อย่างที่
พวกเขาเคยพูดนักหรอก
และ ในเวลาเดียวกัน Spyker เอง ผู้ที่เสนอตัวเข้ามาเจรจาซื้อกิจการกันในภายหลัง
ตัดสินใจ ถอนตัว เพราะรับข้อเสนอของ GM ที่ วุ่นวายซับสน ซับซ้อน และวกวนไปมา
อย่างไร้สาระมาก ในความเห็นของ ผู้บริหาร จอมศิลปินและจอมเรื่องมากของ Spyker
ก่อนที่จู่ๆ จะประกาศ ยื่นข้อเสนอสุดท้ายให้ GM ในเช้าวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา
ตามเวลาของสหรัฐอเมริกา อย่างที่เกิดขึ้นอยู่นี้
ปัญหาเดียวก็คือ SPYKER ยื่นข้อเสนอสุดท้ายนี้ให้ โดยระบุว่า
เส้นตาย ของข้อเสนอนี้ อยู่ที่ 5 โมงเย็น ตามเวลา EST ของวันจันทร์ นี้ เท่านั้น!
เราคงได้แต่รอดูว่า บทสรุปของนิยายน้ำเน่า ที่เร้าความรู้สึกยิ่งกว่าละครทีวีหลังข่าวเรื่องนี้
ว่าสุดท้ายปลายทางจะไปจบลงเอย กันอย่างไร ในวันอังคารที่จะถึงนี้
—————————–///——————————