รถหายใครก็อยากได้คืน ยิ่งไปแจ้งความแล้วเรื่องเงียบหายก็ยิ่งร้อนใจอยากหาวิธีให้ตำรวจช่วยหารถยนต์มาคืนเร็วขึ้น
เพราะยิ่งนานไป โอกาสที่จะได้รถคืนยิ่งน้อยลงทุกทีแต่ใช่ว่านั่นจะเป็นสาเหตุให้เจ้าทุกข์ถึงกับต้องโกหกเจ้าหน้าที่ว่า
มีเด็กติดไปในรถเพราะนอกจากไม่ได้ช่วยให้ได้รถคืนไวขึ้นแล้วเจ้าทุกข์จะกลายสภาพเป็นจำเลยเสียเอง
เรื่องมีอยู่ว่ามีคุณแม่นิรนามคนหนึ่งจากเมือง Baltimore รัฐ Maryland ประเทศสหรัฐอเมริกา วิ่งตาลีตาเหลือกไปแจ้งความ
กับตำรวจว่ารถของตนถูกขโมยไปจาก Harlem Avenue ในทางตะวันตกของ Baltimore ฟังดูแล้วนี่เป็นคดีโจรกรรมทั่วไป
แต่กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเพราะ เธอกลับแจ้งว่าโจรขโมยรถของเธอไปโดยที่ลูกเล็กของเธอนั้นยังอยู่ที่เบาะหลังด้วย
ทั้งนี้รายงานไม่ได้บอกว่าสาเหตุใดเธอถึงทำเช่นนั้น เหตุผลคงอยู่ระหว่างรถคันนั้นมีความหมายกับเธอมาก หรือ เธอไม่เชื่อว่า
ตำรวจจะช่วยตามหารถของเธอกลับมา
(ภาพประกอบบทความเนื้อหาข่าวเท่านั้น)
รถหายก็เรื่องหนึ่งแต่คดีลักพาตัวเด็กก็อีกเรื่องหนึ่งซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ทราบเรื่องก็แทบไม่ได้ตามหารถกันเลยเพราะต้องรักษา
ชีวิตคนไว้ก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ถึงกับประกาศขอความร่วมมือจากสาธารณชนให้ช่วยหาลูกชายของคุณแม่คนนี้ด้วย แต่ยังไม่ทัน
จะไปไหนเจ้าหน้าที่ก็พบว่าคุณแม่โกหกเพราะลูกชายเธอไม่ได้ไปไหนและมีชีวิตปกติสุขดีที่สถานที่ฝากเลี้ยงเด็กที่คุณแม่
เอาไปฝากไว้เองแต่แรก
สุดท้ายก็คดีพลิกเพราะเจ้าทุกข์รถหายได้กลายสภาพเป็นจำเลยข้อหาแจ้งความเท็จแล้วและในปัจจุบันก็ยังไม่มีรายงานว่า
เธอได้รถของเธอกลับคืนมาหรือไม่ โดยที่โฆษกตำรวจของประเทศ Baltimore T.J. Smith ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ทางเจ้าหน้าที่
ก็เข้าใจว่าของหายใครก็อยากได้คืนแต่สิ่งที่เธอทำลงไปนั้นไม่ใช่วิธีที่จะช่วยให้ได้รถคืนอย่างแน่นอนแถมจะยังโดนแจ้งข้อหา
แจ้งความเท็จอีกกระทงเสียด้วยซ้ำ
ที่มา : autoevolution