นับตั้งแต่การจับแบรนด์ Porsche เข้าเป็นหนึ่งใน Volkswagen Group อย่างเต็มตัว Porsche ก็อวดของดีให้พวกเราเชยชมกันเรื่อย ๆ หวังมัดใจลูกค้าจนสามารถทำยอดขายทะลุ 1 แสนคันต่อปีภายในปี 2018 ตามนโยบายบริษัทแม่ให้จงได้
Porsche Panamera S Hybrid คือไม้เด็ดที่หลายคนสามารถสัมผัสได้เพราะมันเป็นรถ Hybrid ที่ซุ่มวางแผนมานานมากถึง 3-4 ปีที่แล้ว และมันยังมาถูกจังหวะเสียด้วยเพราะ Panamera ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายและน่าจะกระตุ้นตลาดซีดานคูเป้ในกลุ่ม Super Niche Car ให้เติบโตยิ่ง ๆ ขึ้น
จุดเด่นของ Porche Panamera S Hybrid ก็คือการตั้งมาตรฐานใหม่ของรถทรงพลังและสามารถประหยัดพลังงาน ลดมลภาวะได้ในตัวด้วยขุมพลังที่ยกมาจาก Cayenne S Hybrid ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายใน V6 3 ลิตร 333 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 47 แรงม้า รวมกำลังก็กลายเป็น 380 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ Tiptronic S 8 จังหวะ
มอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่เป็นเจเนอเรเตอร์และสตาร์ทเตอร์ในตัว แต่น่าเสียดายที่ยังใช้แบตเตอรี่แบบนิเกิล เมทัล ไฮดรายอยู่
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6 วินาที ความเร็วสูงสุด 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถวิ่งในโหมดรถไฟฟ้าระยะทางสูงสุด 2 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 7.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร
รุ่นต่อมา Porsche Boxster E Prototype รถไฟฟ้าเปิดประทุนนำร่องด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวส่งกำลัง 245 แรงม้า เก็บพลังงานเข้าสู่แบตเตอรี่ที่กินพลังงาน 29 กิโลวัตต์ชั่วโมง อัตราเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง 5 วินาที ความเร็วสูงสุด 274 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ขณะนี้รถ Prototype คันดังกล่าวกำลังวิ่งทดสอบเก็บข้อมูลการใช้งานและพฤติกรรมผู้บริโภคอยู่ แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นไปประมวลผลขั้นพัฒนารถไฟฟ้ากันต่อไป ส่วนรถคันนี้จะถูกผลิตจำหน่ายจริงหรือไม่ ผู้บริหารไม่ยืนยันครับ