Porsche 911 Speedster เวอร์ชันพิเศษที่คิดนำชื่อสร้อย Speedster ที่เคยใช้ครั้งแรกกับ Porsche 356 รุ่นปี 1953 อันเป็นสัญลักษณ์รถเปิดประทุนสองที่นั่งสำหรับผู้ถวิลหาอารมณ์สปอร์ตเปิดรับสายลมสำหรับคนในยุคนนั้น
ปัจจุบันรถสปอร์ตเปิดประทุนก็ไม่ใช่ของใหม่ที่น่าตื่นเต้นนัก ยิ่งนานวันความล้ำหน้าของวิทยาการรถยุคใหม่ที่สามารถพัฒนาและผลิตได้หลากหลายจำนวนรุ่นมากขึ้นแม้รถหลาย ๆ คันจะอยู่ในเกรดรถราคาแพงถึงแพงมากก็ตาม
ดังนั้น Porsche จึงสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอีกลำดับด้วยการย้อนรำลึกตระกูล Porsche 365 Speedster อีกครั้งด้วยการจับ Porsche 911 มาใส่สียุค 50 ด้วยชื่อ Speedster อีกครั้งหนึ่ง
การปรับโฉม Porsche 911 Speedster ก็คือการนำเอาเอกลักษณ์ของ Speedster มาปรับใช้ ได้แก่ กระจกบังลมหน้าสั้นซึ่ง Porsche ก็จับเจ้า 911 เปิดประทุนดัดแปลงกระจกบังลมหน้าให้เตี้ยลง 60 มม., บริเวณเบาะหลังเพิ่มลูกเล่น Twin Bubble หรือลูกนูนขึ้นหลังพนักพิงเบาะทั้งสองตำแหน่ง, เพิ่มความกว้างตัวถังอีก 44 มิลลิเมตร, สาดสีตัวถังภายนอกสีฟ้า Pure Blue
เครื่องยนต์กลไกยกมาจาก Porsche 911 วางหลัง บล๊อก 6 สูบ 3.8 ลิตร 408 แรงม้า (HP) เพิ่มแรงม้าจาก Porsche 911 Carrera S อีก 23 แรงม้า มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 11.66 กิโลเมตรต่อลิตรซึ่งไม่ได้กินน้ำมันไปกว่ารุ่นพื้นฐานเลยแม้แต่น้อย ต้องขอขอบคุณ Porsche Intelligent Performance ที่ช่วยปรับจูนเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพได้
ในเมื่อมีเครื่องยนต์ที่ดีก็ต้องคู่กับเกียร์ที่ดีด้วยอย่างเกียร์ PDK ถ่ายทอดกำลังผ่าน Limited Slip สู่เพลาล้อหลัง รองรับความแรงด้วยระบบกันสะเทือน Porsche Active Suspension Management (PASM) และระบบเบรค Porsche Ceramic Composite Brakes (PCCB) อันเป็นระบบมาตรฐานความปลอดภัย รวมไปถึงมีการติดตั้ง Roll Over Bar ซ่อนเอาไว้หากกรณีรถกำลังจะพลิกคว่ำ
ส่วนอีกคันหนึ่งที่มาอวดโฉมในงานด้วยก็คือ Maserati กำลังจะเผยโฉมรถสปอร์ตระดับ Exotic ของตนที่ถึงขั้นเคลมเลยว่า เร็วที่สุด, เบาที่สุด และแรงที่สุดเท่าที่ Maserati เคยผลิตมา นั่นก็คือ Maserati GranTurismo MC Stradale ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Trofeo GranTurismo MC ซึ่งขนะการแข่งขัน GT4 Motorsport มาแล้ว
Maserati พรรณนาคุณงามความดีของรถคันนี้ไว้คร่าว ๆ ก่อนที่จะเปิดตัวว่ามันจะมีประสิทธิภาพการขับขี่ที่เฉียบคมดุจใบมีดโกนและยังสามารถขับขี่ด้วยความเร็วสูงถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยขุมพลัง 450 แรงม้า (HP)
แต่กว่าจะได้ยลโฉมเราก็ต้องรอถึงงาน Paris Motorshow 2010 เปิดเสียก่อน