ถ้าไม่บอกเราก็จะไม่นึกเลยว่าปีนี้มันจะเข้ารอบปีที่ 4 ของเอสยูวีทรงสวย Chevrolet Captiva เสียแล้ว นั่นคงเพราะเราคงไม่ได้ยินข่าวคราวหรือข่าวลือการปรับโฉมของรถคันนี้ในตลาดโลกเท่าไร หากนับนิ้วปีนี้ก็น่าจะเป็นปีแห่งการปรับโฉมตามอายุขัยครึ่งอายุตลาดของรถอย่างไม่น่าแปลกใจเท่าไร
Chevrolet Captiva ถือเป็นรถ 1 ขุนพลที่เริ่มมีวิธีพัฒนารถรุ่นใหม่ ๆ โดยใช้ฐานการพัฒนา GMDAT เกาหลีใต้เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนารถ GM ระดับโลกให้ได้ซึ่งสัมฤทธิ์ผลแล้วกับ Chevrolet Cruze ที่ยกมาตรฐานการพัฒนาของ GM ระดับโลกมาไว้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังนั้น Captiva Minorchange ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการพัฒนารถแบบใหม่เช่นเดียวกับ Cruze เช่นกัน
สำหรับเมืองไทย Chevrolet Captiva เริ่มแนะนำตัวสู่ตลาดในช่วงมิถุนายน 2007 ชูจุดเด่นความเป็นเอสยูวีที่มีราคาในช่วงระดับเดียวกับ Honda CR-V แต่มีฟีเจอร์ที่โดดเด่นกว่าชัดเจนได้แก่ มีที่นั่งตอนที่ 3 ติดตั้งจากโรงงานและมันก็พอนั่งได้ไม่แพ้รถมินิแวนนัก, ติดตั้งระบบยกบั้นท้ายอัตโนมัติเมื่อบรรทุกของหนักจนท้ายห้อย รวมไปถึงเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตรก็ตั้งราคาต่ำกว่าคู่แข่งและยังมีเครื่องดีเซลก็มีให้เลือกด้วยเช่นกัน
ช่วงแรกของการทำตลาดมียอดขายแซง Honda CR-V ได้สบาย ๆ เพราะเป็นรถใหม่และยังไม่มีคู่แข่งที่แข็งแกร่งนักประกอบกับ Honda CR-V เองก็เพิ่งเจอมรสุมความเชื่อมั่นไม่นานนัก แต่ระยะเวลาผ่านไป Honda CR-V ก็มียอดขายค่อย ๆ แซง Captiva ทีละน้อย ประกอบกับช่วงปี 2009 ความมั่นใจในแบรนด์ Chevrolet ตกลงอันเนื่องจากการประโคมวิกฤตเสี่ยงล้มละลายของ GM บริษัทแม่ก็ยิ่งทำให้ยอดขาย Captiva เหลือเพียงเฉลี่ยเดือนละ 150 คัน
แต่พอขึ้นปี 2010 ยอดขายในกลุ่มตลาดเอสยูวีและพีพีวีกลับมีความต้องการสูงขึ้นจนน่าประหลาดใจรถแทบทุกคันในตลาดนี้ขายดีขึ้น บางรุ่นขายดีขึ้นจนผิดหูผิดตา ได้แก่ Toyota Fortuner และ Mitsubishi Pajero Sport ที่มีอัตราขยายตัวเกือบ 1 เท่าตัว
ส่วนยอดขาย Captiva ในปี 2010 ก็ดีขึ้นมาก ๆ จนได้เฉลี่ยเดือนละ 300 คันและน่าจะทรงตัวระดับนี้หากไม่มีวิกฤตใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและราคาน้ำมัน ก็น่าเชื่อว่า GM Thailand ก็น่าจะต้องการ Captiva Minorchange เพื่อดึงยอดขายให้สูงขึ้นและมั่นคงไปเรื่อย ๆ แน่นอน
ความเคลื่อนไหวเริ่มชัดเจนขึ้นเมื่อทีมงาน GM ขับ Captiva Minorchange แล่นทดสอบไปยังที่ต่าง ๆ ในยุโรปถี่ขึ้นมากในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ แม้จะมีพลาสติกสีดำอำพรางใบหน้าของมันแต่หลายคนพอจะคาดเดาได้แล้วว่ามันต้องมาแนว AVEO RS Concept แน่ ๆ
และหลายคนก็คาดเดาไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย GM เลือกเกลาใบหน้า Captiva Minorchange แทบจะโขกมาจาก AVEO RS Concept อันเป็นสัญลักษณ์การออกแบบ Chevrolet ยุคใหม่กันมาเลย ด้วยรูปลักษณ์ด้านหน้าที่ดุดันขึ้นด้วยชุดกันชนหน้าที่รวมกระจังหน้าและช่องดักลมทรง 6 เหลี่ยมพร้อมแถบคาดกลางและติดสัญลักษณ์โบว์ไท, ปราดเปรียวขึ้นด้วยโคมไฟหน้าชุดใหม่ที่ดูเกรี้ยวกราดขึ้น
ส่วนรายละเอียดทางเทคนิคต่าง ๆ ที่ถูกเปลี่ยนแปลง เราก็มิอาจทราบได้ ส่วนภายในห้องโดยสารมีการยืนยันแล้วว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงวัสดุภายในและเพิ่มเติมอุปกรณ์มากขึ้น หากเป็นไปตามนี้จริงก็คาดว่าน่าจะต้องเปลี่ยนทรงพวงมาลัยในสไตล์ GM ยุคใหม่ก็เป็นได้
กำหนดเปิดตัวจะอยู่ในช่วงปลายปีนี้ที่ยุโรป จะวางจำหน่ายหลังจากนั้นไม่นานส่วนเมืองไทยนั้นต้องเสียใจด้วยที่ไม่ได้เห็นภายในปีนี้แน่นอน คงต้องเก็บเงินรอเอาไว้ให้มันเปิดตัวในปี 2011 จะดีกว่าครับ