องค์กร The International Energy Agency หรือ IEA อันเป็นองค์กรเกี่ยวกับการใช้พลังงานของคนทั่วโลก
ได้ประมาณการจำนวนรถยนต์ที่คนทั่วโลกใช้ และรายงานออกมาว่า ภายในปี 2035 โลกของเราจะมีรถยนต์วิ่ง
บนถนนสูงถึง 1.7 พันล้านคันเลยทีเดียว
สาเหตุหลักของการเพิ่มจำนวนแบบก้าวกระโดดนี้ อยู่ที่การเติบโตของตลาดรถยนต์ในประเทศใหญ่อย่างประเทศจีน
ที่ในช่วงปีหลังๆมานี้ มีความนิยมในการซื้อรถยนต์สูง และยังเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการเปรียบเทียบสถิติออกมาว่า
ในปี 2000 อัตราส่วนจำนวนรถยนต์ต่อประชากรในประเทศจีนอยู่ที่ 4 คัน/1,000 คน แต่ 10 ปีให้หลัง ในปี 2010
มีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 40 คัน/1,000 คน และในปี 2035 ประเทศจีนจะมีอัตราส่วนพุ่งสูงเป็น 310 คัน/1,000 คน
หรือกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า จำนวนรถยนต์ในประเทศจีนจะเพิ่มจาก 60 ล้านคันในปีนี้ เป็น 400 ล้านคันในปี 2035
อีกหนึ่งสถิติน่าสนใจมาจากประเทศอินเดีย เพราะเป็นอีกหนึ่งตลาดรถยนต์ที่เติบโตมาก โดยมีการคาดการณ์ว่า
ในปี 2035 รถยนต์ในประเทศอินเดียจะเพิ่มเป็น 160 ล้านคันเลยทีเดียว จากจำนวน 14 ล้านคันในปี 2011
นอกจากนี้ IEA ยังกล่าวอีกว่า ในปี 2035 รถยนต์ไฟฟ้าจะมีจำนวน 4% ของรถยนต์ทั้งหมด ในขณะที่รถยนต์ไฮบริด
จะได้รับความนิยมมากว่า 20% ของรถยนต์ทั้งหมด แต่รถยนต์แก๊สธรรมชาติ จะมีจำนวนเพียง 3%
มลภาวะ เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ IEA ให้ความสำคัญในการศึกษา โดยตั้งแต่ปี 1991 ถึงปี 2022 ได้มีจำนวนมลพิษสูง
ขึ้นถึง 50% และถึงแม้ว่าในปัจจุบันรถยนต์จะถูกพัฒนาให้ปล่อยก๊าซมลภาวะออกมาน้อยกว่าแต่ก่อนมาก แต่ด้วย
จำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นมหาศาลขนาดนี้ ก็ยังจะทำให้โลกของเรามีมลพิษสูงขึ้นแบบมหาศาลตามไปกันอยู่ดี
ภายในปี 2035 เรายังต้องเตรียมถนนเพื่อรองรับจำนวนรถยนต์ 1.7 พันล้านคันเหล่านี้อีกด้วย โดยมีการคำนวณว่า
เราต้องการถนนเพิ่มขึ้นอีก 10 ล้านไมล์ หรือประมาณ 16 ล้านกม.เลยทีเดียว